Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1710 - การมาถึงของตระกูลคลื่นจันทรา
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1710 - การมาถึงของตระกูลคลื่นจันทรา
บทที่1710 – การมาถึงของตระกูลคลื่นจันทรา
ตระกูลคลื่นจันทรา!
ชิงสุ่ยตกตะลึงอย่างมากแม้เขาจะไม่ค่อยมีข้อมูลของพวกเขามากนัก แต่เขาเคยได้ยินชื่เสียงของพวกเขาอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากถ้ำวารีจันทรา และตระกูลคลื่นจันทรา นั้นมีชื่อเสียงในความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน พวกเขาเป็นขุมอำนาจที่มิอิธิพลในเมืองแห่งนี้
“เดี๋ยวก่อน!” ชิงสุ่ยมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังเหาะลงมา novel-lucky
“โอ้ มีอะไรรึ?” ชายหนุ่มกำลังมองไปที่หน้าของชิงสุ่ยด้วยท่าทางสงบ และแสดงออกถึงความสงบนิ่ง
“ที่เจ้าพูดมันหมายความอย่างไร ทำไมเจ้าถึงขอบคุณข้าด้วยละ? “ชิงสุ่ยถามในทันที
ไม่มีทางที่ชิงสุ่ยไม่ได้รู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นหมายถึงอะไรแต่เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะขโมยผลงานของคนอื่นแบบนี้
ชายผู้คนนั้นประหลาดใจเล็กน้อยแน่นอนเขาไม่คิดว่าชิงสุ่ยจะไม่รู้ความหมายที่เขากล่าวออกไป อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ดีถึงจุดประสงค์ที่ชิงสุ่ยมาที่นี่
“เจ้าหนุ่มคนเราต้องรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อที่จะให้สามารถมีชีวิตรอดออกไป” เขาพูโออกมาด้วยท่าทางสูงศักดิ์
เมื่อชิงสุ่ยได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวเขาก็หันหน้ามองผู้หญิงสามคนที่อยู่ข้างๆเขาและยิ้มออกมา
“แล้วสิ่งที่เจ้าทำ โดนการมาแย่งผลงานของคนอื่นมนตอนนี้ มันเป็นสิ่งดีอย่างนั้นรึ ข้าละสงสัยจริงๆว่าคนตระกูลคลื่นจันทรานั้นมีเกียรติบ้างรึไม่” ชิงสุ่ยยิ้มเย้าะ สีใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปมันเป็นความจริงที่ว่าตระกูลคลื่นจันทรานั้นเป็นตระกูลที่หยิ่ง่ในศักดิ์ศรีอย่างมาก ได้รับความนับถือจากผู้คนมากมาย มีไม่มีใครในภูมิภาคนี้ที่ไม่ให้ความเคารพพวกเขา และไม่ให้เกียติพวกขา
“เจ้าหนุ่ม ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ผลลัพธ์ ในสิ่งที่เจ้ากล่าวออกมา เจ้ามั่นใจรึว่าเจ้าจะสามรถแบกรับมันไว้ได้” แม้ว่าเขาจะโมโหในตอนนี้แต่เขาก็ยังกล่าวออกมาอย่างสงบนิ่ง
“ฮ่าฮ่า เจ้าก็เป็นแค่คนอ่อนแอที่พึ่งพาชื่อเสียงของตระกูล มีอะไรรึที่ข้าต้องกังวล สิ่งที่ออกมาจากปากของนั้นเป็นเพียงขยะเท่านั้น ข้าส่งสัยจริงๆหาไม่มีชื่อตระกูลแบบอยู่ข้างหลังเจ้าจะมีความสามารถอะไรบ้าง” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างไม่ใสใจ ในตอนนี้เขามั่นใจพลังของตัวเองอย่างมาก
