Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1803 - อี่หวงกู่หวู๋และเฉินหวง
AST
บทที่1803 – อี่หวงกู่หวู๋และเฉินหวง
หลังจากพูดคุยกันอยู่สักพักนึงชิงสุ่ยก็เงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “นี่ก็ใกล้ถึงเวลารับประทานอาหารแล้ว ทำไมเจ้าไม่อยู่ที่นี่และร่วมรับประทานอาหารก่อนล่ะ”
ชิงสุ่ยพยายามเชื้อเชิญด้วยความสุภาพณ ปัจจุบันเวลาตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยง แน่นอนว่าเขายังคงคุ้นเคยกับนิสัยตอนที่อยู่ในโลกใบก่อน และเขาก็ไม่คิดจะพลาดอาหารทั้ง 3 มื้อของชีวิต ในขณะที่บางคนอาจจะรับประทานอาหารวันละครั้ง หรืออาจจะรับประทานอาหารสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็ไม่ต่างกัน
แน่นอนว่าการกินอาหารเพิ่มพลังย่อมดีกว่าไม่รับประทานอาหารอะไรเพราะมันจะช่วยในการฟื้นฟูอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย ไม่แตกต่างจากการนอนหลับ และการรับประทานอาหารก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการในการบำรุงรักษาสภาพจิต แม้จะเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับยิ่งใหญ่ พวกเขาก็ยังจำเป็นต้องนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน
”ก็ได้แต่หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารเสร็จสิ้น ข้าจะพาเจ้าไปที่ภาคีวิหคอัคคีเทวะเพื่อเยี่ยมชม” หญิงสาวผู้นั้นตอบกลับหลังจากพิจารณาข้อเสนอแนะชั่วครู่หนึ่ง
ชิงสุ่ยค่อนข้างตกใจจากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบริเวณมุมปาก ก่อนจะพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ตกลง เจ้ารอข้าเตรียมตัวสักครู่ ระหว่างนี้ก็พักผ่อนไปพลาง”
ชิงสุ่ยกลับไปยังลานที่พักของเขาสถานที่ที่เงียบสงบที่ซึ่งเขาใช้ในการฝึกฝน แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ย่อมไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวน
ชิงสุ่ยเรียกอี่หวงกู่หวู๋มาที่ลานหน้าที่พักของเขา
”หวู๋เอ๋อตอนนี้ข้าได้เข้าร่วมกับภาคีวิหคอัคคีเทวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”ชิงสุ่ยเปิดเผยข่าวคราวให้อี่หวงกู่หวู๋ได้รับรู้ อี่หวงกู่หวู๋รู้สึกประหลาดใจก่อนจะจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่ดูไม่เชื่อมากนักในทางกลับกัน ชิงสุ่ยก็นำเหรียญทองคำบริสุทธิ์ออกมาพร้อมกับคำที่จารึกว่า “แขกผู้มีเกียรติ”
”โอ้เจ้าเข้าร่วมกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะแล้วจริงๆด้วย”อี่หวงกู่หวู๋แสดงท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
”ผู้นำกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะเดินทางมาเชื้อเชิญข้าด้วยตัวเองนางยื่นข้อเสนออิสระให้กับข้ามากมาย แม้ว่ากลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะกำลังจะถูกโจมตีจนล่มจม นางขออนุญาตให้ข้าทำตามใจชอบ แม้จะไม่ช่วยเหลือหรือไม่ทำอะไรเลยก็ตาม”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างนุ่มนวล
”ห่ะมันมีคนโง่แบบนี้จริงๆด้วยอย่างนั้นหรือเนี้ย? ข้าเข้าใจละ” อี่หวงกู่หวู๋รู้ว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่เธอมองดูชิงสุ่ย
”เจ้าเข้าใจอะไรกัน?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะมองดูเธอ ”ก็นางเป็นคนฉลาดนางคงจะสังเกตและรู้ถึงพฤติกรรมของเจ้า ตราบใดที่นางสามารถทำให้เจ้าเข้าร่วมกับนางได้ นางเชื่อมั่นว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ใจดำ และจะต้องยืนหยัดช่วยเหลือนางในยามวิกฤต” อี่หวงกู่หวู๋กล่าว
ทั้งสองคนเดินทางไปยังลานหน้าบ้านสถานที่ที่หญิงสาวผู้นั้นกำลังยืนรอเมื่อหญิงสาวคนนั้นมองเห็นอี่หวงกู่หวู๋เธอตกตะลึงเล็กน้อยและก็พูดอย่างสุภาพว่า ” เจ้าเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะใช่หรือไม่?”
