Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1729 - จดหมายตระกูลหยวน
AST
บทที่1729 – จดหมายตระกูลหยวน
”ปล่าววววววทำไมเจ้าถึงคิดเช่นนั้นล่ะ?”ชิงสุ่ยสวมกอดเธออย่างแนบแน่น
”ก็เจ้าดูแตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อน”อี้เย่เจียนเก้อยิ้มขณะกล่าว
”เมื่อวันเวลาผ่านไปข้าก็ยิ่งคิดถึงเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าต่างหากที่ควรจะถามตัวเองว่าทำไมเจ้าถึงมีเสน่ห์มากมายถึงเพียงนี้? เจ้าอยากให้ข้าย้ำเตือนเรื่องราวครั้ง……..”
”หยุดเลย”อีเย่เจี้ยนเก้อปิดปากของชิงสุ่ยชิงสุ่ยถือเป็นคนที่ซุกซน เขามักจะเรียกร้อง หาวิธีถอดเสื้อผ้าของเธอ
”เข้าใจละข้าจะไม่พูดถึงมัน แต่ตอนนี้ข้าจะลากนางฟ้าให้ตกลงจากสวรรค์ เจ้าหนูน้อยลูกพ่อ เจ้าต้องดูแลตัวเองก่อนนะ เดี๋ยวพ่อขอทำภารกิจให้เสร็จสิ้นก่อน”ชิงสุ่ยอุ้มอีเย่เจี้ยนเก้อขึ้นไปบนเตียง โดยปกติแล้วในเวลากลางคืนอีเย่เจี้ยนเก้อจะนอนร่วมผ้าห่มเดี๋ยวกับชิงซิ่ว
”ชิงสุ่ยพี่ชิงเฉินและห่านอี้ต่างก็ชอบเจอ เจ้าจะพาพวกนางมาอยู่ด้วยหรือไม่?”อีเย่เจี้ยนเก้อเอนกายลงบนหมอน ร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอถูกผ้าห่มปกคลุมเอาไว้
”ในที่สุดพวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วทำไมเจ้าถึงพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาล่ะ? เจ้าจะใจกว้างเกินไปแล้ว”ชิงสุ่ยเอนตัวพิงหมอนใบเดียวกับอีเย่เจี้ยนเก้อ
”ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียวถ้าหากว่าเจ้ามีข้าเป็นภรรยาเป็นแค่คนเดียว ข้าคงตอบสนองความต้องการของเจ้าได้ไม่มากพอ ข้าคงไม่อาจช่วยเจ้าปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดที่มีในร่างกายของเจ้าได้”อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวในลักษณะกึ่งตลกกึ่งจริงจัง
”ไม่มีใครคนใดไม่ชายตามองหญิงโฉมงามลึกๆในใจของข้า ข้าเองก็รู้สึกผิดมาตลอด แต่ถ้าหากข้าเจอคนอย่างเจ้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด มันเหมือนตอนที่ข้าได้เจออาจารย์อีเย่เจี้ยนเก้อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ชิงสุ่ยจองมองอีเย่เจี้ยนเก้อพร้อมหัวเราะเบาๆ
”เจ้านี้มัน…….ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าเรียกข้าว่าอาจารย์อีก”อีเย่เจี้ยนเก้อเขินอายขระจ้องมองชิงสุ่ย
…………………………………
เมื่อถึงตอนเที่ยงคืนชิงสุ่ยก็ลุกขึ้นยืนและออกมาจากห้องอย่างเงียบๆ ปล่อยให้อีเย่เจี้ยนเก้อหลับต่อไป
เข้ากลับเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะทันทีตอนนี้ความแข็งแรงของเขากำลังคืบหน้าอย่างช้าๆ ฉะนั้นเขาก็ไม่ควรปล่อยเวลาที่ดีแบบนี้ให้เสียเปล่า เขาต้องการความแข็งแกร่งแล้วยังคงต้องการมันในทุกๆวัน
หลังจากที่เขาฝึกฝนเสร็จสิ้นเขาก็ถูกดินแดนหยกยุพราชอมตะขับไล่ออกมา เพื่อให้เขาได้ออกมาเพลิดเพลินกับอากาศยามเช้า novel-lucky
อีเย่เจี้ยนเก้อลุกขึ้นจากเตียงนอนในชุดนอนสีขาวเธอเดินตรงเข้ามาก่อนชิงสุ่ยจากข้างหลัง “เจ้ามาทำอะไรตรงนี้?”