ในตอนนี้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปโดนสิ้นเชิงตั้งแต่ตอนที่เขาเด็กจนโตมาถึงทุกวันนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสภายในตระกูลเขาก็ไม่กล้าพูดเช่นนี้กับเขาเลย นอกจากนี้ในคนรุ่นเดียวกับเขาเขาก็ถือได้ว่าเป็นอัจริยะคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องจริงๆที่เขานั้นแข็งแกร่งและเติบโตมาได้จนถึงปัจจุบันนี้เป็นเพราะตระกูลของเขา ทำให้เรื่องนี้เป็นปมในใจของเขาเสมอมา
หากเป็นคนปกติทั่วไปเขาคงจะไม่มีปฏิกิริยาอะไร เพราะเขาคงไม่สนใจคนที่ด้อยกว่า แต่เขารู้สึกว่าชิงสุ่ยนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเหล่านั้น และเขาก็รู้ดีชิงสุ่ยนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านี้เขาก็คิดว่าชิงสุ่ยเองคงจะมีภูมิกลังที่แข็งแกร่งมิเช่นนั้นเขาคงไม่กล้าท้าทายตระกูลคลื่นจันทราด้วยตัวเองหากปราศจากคนหนุนหลัง
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงกล้าสามหาวเช่นนี้? เจ้าก็เป็นแค่กบที่อยู่ก้นบ่อเท่านั้น เจ้าคิดว่าจริงๆเพียงเพราะเจ้ามีความสามารถนิดหน่อย เจ้าจะสามารถทำอะไรก็ได้อย่างนั้นรึ? วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าเจ้าอ่อนแอแค่ไหน” ชายหนุ่มจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความดูถูก
“ฮ่าๆ ในตอนนี้เจ้าดูเหมือนลูกผู้ชายขึ้นมาบ้างแล้ว”
“คุณชายโปรดระวังเขาดูมีท่าทีแปลกๆ”ชายชราที่อยู่ใกล้ไกล่าวออกมา
“ท่านลุงเจ็ดปล่อยให้ข้าทำเถอะ”
เขานั้นรู้สึกโมโหอย่างมากกับการกระทำของชิงสุ่ยและเมื่อยิ่งเห็นท่าทางของชายชรามันนิ่งทำให้เขาโมโหอย่างมาก ราวกับเขาเป็นเด็กในสายตาของพวกเขาในเวลานี้
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าฮวงหวู่ และเป็นทายาคนสุดท้องของฮวง กุ๋ยหลางแห่งตระกูลคลื่นจันทรา ซึ่งเป็นทายาทสายหลักของตระกูล
“จริงๆแล้วไม่ว่าเจ้าจะมาจากที่ไหน มันก็ไม่สำคัญ หากเจ้ายังแอบอยู่หลังผู้อื่นเจ้าก็จะไม่มีทางเติบโต”ชิงสุ่ยกล่าวออกไปโดยไม่แยแส
“หึหึ จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ยังไงซะเจ้าก็ไม่มีทางชนะหรอก” ฮวงหวู่กล่าว
“แล้วหาเจ้าแพ้ละ?” ชิงสุ่ยยิ้มออกมา
“พวกข้าจะจากไป และพวกเราสัญญาว่าข้าจะไม่ขัดขวางพวกเจ้า ” ฮวงหวู่กล่าว
“ข้าหวังว่าจะรักษาคำพูดของเจ้า มิฉะนั้นเจ้าจะนำความอับอายมาสู่ตระกูลคลื่นจันทราของเจ้า”
ชิงสุ่ยรู้ว่าถ้าฮวงหวู่พ่ายแพ้ตระกูลฮวงของพวกเขาจะต้องกลับแก้แค้นอย่างแน่นอน เขาจึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา เขาแค่หวังว่าวันนี้เขาจะไม่ได้สร้างศัตรูเพิ่มเท่านั้น เพราะในตอนนี้ เขายังมีเป้าหมายหลักที่จะต้องจัดการก็คือถ้ำวารีจันทรา
“เจ้าอย่าได้ประมาท ตระกูลคลื่นจันทรา พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา”
ชายคนนั้นหยิบอาวุธออกมานี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นอะไรเช่นนี้ เช่นเดียวกันชิงสุ่ยได้เรียกง้าวทองออกมาในมือของเขาก่อนทที่จะโคจรพลังทั้งหมดออกมาในพริบตาโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ทันตั้งตัว