Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1713 - ตระกูลหยวน แผนการกระจอก
บทที่1713 – ตระกูลหยวน แผนการกระจอก
เจตนายั่วยุเห็นเด่นชัดภายใต้คำพูดที่แข็งแกร่งเท่านั้นมันคงจะดีถ้าเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา แต่คนธรรมดาจะมาที่นี่ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายการต่อสู้ของชายคนนั้น แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าเขา แต่ก็ถือว่าทรงพลังในระดับหนึ่ง
”ข้าชีเติ่งพอดีข้าผ่านมาจึงถือวิสาสะเข้ามาในงาน”ชายร่างผอมมองชิงสุ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม
”โอ้ถ้าเจ้าอยู่ที่นี้ก็ถือว่าเจ้าเป็นแขกของข้า”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับ
ความตั้งใจของชิงสุ่ยยังคงชัดเจน”แม้เจ้าจะไม่ได้รับเชิญ แต่เมื่อเจ้าอยู่ที่นี้แล้ว เจ้าก็ถือเป็นแขกของข้า เช่นนั้นก็จงทำตัวเหมือนเป็นแขกคนหนึ่งแล้วกัน”
ผู้คนรอบตัวเริ่มพูดจาต่างๆนาๆ
”ที่โต๊ะนั้นแก้ปัญหาอะไรขึ้น?ทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น? สงสัยจะไม่กลัวตาย”
……………………………
ชิงสุ่ยไม่อยากสร้างปัญหาใดๆวันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองอายุลูกของเขา อารมณ์ที่ดีที่สุดควรจะเป็นอารมณ์ที่มีความสุข หากเกิดอะไรขึ้น เขาค่อยกลับไปจัดการภายหลัง ฉะนั้นเขาจึงไม่สนใจคำพูดของฝั่งตรงข้ามและไม่รู้สึกโกรธแค้นอะไร
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและไม่สนใจที่จะตามหาเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมชายผู้นั้นถึงพยายามสร้างปัญหาให้กับเขา เขาเองก็ไม่มีความทรงจำใดๆเกี่ยวข้องกับชายคนนี้มาก่อนเลย หรือชายคนนี้ได้รับการไว้วางใจผู้อื่นให้มาสร้างความวุ่นวาย
ชิงสุ่ยไม่คิดว่าเป็นคนถ้ำคลื่นจันทราแต่เขาก็หาเหตุผลรองรับชายคนนี้ไม่ได้เลย และไม่รู้ว่าใครส่งชายคนนี้มา
”เมื่อเจ้ายอมรับว่าพวกเราเป็นแขกเหตุใดเจ้าในฐานะเจ้าบ้านกลับไม่คิดมาดูแลแขกเลย ทำไม? หรือเจ้าดูถูกเหยียดหยามพวกเรา? “ชายร่างผอมจ้องมองชายคนนั้นขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าชายคนนี้อยู่เพื่อสร้างปัญหาชิงสุ่ยก็เริ่มขมวดคิ้ว เขาไม่อยากให้งานเลี้ยงครั้งนี้เต็มไปด้วยอารมณ์บูดบึ้ง เขาจึงมองไปที่ชายคนนั้นก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “เราไม่เคยพบกันมาก่อน และข้าก็ไม่ได้อยากหาเรื่อง แต่โปรดตอบคำถามข้ามาเถิดว่าใครส่งเจ้ามา?”
”ฮ่าฮ่า ฮ่า ใครส่งข้ามางั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าบังคับข้าได้รึ?”ชายร่างผอมระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมระเบิดพลังขณะที่ใบหน้าค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
ฮ่า!ฮ่า!! ฮ่า!!! ฮ่า!!!!!
เสียงหัวเราะของเขายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆและใบหน้าของเขาก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆชิงสุ่ยรับรู้ได้ว่าภายใต้ลมหายใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสน และพลังที่กำลังแผ่ซ่านออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชิงสุ่ยการตัดสินใจทำอะไรเสียงหัวเราะของชายคนนั้นก็หยุดลง
ตายยยยย!!
ตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแล้วเขามองดูชายคนเดิมที่เงียบสนิทไป ทันใดนั้นกลุ่มคนอีกโต๊ะนึงก็ลุกขึ้นยืน “นายน้อย นายน้อย มันเกิดอะไรขึ้น?”
