Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1705 –กรงเล็บมังกรทอง
บทที่1705 –กรงเล็บมังกรทอง
ตอนนี้แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ได้ออกแรงมากนักในแต่เขาก็สามารถสร้างพลังที่มหาศาลออกมาได้ พลังที่ออกมานั้นรุนแรงอย่างมาก มันสามารถสร้างความประทับให้ชิงสุ่ยอย่างมาก
มันพลังที่ออกมานั้นรุนแรงอย่างมากราวกับสามารถบดขยี้ทุกอย่างลงไปได้ในพริบ
ตูม!
เสียงที่นุ่มลึกและอ่อนโยนได้กระจายไปทั่วรอบๆบริเวณดังกล่าวหากมีคนอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาจะสามารถเห็นได้ถึงการเคลื่อนไหวของอากาศรอบๆตัวชิงสุ่ยได้อย่างชัดเจน มันเหมือนกระแสน้ำวนที่ไร้ที่สิ้นสุดหรือไม่ก็ดูคล้ายพายุหมุนขนาดใหญ่
การจู่โจมของกรงเล็บมังกรทองนั้นร้ายกาจอย่างมากและรุนแรงกว่าที่ชิงสุ่ยจะจินตนาการได้ ยิ่งหากว่ามันสามารถละการป้องกัน แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีอยู่น้อยนิด แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังอยู่ในจุดที่คาดหวังได้
ตูม!
ในเวลานี้ร่างกายของชิงสุ่ยยังคงเปล่งเสียงที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
หลังจากที่ชิงสุ่ยใช้ทักษะนั้นออกมาเขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก นั้นเป็นเพราะเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ราวกับว่าร่างกายของเขาทั้งหมดได้ประสานเข้ารวมกันได้เป็นหนึ่งเดียวกันยิ่งขึ้น
ความสำเร็จในขั้นเพิ่มพูน! novel-lucky
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเขาไม่เคยคิดมากก่อนว่าในเวลานี้ทักษะกรงเล็กมังกรทองของเขาจะสามารถเข้ามาถึงระดับเพิ่มพูนได้ในเวลานี้! ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ดำดิ่งลงไปในจิตสำนึกของเขาและกำลังสำรวจการเปลี่ยนแปลงของกรงเล็บมังกรทองคำในขั้นสมบูรณ์
กรงเล็บมังกรทองคำ: ขึ้นเพิ่มพูน สามารถมองข้ามการป้องกัน ของอีกฝ่ายได้10% นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมและผสานเขากับอาวุธต่างๆได้
เมื่อมองดูข้อความดังกล่าวชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ในตอนนี้เข้าสามารถใช้มันร่วมกับง้าวทองคำของเขาได้แล้ว ด้วยผลการผสานงานของทักษะกรงเล็บมังกรทองคำและง้าวทองของจะทำให้การจู่โจมของเขาไร้ที่ติ ในตอนนี้แม้แต่ผู้ครอบครองอาวุธแห่งเทพอสูรหรือพระเจ้าด้วยกัน ก็ยังยากที่จะรับมือกับการจู้โจมของเขา
ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมากและมีความมั่นใจมากขึ้นนี่ถือว่าเป็นทักษะขั้นสูงสุดของทักษะเลียนแบบสัตว์อสูรของเขา และมันยังเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดอีกด้วย ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในอนาคตเขาจะสามารถฝึกฝนได้จนไปถึงจุดสูงสุดของมันได้
…..