”เจ้ารู้ได้อย่างไร?” อี่หวงกู่หวู๋กล่าวถามด้วยความตกใจ นับตั้งแต่ที่เธอเข้าร่วมกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เธอยังไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปภายในสถานที่ตั้งของกลุ่มเลยแม้แต่ครั้งเดียว
”ทุกคนที่เข้าร่วมกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะจะมีรูปภาพประจำตัวอยู่ภายในสถานที่ตั้งของกลุ่มและข้าเองก็เคยเห็นรูปของเจ้า”หญิงสาวผู้นั้นตอบกลับด้วยท่าทางสงบนิ่งไม่มีความรีบร้อน
อี่หวงกู่หวู๋หยิบเหรียญแสดงตำแหน่งผู้อาวุโสออกมาแสดงเพื่อยืนยันว่าเธอเป็นสมาชิกของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะจริงๆ
”พลังของเจ้าเติบโตอย่างน่าตกใจในตอนแรกที่เจ้าเข้าร่วมกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ้ายังเป็นเพียงแค่ผู้ที่มีพลังอ่อนแอ และที่ข้าจำเจ้าได้ เพราะเจ้าเป็นผู้หญิงที่มีความงดงาม ว่าแต่เจ้าคือหญิงสาวของเขาใช่หรือไม่?”
หญิงสาวผู้นั้นถามคำถามกลับมาด้วยความเรียบง่าย
คงเป็นเพราะพลังของอี่หวงกู่หวู๋ที่เติบโตเร็วเกินไปจึงส่งผลให้สถานะปัจจุบันของเธอก้าวขึ้นสู่หนึ่งในคนตำแหน่งสูงส่งภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะทันที
”ถูกต้องแล้วล่ะว่าแต่ข้าควรเรียกเจ้าว่าอย่างไร? แล้วพวกเราสองคนดูคู่ควรกันหรือไม่”อี่หวงกู่หวู๋ยิ้มขณะกล่าวถาม ”ข้ามีนามว่าเฉินหวงพวกเจ้าทั้งสองคนเหมาะสมกันมาก แต่บางทีเจ้าอาจจะโชคร้ายเพราะเรื่องนั้น”หญิงสาวที่มีนามว่าเฉินหวง กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อี่หวงกู่หวู๋ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างไม่คาดคิด”ข้าเองก็เห็นด้วย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีอารมณ์ขันเช่นเดียวกัน!!”
ชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออกเธอแสดงความมีอารมณ์ขันในด้านใด? แต่เขาก็ไม่ได้โกรธและกล่าวว่า “พวกเจ้าพูดคุยกันไปก่อน ส่วนข้าขอตัวไปทำอาหาร เดี๋ยวข้าจะรีบมา”
ชิงสุ่ยต้องการไปทำอาหารเพราะเขารู้ว่าถ้าหากเขาทำทุกอย่างจะรวดเร็วหลังจากเขากล่าวจบเขาก็รีบมุ่งหน้าตรงไปยังห้องครัวทันที
ทางด้านของหญิงสาวเธอรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่คนระดับขาวต้องมาทำอาหารด้วยตัวเองบนโลกใบนี้ผู้ที่ทรงพลังส่วนใหญ่ล้วนใช้งานผู้ที่อ่อนแอให้ทำงานหน้าที่ภาระในส่วนอื่นๆ และมีผู้ทรงพลังเพียงไม่กี่คนเท่านั้นทีจะทำอาหารเพื่อรับประทานมันด้วยตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นผู้ทรงพลังส่วนใหญ่ที่ทำอาหารออกมามักจะมีรสชาติแย่ เรียกได้ว่าหากเข้าในห้องครัวเมื่อไหร่โชคร้ายจะบังเกิด