ตอนนี้ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าทุกอย่างทุกวางแผนเพื่อให้เขาตกเป็นเป้าหมายในโลกที่เต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่ง จะมีคนใช้แผนโง่ๆง่ายๆเช่นนี้อีกหรือ?
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็นึกถึงคำพูดของชายก่อนหน้า”ใครส่งข้ามางั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าบังคับข้าได้รึ?”
ชิงสุ่ยหรี่ดวงตาพร้อมขมวดคิ้วขณะเดียวกันชายที่ดูเป็นสุภาพบุรุษที่นั่งโต๊ะด้านข้างขนลุกขึ้นยืนและจ้องเขม่งมาที่ชิงสุ่ย “เจ้าบังอาจสังหารนายน้อย เจ้าเตรียมตัวรอคอยการแก้แค้นจากตระกูลหยวนได้เลย!!”
ตระกูลหยวน?
ชิงสุ่ยเริ่มจำข้อมูลความสัมพันธ์ลางๆได้แต่ก็สงสัยอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกเขาเริ่มปลูกความสัมพันธ์กับชิงห่านอี่ จึงทำให้เกิดปัญหากับถ้ำวารีจันทรา และไม่นานนักเขาก็ข้ามมาติดต่อกลับถ้ำคลื่นจันทราซึ่งมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเล็กน้อย
แล้วตอนนี้ยังมีการปรากฏตัวของตระกูลหยวนซึ่งเป็นตระกูลที่โดดเด่นภายในน่านน้ำมหาสมุทร ตระกูลแห่งนี้คือตระกูลมรดกตกทอดโบราณ กล่าวกันว่าบรรพบุรุษของตระกูลนี้คืองูยักษ์ที่กลืนกินเผ่ามังกรเข้าไป จึงทำให้ภายในตระกูลได้รับสืบทอดสายเลือดที่อันตราย และอัดแน่นไปด้วยพลังความแข็งแกร่งอันน่าประหลาด
ตระกูลหยวนไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับคนของถ้ำวารีจันทราและถ้ำคลื่นจันทราแล้วด้วยพลังสายเลือดตะกูลหยวน จึงไม่ค่อยมีใครกล้ารุกรานตระกูลหยวน ชิงสุ่ยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหยวนเลยแม้กระทั่งการพบปะกันมาก่อน
”ตระกูลหยวนข้าไม่เคยพบเจอใครจากตระกูลหยวนของพวกเจ้ามาก่อนเลย พวกเจ้า0งใจทำเช่นนี้ใช่หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มไม่มีความสุข novel-lucky
เขารู้เจตนาของคนกลุ่มนี้อย่างชัดเจนเขาจึงจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้คนด้านข้างรับรู้ พลังคำพูดที่สร้างข่าวลือได้คือสิ่งที่เขาโปรดปราน หลักการของชิงสุ่ยเป็นสิ่งง่ายๆ หากอีกฝ่ายไม่เดือดร้อนโอกาสตอบโต้ก็ไม่เกิด คนเราถึงต้องมีเหตุผลในการทำเสมอ
”จงใจ?เจ้ากำลังจะบอกว่าพวกเราจงใจเล่นตลกกับชีวิตนายน้อยงั้นรึ? ตอนนี้นายน้อยของพวกเราก็ตายไปแล้ว พวกเราจะรักษาชีวิตในน้อยได้อีกงั้นหรือ? พี่น้อง ชายคนนี้ทำให้นายน้อยของเราต้องตาย!! พวกเราจะต้องล้างแค้นให้กับนายน้อย!!”ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็มองเห็นเศษความเย็นชาที่ซ่อนอยู่ในสายตา
”เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้กันแน่”ชิงสุ่ยคิดวิเคราะห์
”เช่นนั้นเจ้าก็จงอธิบายสาเหตุว่าสิ่งใดเป็นสาเหตุทำให้นายน้อยของเจ้าตาย?”ชิงสุ่ยกล่าว
ชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยนคนนั้นมองไปที่จอกสุราใบที่ผู้ตายดื่มทุกอย่างเหมือนถูกจัดเตรียมเอาไว้ เขาหยิบเข็มสีเงินออกมาแล้ววางลงไปในจอกสุรา ในชั่วพริบตาเข็มสีเงินก็ปฏิกิริยาก่อให้เกิดฟองสีดำลอยขึ้นมาภายในน้ำสุรา
”สุรานี้มีพิษ!!”