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชิงสุ่ยก็นึกถึงสาวงามในภาพโฉมงามคนสุดท้ายในเวลานี้มีสาวงามนั้นปรากฏตัวออกมาแล้ว11คน ยังขาดอยู่อีกหนึ่งคนซึ่งตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอยู่ที่ไหน และเธอนั้นมีตัวตนหรือไม่ อย่างไรก็ตามเขาต้องหาเธอให้เจอจนได้
เดิมทีชิงสุ่ยไม่รู้ว่าชิงห่านอี่นั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกับเจี้ยนเก้อ หลิงเหยียนและคนอื่น ซึ่งพวกเธอแต่ละคนก็ได้ถือครองกายาศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกันเอาไว้ มันทำให้ชิงสุ่ยสามารถคาดเดาได้ว่า หญิงสาวในภาพโฉมงานทั้งสิบสองนั้น ต้องเป็นตัวแทนของกายาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสอง
ในตอนนี้เมื่อเขากลับเข้ามาเจี้ยนเก้อก็ได้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้มีเพียงอาหารง่ายๆเท่านั้นที่เตรียมเอาไว้ หลังจากที่ชิงสุ่ยเข้ามาไม่นาน นายหญิงทั้งสองก็ได้เดินเข้ามาในไม่ช้า “ชิงสุ่ยเจี้ยนเก้อ ข้าได้ข่าวบางอย่างมาก แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าได้ยินมันแล้วหรือยัง?”นายหญิงกล่าว ขณะที่เธอเดินไปใกล้ๆ ชิงซิ่ว
“-ข่าวอะไรรึ?”ชิงสุ่ยถามออกมา
“คนของเราพบสัตว์อสูรโบราณพยัคฆ์ราชสีห์นรก ในทะเลสาบแสนลี้” เธอกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“พยัคฆ์ราชสีห์นรก?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความตกตะลึงการมีอยู่ของสัตว์อสูรโบราณ นั้นเป็นดังตำนาน พวกมันมีอยู่เพียงแค่ในบันทึกเท่านั้น มันจึงไม่แปลกใจเลยที่ชิงสุ่ยจะตกใจเมื่อได้ยินชื่อของมัน แม้แต่นายหญิงก็ยังตื่นเต้นเมื่อกล่าวเรื่องนี้ออกมา
นอกจากนี้สัตว์อสูรโบราณยังมีมุกอสูรและแก่นแท้อสูรที่แข็งแกร่งอยู่ภายใน พวกมันสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้บ่มเพาะได้อย่างมากมายและถาวร แม้จะไม่มากแต่มันก็ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บ่มเพาะอย่างยิ่ง ในบางกรณีมันยังสามารถช่วยให้ผู้บ่มเพาะทะลายคอขวดของพวกเขาได้อีกด้วย นอกจากนี้มันก็ยังไม่เป็นสิ่งของล้ำค่าที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยตัวเงิน แม้ว่าจะมีเงินทองมากมายขนาดไหน
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หายากอย่างมากและคุณค่าของมันก็แตกต่างกันตามคุณภาพของมัน ยิ่งสัตว์อสูรโบราณนั้นมีพลังมากเท่าไร คุณค่าของแก่นแท้ของมันก็ยิ่งมีมูลค่าเท่านั้น อย่างไรแก่นแท้เหล่านี้มันก็ถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการปรุงยาเมื่อที่จะดึงเอาศักยภาพของมันออกมาให้ได้มากมายที่สุด
”มันนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนพวกเราสามารถล้มมันได้หรือไม่” ชิงสุ่ยหันไปมองเธอและถามอย่างมีความหวัง
”อย่างน้อยก็ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลายอย่างไรก็ตามทักษะสังหารสวรรค์ของมันก็รุนแรงกว่าคนทั่วไปสองถึงสามเท่า ข้าก็ไม่มั่นใจว่าพวกเราทั้งหมดจะรับมือกับมันได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเราก็ต้องจัดการกับมัน”เธอกล่าวขณะหันไปมองชิงสุ่ย
”แล้วเราจะไปจัดการกับมันเมื่อไรดี”เจี้ยนเก้อยิ้มและถาม
”พรุ่งนี้แต่เจี้ยนเก้อ เจ้านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป เจ้ายังไม่ฟื้นตัวเลย อีกอย่างเจ้าต้องดูแลลูกของเจ้าด้วย” นายหญิงหัวเราะและกล่าว
เช่นเดียวกันดูเหมือนว่าชิงสุ่ยและมู่หยุ่นชิงจะเป็นด้วยกับคำพูดของนายหญิงในตอนนี้