ชิงสุ่ยเร่งรีบโรงอาหารอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที เขาก็สรรสร้างอาหารจานมังสวิรัติได้ถึง 3 จาน และอาหารจานเนื้ออีก 2 จาน ซุปถ้วยเล็กอีก 2 ถ้วย ซุปปลาอีก 1 ถ้วย และอาหารจานเส้นอีก 1 ชุด ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำซุปที่มีผลตัวยาในการรักษาโรค
หญิงสาวผู้นั้นยิ่งตกตะลึงมากกว่าเก่าเมื่อเห็นจานอาหารจำนวนมากวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะพวกมันส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ แน่นอนว่ามันเป็นกลิ่นหอมที่เธอไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนในชีวิต
เธอเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ในแง่ของอาหารเธอจึงเลือกรับประทานอาหารเฉพาะผลไม้และผัก โดยพื้นฐานเธอจะไม่กินเนื้อสัตว์ จึงทำให้เธอจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เธอกินเนื้อสัตว์นั้นเป็นเมื่อไหร่ ชิงสุ่ยเริ่มด้วยการรินเหล้าดอกบ๊วยผลิบานหลังจากที่เขาวางจานอาหารลงบนโต๊ะ จากความรู้สึกผ่านกลิ่นอายในร่างกายของหญิงสาว ชิงสุ่ยเชื่อว่าเธอจะต้องชอบเหล้าดอกบ๊วยผลิบานที่เขามี
”พี่ใหญ่หวงลองชิมอาหารเหล่านี้สิ ทักษะการทำอาหารของชิงสุ่ยยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอย่างแน่นอน”อี่หวงกู่หวู๋กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส
ชิงสุ่ยผงะเมื่อได้ยินคำพูดของเธอพี่ใหญ่หวง? ทั้งสองคนเรียกชื่อกันอย่างสนิทสนมหลังจากรู้จักกันเพียงแค่ชั่วครู่เดียว ดูเหมือนทั้งคู่จะถูกฟ้าลิขิตให้มาพบเจอกัน
เฉินหวงพยักหน้าตามคำเชิญขณะที่ชิงสุ่ยรินเหล้าดอกบ๊วยผลิบาน กลิ่นหอมจากเหล้าก็เตะจมูกสร้างความประหลาดใจให้กับเธออีกครั้ง
เหล้าศักดิ์สิทธิ์!!ในสายตาของเธอมันไม่ใช่ของมึนเมา แต่มันคือเครื่องดื่มระดับสวรรค์ ชายคนนี้เหมือนมีเวทมนต์อย่างแท้จริงเฉินหวงไม่ถามอะไรเลยแม้เธอจะมีความอยากรู้อยากเห็น
หญิงสาวทั้งสองคนยังคงมีความสง่างามแม้แต่อยู่ในท่าทางรับประทานอาหารข้อแตกต่างของหญิงสาวทั้งสองคนช่างต่างจากหญิงสาวคนอื่นหลายเท่า แม้กระทั่งการมองดูพวกเธอรับประทานอาหารก็ถือว่าเป็นความบันเทิงชนิดหนึ่งก็ว่าได้
”อาหารพวกนี้คืออาหารที่ดีที่สุดเท่าที่ข้าเคยกินมาก่อน”เฉินหวงเงยหน้าขึ้นมองชิงสุ่ย
”ขอบคุณสำหรับคำชม!!”
”คำพูดของข้าไม่ใช่เพียงแค่คำชมแต่มันคือความจริง”
”ดูเหมือนพี่จะเป็นคำสรรเสริญที่ดีที่สุดที่ข้าได้รับข้ารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
เฉินหวงหยุดพูดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “กู่หวู๋ ตอนนี้เจ้าเป็นถึงรองผู้นำของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ้าเองก็ควรมาด้วย”
อี่หวงกู่หวู๋พยักหน้าและตอบกลับว่า”ได้เลยไม่มีปัญหา”
ตำแหน่งของเฉินหวงคือตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะฉะนั้นตำแหน่งรองผู้นำก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นรองเพียงแค่ตำแหน่งของเฉินหวง