ผู้คนโดยรอบเกิดความปั่นป่วนอลหม่าน
”เจ้าเอาแต่กล่าวอยู่ฝ่ายเดียวตระกูลหยวนของข้ามีความบาดหมางอะไรกับเจ้า? ถึงทำให้เจ้าใช้วิธีต่ำทรามลอบสังหารนายน้อยของเรา” ก่อนที่ชายผู้นั้นจะกล่าวจบร่างกายของชายร่างผอมและดูอ่อนแอก่อนหน้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการติดพิษในกระแสเลือดที่รุนแรง
วิธีการที่ถูกใช้เป็นวิธีการเด็กๆชิงสุ่ยคาดเดาได้ทันทีเลยว่าชายที่เป็นคนโต้เถียงกับเขาจะต้องเป็นคนวางยาพิษในสุรานั้น
แต่ชิงสุ่ยก็ยังไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเลือกแผนการแบบนี้
เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามามุงดูเพราะกับชายชราคนหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้นำกลุ่ม รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนโยนเมื่อมองเห็นร่างสีดำนั้นร่างกายก็สั่นเครือเพราะความหวาดกลัว “นายน้อยที่สาม หยวนตง……”
”บอกมา ใคร ใครทำให้นายน้อยต้องตาย?”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแข็งกร้าว
ชิงสุ่ยประเมินชายชราและกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังเขานอกเหนือจากชายชรา 1 คนและชายวัยกลางคนทั้ง 3 นอกนั้นล้วนเป็นเด็กหนุ่ม แต่ต่อให้เรียกว่าเด็กหนุ่ม คนเหล่านี้ก็ยังคงแก่กว่าชิงสุ่ย
”เขาคือคนวางยาพิษนายน้อย!!”ชายคนในกลุ่มชี้ไปที่ชิงสุ่ย
ชายชราเหลือบมองชิงสุ่ยก่อนที่จะหันกลับไปมองชายหนุ่มดวงตาของเขาเหมือนใบมีดที่แหลมคมกำลังตัดเฉือนร่างกายชายหนุ่มคนนั้น
แม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามรักษาอาการแต่ความกระวนกระวายก็เห็นได้ชัด เขาหวาดกลัวสายตาของชายชรา แต่ก็ไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงใดๆ เพราะถ้าหากเขาแสดงความอ่อนแอ เขาคงจะต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมมันเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
หลังจากนั้นครู่หนึ่งชายชราก็เลิกจ้องมองชายหนุ่ม มันทำให้ชายหนุ่มคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ชายชราหันกลับมามองชิงสุ่ย”เจ้าเป็นคนลอบสังหารหลานชายของข้าจริงๆรึ?”หนุ่ม แต่ต่อให้เรียกว่าเด็กหนุ่ม คนเหล่านี้ก็ยังคงแก่กว่าชิงสุ่ย
”เขาคือคนวางยาพิษนายน้อย!!”ชายคนในกลุ่มชี้ไปที่ชิงสุ่ย
ชายชราเหลือบมองชิงสุ่ยก่อนที่จะหันกลับไปมองชายหนุ่มดวงตาของเขาเหมือนใบมีดที่แหลมคมกำลังตัดเฉือนร่างกายชายหนุ่มคนนั้น
แม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามรักษาอาการแต่ความกระวนกระวายก็เห็นได้ชัด เขาหวาดกลัวสายตาของชายชรา แต่ก็ไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงใดๆ เพราะถ้าหากเขาแสดงความอ่อนแอ เขาคงจะต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมมันเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
หลังจากนั้นครู่หนึ่งชายชราก็เลิกจ้องมองชายหนุ่ม มันทำให้ชายหนุ่มคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ชายชราหันกลับมามองชิงสุ่ย”เจ้าเป็นคนลอบสังหารหลานชายของข้าจริงๆรึ?” ”พวกเราไม่เคยพบกันมาก่อนและข้าก็ไม่รู้จักพวกเจ้า ฉะนั้นเจ้าช่วยบอกเหตุผลดีๆกับข้าสักข้อว่าทำไมข้าถึงต้องลงมือสังหารเขา?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยท่าทางสงบนิ่ง