Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1734 - คำพูดเหยียดหยาม พร้อมยอมรับความตาย
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1734 - คำพูดเหยียดหยาม พร้อมยอมรับความตาย
AST
บทที่1734 – คำพูดเหยียดหยาม พร้อมยอมรับความตาย
”สวัสดีข้าคือเหยียน สือหยุน”จ้าวอสูรแดนสมุทรพยักหน้าให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะหน้าด้านเขายังกล้าแสดงความมั่นใจแล้วพูดด้วยความจองหองเหมือนกำลังดูถูกคนยากจน
”ไม่ทราบว่าเจ้าต้องการอะไรจากข้า?”สีหน้าการแสดงออกของชิงสุ่ยยังคงเหมือนเดิมไม่มีทั้งความเกลียดชัง และไม่มีทั้งความเป็นมิตร
”หญิงสาวทั้งสองคนคือผู้หญิงของเจ้าใช่หรือไม่?”จ้าวอสูรแดนสมุทรไม่ได้อยากรู้ชื่อของชิงสุ่ย สิ่งที่เขาอยากรู้คือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวทั้งสองคน หากไม่เกี่ยวข้องกัน เขาก็จะได้ไม่ต้องเปลืองมือทำอะไรให้มันยุ่งยาก แต่ถ้าหากมีความสัมพันธ์กัน เขาก็จำเป็นต้องกำจัดชิงสุ่ยทิ้ง
”พวกเราคือผู้หญิงของเขา”ประมุขพระราชวังสุริยาตอบกลับทันที
มูหยุนชิงเก้อยิ้มขณะมองดูสีหน้าของชิงสุ่ย
เหยียนสือหยุนตกตะลึง แสงสว่างแห่งความหวังหายวับไปในทันตา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาแสดงทีท่าอ่อนโยนอีกครั้ง เพราะเขาเองก็สังเกตเห็นว่าหญิงสาวทั้งสองคนคงเป็นหญิงสาวที่อ่อนด้อยประสบการณ์
เมื่อคิดเช่นนี้จ้าวอสูรแดนสมุทรก็ยิ้มและกล่าวว่า “พ่อหนุ่มน้อย เจ้ามิได้มีคุณสมบัติคู่ควรกับแม่นางทั้งสองเลย เรามาตกลงกันดีกว่า ข้าจะยอมมอบทุกอย่างที่ต้องการ แลกเปลี่ยนกับการที่เจ้ามอบพวกนางมาให้ข้า เจ้าตกลงหรือไม่?”
ชิงสุ่ยไม่รู้จะพูดอะไรอีกเขาอยากจะออกไปกระทืบชายที่อยู่เบื้องหน้า แต่เนื่องด้วยการเปรียบเทียบระหว่างหญิงสาวในแผ่นดินหลักและผืนมหาสมุทรนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ส่วนใหญ่แล้วหญิงสาวจะไร้ซึ่งอำนาจ จึงทำให้ถูกกดขี่กลายเป็นเบี้ยล่าง
ซึ่งทั้งสองแผ่นดินไม่ต่างอะไรกันเลยโลกแห่งแดนมหาสมุทรเองก็เป็นสถานที่ที่ปล่อยให้หญิงสาวถูกกดขี่ ถูกลักพาตัว ยกเว้นแต่พวกนางจะแข็งแรง ดังนั้นปฏิกิริยาการแสดงออกของเหยียน สือหยุนจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่น่าผิดแปลกจากผู้อื่น แต่อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวก็ยังคงรู้สึกรังเกียจ และมองเห็นว่ามันคือปัญหาที่ใหญ่โตในโลกใบนี้
”งั้นเอาเช่นนี้เป็นอย่างไร?เจ้าเสนอราคามา ส่วนข้าจะซื้อมันเป็นราคาตัวเจ้า!!”ชิงสุ่ยตอบกลับเหยียน สือหยุนอย่างเรียบง่าย
เหยียนสือหยุนยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดว่า “เจ้าเสนอราคามา” มันทำให้เขารู้สึกดี แต่ก็ต้องสะดุดกับคำพูดประโยคหลัง มันเป็นประโยคที่ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อสูรแดนสมุทรเธอเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความสง่างามและอยู่เหนือเผ่าพันธ์ุอื่นๆ แม้ว่าเผ่าพันธ์เงือกและเผ่าพันธุ์นาคาจะค่อนข้างได้รับเกียรติอันสูงส่ง แต่ทั้งสองเขาก็เป็นเพียงแค่ราชวงศ์ที่ตกต่ำ แน่นอนว่าภายใต้บริวารของเหยียน สือหยุน ทั้งสองเผ่าพันธ์เป็นได้แค่เพียงนางบำเรอที่สร้างความพึงพอใจอันเล็กน้อยให้กับเขาแค่นั้นเอง
”เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้ากำลังกล่าวสิ่งใดออกมา?เจ้ากล้าดูถูกข้าอย่างนั้นรึ!!”เหยียน สือหยุนมองด้วยสายตาเย็นชา กลิ่นอายที่อัดแน่นจนกลายเป็นรูปร่างของมีดถาโถมเข้าใส่ศีรษะของชิงสุ่ย
รอยยิ้มเย้ยหยันค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชิงสุ่ยอย่างช้าๆเขามองไปที่เหยียน สือหยุนและกล่าวว่า “เจ้าพล่ามอะไรของเจ้า จะมาชิงตัวหญิงสาวของข้างั้นรึ? ถ้าแม่ของเจ้ารู้เรื่อง นางคงตอมใจตายไปแล้ว” novel-lucky
ชิงสุ่ยไม่สนใจกฏบนโลกใบนี้เขาสนใจแค่เพียงความเท่าเทียม และรังเกียจความไม่เท่าเทียม
หยวนหยุนจากตระกูลหยวนและฮวงหวู่จากถ้ำคลื่นจันทรา ยิ้มขณะเฝ้าดูบทสนทนาระหว่างชิงสุ่ยและเหยียน สือหยุน มันเป็นบทสนทนาที่ดูเลือดร้อน พร้อมจะนำไปสู่การต่อสู้ที่แสวงหาความตายได้ทุกเมื่อ
เหยียนสือหยุนกระชากเสื้อชิงสุ่ยและกล่าวว่า “น้องชาย อย่าคิดจะมีปัญหากับข้า เพราะเจ้าคงไม่มีปัญญาคลี่คลายปัญหาด้วยตัวเองได้”
ชิงสุ่ยตอบรับความมีน้ำใจของเหยียนสือหยุนด้วยการพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
”เจ้าเด็กน้อยถ้าฉะนั้นบนโลกใบนี้ก็คงไม่มีใครช่วยเจ้าได้อีกแล้ว”เหยียน สือหยุนใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ
ชิงสุ่ยยังคงยิ้ม”พระราชวังอสูรแดนสมุทร อืม ถ้าหากข้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าพระราชวังอสูรแดนสมุทรของเจ้าจะถูกปกครองโดยฝั่งของราชินี ถ้าหากพวกนางรับรู้ในสิ่งที่เจ้าพูดวันนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าสนุก”
นี่คือโลกที่แสนแปลกประหลาดผู้หญิงจะมีตำแหน่งได้ค่าในทางสังคม แต่กลับมีบางส่วนได้ดำรงตำแหน่งในระดับใหญ่โต ซึ่งก็คือตำแหน่งของนายหญิงแห่งพระราชวังอสูรแดนสมุทร ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และเป็นตำแหน่งที่ยืนอยู่เหนือสุดของเผ่าพันธุ์อสูรสมุทร
เหยียนสือหยุนยิ้มอย่างเสแสร้ง “เจ้าสามารถขอเข้าพบองค์ราชินีของเราได้ แต่มันไม่จำเป็นหรอก เพราะอีกไม่นานเจ้าก็คงจะต้องตาย”
”ฮ่าฮ่า ฮ่า ข้าอยากจะบอกเจ้าว่า ในโลกใบนี้มีผู้คนมากมายที่ต้องการชีวิตของข้า แต่สุดท้ายพวกมันก็ตายกันไปหมดแล้ว ใครที่มาจะสังหารข้ามันจะต้องเตรียมใจยอมรับความสูญเสีย จงคิดอย่างชาญฉลาดก่อนจะลงมือทำ หากรับไม่ได้กับผลที่ตามมา ก็จงล้มเลิกความคิดนั้นไปซะ”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยคำพูดที่ดูธรรมดา ใบหน้าของเขายังคงความสงบนิ่งและคาดเดาไม่ได้
เหยียนสือหยุนก็ไม่ใช่คนโง่เขาได้ได้สอบศัตรูไปตั้งแต่เริ่มต้น อีกทั้งเขายังมีระดับการรับรู้แห่งเทวะ จึงทำให้เข้าใจถึงความสามารถของศัตรูเช่นกัน เขาจึงพยายามระงับความโกรธและกลับสู่ความสงบ
”ข้าขอเตือนว่าทุกคำพูดของข้านั้นล้วนเป็นจริงประตูใกล้เปิดแล้ว โปรดระวังตัวด้วย”
”ลาก่อนโฉมงามทั้งสองอีกไม่นานเราคงได้พบกันใหม่”
เหยียนสือหยุนไม่ลืมที่จะกล่าวทักทายประมุขพระราชวังสุริยาและมูหยุนชิงเก้อก่อนจะเดินจากไป
”น้องชายเจ้าจะต้องระมัดระวังตัวให้มาก พวกอสูรแดนสมุทรนั้นเป็นกลุ่มคนที่ทรงพลัง หากจะว่ากันไปตามตรง ถ้าพวกเราเป็นศัตรูกับพวกมัน ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงล่มตาย”สุ่ยหยุนเฟิงถอนหายใจและยิ้มอย่างขมขื่น
”พี่ชายท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ”เจ้าพูดเรื่องอะไร?อย่าได้กังวล ข้าพร้อมยอมตายแทนเจ้าเสมอ”สุ่ยหยุนเฟิงกล่าวด้วยความตั้งใจขณะมองไปทางคนกลุ่มอสูรแดนสมุทร