ชิงสุ่ยหันหลังและยื่นมือออกมาโอบเอวของเธอจากนั้นก็ยกเธอขึ้นมานั่งบนตัก เขาเริ่มถอดเสื้อผ้าจากด้านหน้า และค่อยๆก้มศีรษะลงเพื่อจูบริมฝีปาก ก่อนจะขยับเข้าใกล้ภูเขาหิมะทรงโต
”เดี๋ยวเถิดสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังไม่พอใจเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ…………”
ชิงสุ่ยเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเธอมันทำให้จิตใจของเขารู้สึกสบาย จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองหญิงสาวแสนสวยที่กำลังแสดงท่าทีเขินอาย เขาเลียริมฝีปาก มันเป็นการกระทำที่ทำให้อีเย่เจี้ยนเก้อรู้สึกเขินอายเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
…………………………
1สัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว สุ่ยหยุนเฟิงเดินทางมาที่พระราชวังอาทิตย์อัสดงเพื่อสังสรรค์กับชิงสุ่ย เพราะหลังจากที่เขารู้ว่าชิงสุ่ยพึ่งมีทายาท เขาก็รีบนำเครื่องหยกมาเป็นของรับขวัญหลาน มันเป็นเครื่องหยกอันแสนมีค่า
แต่ชิงสุ่ยก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสุ่ยหยุนเฟิงถึงรีบมาหาเขาทั้งๆที่หลังจากการรักษา เวลาผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว “ข้าไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าหลังจากเวลาผ่านไปแค่ 1 สัปดาห์”
”ข้าหยุดความกระหายราคะอย่างสมบูรณ์แต่มันทำให้ข้ารู้สึกอึดอัดยากเกินกว่าจะควบคุม ข้าจึงมาหาเจ้า”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก
ชิงสุ่ยกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าของสุ่ยหยุนเฟิงที่จริงแล้วสำหรับผู้ชายมันคือความทรมานอย่างมาก เพราะเขาต้องอดทนอดกลั้นเมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าหญิงสาวโฉมงาม มันคือไฟราคะ
”หลังจากที่ข้าได้ฟังเตือนของเจ้าทางที่ดีที่สุดของข้าคือการซ่อนตัวเป็นเวลา 6 เดือน แล้วค่อยกลับไปหาพวกเธอหลังจาก 6 เดือนผ่านไป” สุ่ยหยุนเฟิงกล่าว
”จริงๆแล้วข้าไม่ได้บอกให้เจ้าเป็นความกระหายอย่างถาวร ข้าแค่บอกให้เจ้าควบคุมปริมาณเท่านั้น”ชิงสุ่ยยิ้มขณะจ้องมองสุ่ยหยุนเฟิง
”มันคงจะเป็นการดีที่สุดหากข้าหยุดไฟราคะของข้าเพื่อให้อาการบาดเจ็บหายขาดข้าโชคดีจริงๆที่มีน้องชายเช่นเจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าก็อยากจะขอบคุณเจ้า ถ้าหากไม่มีเจ้า ข้าคงต้องโศกเศร้าไปจนตาย”สุ่ยหยุนเฟิงส่ายหน้าขณะตอบ
”6เดือน อาจจะไม่นานมากแต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจของเจ้าแล้ว”ชิงสุ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ
”โลกของเราแบ่งออกเป็นหยินและหยางแต่ละสิ่งจะเชื่อมโยงออกไปสู่ธาตุทั้ง 5 หากเรารวมมันเข้าด้วยกัน ทุกอย่างก็จะก่อกำเนิดใหม่ ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงไม่มีมากเกินหรือน้อยเกิน เจ้าไม่ควรขาด แต่ก็ไม่ควรหมกมุ่น ทำอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม มันย่อมดีต่อตัวเจ้าเอง”
ด้วยคำพูดของชิงสุ่ยสีหน้าของสุ่ยหยุนเฟิงก็เต็มไปด้วยความสุข ก่อนที่เขาจะจากไปเขาจึงเกิดคำถามสุดท้าย “แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าควรทำไม่เกินวันละกี่ครั้ง?”
”เจ้าจะต้องห้ามทำเกิน3 ครั้งต่อวันเด็ดขาด”
สุ่ยหยุนเฟิงประหลาดใจอย่างมากเพราะปกติแล้ว จำนวนครั้งสูงสุดที่เขาเคยทำก็ไม่เคยเกิน 3 ครั้งต่อวัน ดังนั้นเขาจึงคลายกังวลอย่างเต็มที
เมื่อหายห่วงเขาจึงบอกลาชิงสุ่ยและจากไปทันที
………………..
อีก2 วันผ่านไป วันนี้เป็นวันที่มีจดหมายของตระกูลหยวนส่งมาถึง ในจดหมายได้อธิบายเรื่องราวที่ชิงสุ่ยจะต้องรับผิดชอบเอาไว้