Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1755 - สัตว์อสูรของชิงเก้อ พลังแห่งแก่นพฤกษาสวรรค
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1755 - สัตว์อสูรของชิงเก้อ พลังแห่งแก่นพฤกษาสวรรค
AST
บทที่1755 – สัตว์อสูรของชิงเก้อ พลังแห่งแก่นพฤกษาสวรรค์
ชิงสุ่ยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมชิงเก้อถึงกำลังแสดงสีหน้าเขินอายแต่นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเองก็เป็นเหยื่อที่ถูกหญิงสาวผู้นั้นล่อลวง ไม่มีทางที่ชิงเก้อจะโดนล่อลวงโดยผู้หญิงเช่นกัน หรือมันอาจมีเหตุผลบางอย่างที่เข้าไปทำให้เธอหลงทางในความคิดของเธอ
ราชันย์ปูหยกมีทักษะที่ค่อนข้างน่าประทับใจนอกจากนี้มันยังมีความสามารถในการดึงดูดใจทั้งหญิงและชาย โดยปกติแล้วหากต้องการจะล่อลวงหญิงสาว เหยื่อควรจะเป็นเพศชายเท่านั้น มันเป็นเรื่องปกติที่เพศตรงข้ามจะดึงดูดกันและกัน แต่ความสามารถของมันทำให้พื้นฐานธรรมชาติและความปรารถนาของมนุษย์ผิดแปลก
ทางด้านของราชันย์ปูหยกเองก็ตกตะลึงเช่นกันที่ชิงสุ่ยสามารถต้านทานทักษะที่เย้ายวนใจของมันได้มันคือทักษะที่ช่วยในการสร้างความสับสนในจิตใจของศัตรู จากนั้นเธอก็จะใช้โอกาส บีบบังคับให้ศัตรูเข่นฆ่ากันเอง
ชิงสุ่ยจับจ้องไปที่เธอเขาเกลียดในสิ่งที่เขากำลังจะทำ แม้ว่าเธอจะเป็นหญิงสาวที่งดงามก็ตาม ตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะที่ค่อยๆยกง้าวทองทะลวงศัตรูในมือขึ้นมา
”ปล่อยข้าไปเถิดข้ายอมเป็นข้ารับใช้ของท่าน”ขณะที่ชิงสุ่ยกำลังจะสังหารเธอ เธอก็รีบกล่าวด้วยท่าทางลังเล
เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีแต่เธอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่อยู่รอบตัวชายที่อยู่เบื้องหน้า ถ้าหากทักษะยั่วยวนจิตใจมนุษย์ไม่อาจเปลี่ยนกริยาของชายผู้นั้นได้ นั่นก็หมายความว่าต่อให้เธอทำอย่างไร มันก็ไร้ผล ที่สำคัญหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างชายผู้นั้น งดงามยิ่งกว่าตัวของเธอเอง เธอยอมรับในใจลึกๆว่าตัวเธอไม่อาจเปรียบเทียบกับหญิงสาวผู้นั้นได้เลย
มูหยุนชิงเก้อมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาแปลกประหลาดชิงสุ่ยทำได้เพียงแค่เอามือลูบจมูกและกล่าวว่า “ชิงเก้อ เจ้าเอาสิ่งนี้หยดลงบนตัวของนาง นางจะได้กลายเป็นของเจ้า”
ชิงสุ่ยมอบยาเสริมอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้กับมูหยุนชิงเก้อยาชนิดนี้ถูกใช้เพื่อทำให้สัตว์เชื่อง และด้วยส่วนผสมจากสัตว์อสูรต่างๆที่แข็งแกร่ง มันจึงทำให้ยาเสริมอสูรศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันก็แข็งแกร่งกว่ายาในยุคอดีตหลายเท่าตัว
มูหยุนชิงเก้อยิ้มขณะกล่าวถามด้วยความลังเล”เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่สนใจในตัวของมัน?”
ชิงสุ่ยลูบจมูกของตัวเอง”ข้าแลดูสนใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ข้าคิดว่า นางจะต้องเหมาะสมกับเจ้ามากกว่า”
หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของชิงสุ่ยมูหยุนชิงเก้อก็เริ่มให้เจ้าปูราชันย์หยกกินยาเสริมอสูรศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็หยดเลือดลงบนตัวของเธอ
แสงทองส่องประกายระยิบระยับจากนั้นร่างกายของเจ้าราชันย์ปูหยกก็กลายเป็นเพียงแค่เงาและผสานเข้าไปในร่างกายของมูหยุนชิงเก้อ novel-lucky
ในตอนนี้เจ้าราชันย์ปูหยกยอมรับมูหยุนชิงเก้อให้เป็นเจ้านายของเธอแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแนบแน่นกันอย่างรวดเร็ว โดยปกติเจ้าราชันย์ปูหยกมักจะใช้ชีวิตอยู่ในร่างมนุษย์แต่เธอก็สามารถปลดปล่อยศักยภาพของเธอได้เต็มที่ ไม่ต่างจากตอนที่อยู่ในร่างสัตว์อสูร
……………..
หลังจากสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเรื่องราวทุกอย่างก็กลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว คนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือมูหยุนชิงเก้อ เพราะเจ้าอสูรราชันย์ปูหยก เป็นสัตว์อสูรที่มีค่าและยังเป็นสัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่ทุกคนต้องการครอบครอง
มูหยุนชิงเก้อตั้งชื่อให้กับเจ้าอสูรราชันย์ปูหยกว่าไป๋อวี้ทั้ง 3 คนเดินทางตรงเข้าไปยังถ้ำที่เป็นที่พักของไป๋อวี้ ภายในห้องสะอาดอย่างมากโดยเฉพาะห้องนอนของเธอ มันเหมือนกับห้องนอนของหญิงสาวทั่วไป ที่ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบ
เมื่อเวลาล่วงเลยไปมากชิงสุ่ยจึงเลือกที่จะหยุดพักอยู่ภายในถ้ำของไป๋อวี้ เขาอัญเชิญสัตว์อสูรของเขาออกมา ในขณะที่ตัวของเขาเองก็กลับเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
ชิงสุ่ยยังคงขะมักเขม้นฝึกฝนแก่นพฤกษาสวรรค์จนก้าวเข้าสู่ขอบเขตพลังที่แข็งแกร่ง การฝึกฝนเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งทำให้เขาเข้าใจในแก่นพฤกษาสวรรค์อย่างถ่องแท้
ชิงสุ่ยยืนอยู่กลางอากาศภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะโดยที่รอบตัวของเขาปรากฏเป็นวงล้อมที่สร้างขึ้นโดยเถาวัลย์ไม้หนา แม้ว่ามันจะดูเหมือนเถาวัลย์ธรรมดา แต่ระยะความหนาของมันกลับกว้างถึง 10 เมตร
ความแข็งแกร่งของเถาวัลย์เกิดขึ้นจากการฝึกฝนเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ และด้วยขนาดและความหนาของเถาวัลย์ ต่อให้เป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ หากทุกเถาวัลย์รัด และปิดผนึก พวกมันก็มีวันรอดชีวิตไปได้
ปุ๊!!
หลังจากผ่านไปช่วงระยะหนึ่งเสียงก่อกวนบางอย่างก็ปรากฏขึ้น ทันทีที่ชิงสุ่ยเริ่มปลดปล่อยพลังผ่านจุดชีพจร เถาวัลย์ที่ล้อมรอบตัวของชิงสุ่ยก็เกิดการเปลี่ยนแปลง แม้ภายนอกจะมีขนาดเท่าเดิม แต่ลำตัวของเถาวัลย์กลับมีสีเข้มข้นมากกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า
ชิงสุ่ยโบกสะบัดมือแล้วปล่อยกำปั้นของเขาออกไป
ปังงงงงง!!
แรงหมัดที่ทรงพลังประมาณ100,000 เต๋า กระแทกเข้ากับเถาวัลย์อย่างจัง แต่หมัดของเขาสร้างได้แค่เพียงรอยขีดข่วนเท่านั้น มันเหมือนกับเปลือกของต้นไม้ที่ลอกออก แต่ภายในยังคงเดิม
ชิงสุ่ยปลดปล่อยผนึกความคิดขณะที่เขาเหวี่ยงมือออกไป เถาวัลย์ที่อยู่รอบตัวของเขาก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดสีแดงเข้ม พร้อมกับกลิ่นอายที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้า
และแล้วการฝึกฝนแก่นพฤกษาสวรรค์ก็สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย
ชิงสุ่ยแสดงสีหน้าอันพึงพอใจเมื่อมองดูการเปลี่ยนแปลงของเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดขวากหนามที่อยู่บนเถาวัลย์แหลมคมยิ่งกว่าเก่า และยังทรงพลัง เพียงแค่ผู้คนได้มองดูมันก็รู้สึกถึงความน่ากลัว
ทักษะวชิระจู่โจม
ชิงสุ่ยใช้ง้าวทองทะลวงศัตรูระเบิดพลังสูงสุดฟาดฟันโจมตีเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด
เพื่อทดสอบความแข็งแรงของเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดชิงสุ่ยจำเป็นต้องดูว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดจะสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้มากน้อยเพียงใด เขาจึงเลือกที่จะปลดปล่อยพลังสูงสุดที่มีความรุนแรงเกือบ 500,000 เต๋า
หลังจากที่แรงระเบิดดังสนั่นไปทั่วดินแดนหยกยุพราชอมตะชิงสุ่ยก็แสดงรอยยิ้มอันพึงพอใจเมื่อเห็นว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดสามารถรับแรงโจมตีของเขาได้โดยไม่เกิดอันตรายใดๆเลย และเมื่อเห็นว่าการโจมตีสุดกำลังของเขาทำอะไรมันไม่ได้ เขาก็ได้แต่หันมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดที่เขาครอบครองแข็งแกร่งเกินไป? หรือเป็นตัวเขาเองที่อ่อนแอเกินไป?