Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1832 - เจ้าคนชั่ว
AST
บทที่1832 – เจ้าคนชั่ว
ทันทีที่กระบวนการเสร็จสิ้นเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนลืมตา พวกเธอก็ต้องมองมาที่ชิงสุ่ยแทบจะพร้อมเพียงกัน ดูเหมือนพวกเธอจะรับรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์
ในตอนแรกพวกเธอก็พอรับรู้ได้ว่าเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ไม่ใช่สิ่งของธรรมดาแต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมีพลังอันน่าเหลือเชื่อเช่นนี้
เพิ่มพูนพลังความแข็งแกร่ง1 เท่าเพื่อหักล้างความเสียหายโดยไม่มีข้อจำกัด แม้จะเป็นพลังแค่ชั่วคราวแต่ก็เป็นพลังที่เรียกได้ว่าป้องกันการลอบสังหารได้แทบจะสมบูรณ์แบบ
”ชิงสุ่ยสิ่งของชิ้นนี้ช่างเป็นสิ่งของที่ยอดเยี่ยมจริงๆเจ้าไม่รู้สึกเสียใจรึ ที่มอบของดีขนาดนี้ให้กับพวกเรา”ฉินชิงมีความสุขอย่างมากที่ได้รับของในการใช้ชีวิตอันน่ามหัศจรรย์ใจ
”ข้ามอบสิ่งของสำคัญชิ้นนี้ให้กับหญิงสาวของข้าข้าไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว”ชิงสุ่ยหัวเราะ
ฉินชิงที่กำลังถูกหยอกล้อเธอได้แต่พยักหน้า เธอรู้ดีว่าชายคนนี้เป็นคนชอบล้อเล่น ดังนั้นเธอจึงไม่ตกหลุมพราง และไม่ยอมตกเป็นหญิงสาวของเขาได้ง่ายๆแน่
กระบวนการทางความคิดของเธอเหมือนจะบ่งบอกว่าเธอตกหลุมรักเขาแต่เธอก็พยายามปฏิเสธแม้มันจะไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะสุดท้ายความรู้สึกของเธอที่มีต่อชิงสุ่ย มันก็ยังคงเป็นความรู้สึกคิดถึงและความรู้สึกที่สุขใจทุกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าชิงสุ่ย
ถานท่ายหลิงเยียนก็เริ่มคุ้นเคยกับความขี้เล่นของชิงสุ่ยเธอจึงสามารถปรับตัวได้ และด้วยสถานะของเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ มันยิ่งทำให้ความแข็งแรงของเธอเพิ่มพูนขึ้น ตอนนี้มันได้ทำให้เธอสามารถระเบิดพลังเพิ่มขึ้นไปอีก 2 เท่าเหนือกว่าแต่ก่อน หญิงสาวทั้งสองคนมีความสุขอย่างมากที่ชิงสุ่ยยอมมอบสิ่งของสำคัญขนาดนี้ให้กับพวกเธอเขามีเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์เพียงแค่ 3 ชิ้น แต่หญิงสาวของเขานั้นมีมากกว่า 3 คน เขากลับเลือกที่จะยอมยกสิ่งของสำคัญให้กับพวกเธอทั้งสองคน
”นี่ก็ดึกมากแล้วพวกเราแยกย้ายกันไปนอนเถอะ ราตรีสวัสดิ์ทุกคน”ถานท่ายหลิงเยียนจ้องมองชิงสุ่ยและฉินชิงก่อนจะเดินออกจากห้องและกลับไปยังศาลาที่พักของตนเอง
ชิงสุ่ยพยักหน้าขณะมองดูถานท่ายหลิงเยียนจากไปรอยยิ้มที่เขาไม่อาจต้านทานสายยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ แม้แต่ฉินชิงยังยอมรับเลยว่ารอยยิ้มของถานท่ายหลิงเยียนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ที่ทุกคนใฝ่ฝันและถวิลหา
”แววตาของเจ้าจ้องมองราวกับจะไปคว้าตัวนางกลับมาอยู่กับเจ้าเลย”ฉินชิงยิ้ม
”ใช่แล้วล่ะสายตาที่ข้ามองเจ้าก็อยากจะคว้าตัวเจ้ามาอยู่กับข้าเช่นกัน”ชิงสุ่ยหัวเราะเยาะขณะมองดูฉินชิงที่กำลังแสดงความอิจฉาเล็กน้อยออกมา
”ข้าไม่ได้จะให้เจ้าตอบกลับข้ามาเช่นนี้”ฉินชิงยิ้มขณะที่แสดงความเขินอาย
คำพูดของชิงสุ่ยมันคือคำพูดที่พยายามทำให้ช่องว่างระหว่างคนสองคนสั้นลง เขายิ้มก่อนจะคว้ามือฉินชิง แน่นอนว่าการกระทำนี้ทำให้ฉินชิงถึงกลับจิตใจหวั่นไหว และดูเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ
”เจ้าคนร้ายเจ้าคิดจะทำอะไรกัน?”ฉินชิงหยุดการดิ้นรนก่อนจะหันไปมองชิงสุ่ย
”เจ้าอยากเป็นผู้หญิงของข้าใช่หรือไม่ทำไมเจ้าไม่ลองปลดปล่อยความสุขของเจ้าออกมาดูละ?”ชิงสุ่ยดึงตัวฉินชิงเข้ามาใกล้ตัวเขา
”ไหนเจ้าสัญญาว่าจะไม่บังคับข้า”ฉินชิงก้มหัวเล็กน้อยกล่าวด้วยถ้อยคำที่แสนอ่อนโยนและสงบนิ่ง
การแสดงออกที่เปลี่ยนไปของเธอทำให้ชิงสุ่ยถึงกับคล้อยตามเขาเริ่มก่อนแล้วประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของเธอโดยตรงอย่างรวดเร็ว
ฉินชิงไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเธอเองก็ตกตะลึง ตอนที่ร่างกายของเธอจะตอบสนองการกระทำของชิงสุ่ยโดยไม่รู้ตัว
เธอพบว่าร่างกายของเธอมันเต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งความรู้สึกเกลียดผสมกับความรู้สึกน่าสนใจ
ชิงสุ่ยก็ไม่คิดว่าฉินชิงจะตอบสนองกลับด้วยการกระทำเช่นนี้
ชิงสุ่ยค่อยๆจูบริมฝีปากอย่างดูดดื่มลิ้นของทั้งสองคนกำลังดื่มด่ำรสชาติแห่งความสุข แน่นอนว่ามือของเขาย่อมไม่อยู่กับพี่ มันกำลังสัมผัสกับยอดภูเขาคู่ที่กำลังตั้งชูชัน มันคือจุดที่เธอภาคภูมิใจมากที่สุด
”ทำไมเจ้ายังไม่ปล่อยสักที”ฉินชิงกล่าวอย่างเยือกเย็น
ชิงสุ่ยค่อยๆปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ”ตัวของเจ้าช่างมีกลิ่นหอมอันน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
”้เจ้านี้มันคนชั่ว…….”ทันทีที่ฉินชิงกล่าวจบเธอก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยยังคงเฝ้ามองดูเธอจากไปขณะที่ตัวเขายังคงยิ้มให้กับสิ่งที่ไม่คาดคิด ฉินชิงไม่ได้แสดงความโกรธนั้นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจน ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความคืบหน้าและมั่นใจว่าในอนาคตโอกาสจะต้องอยู่ในมือของเขา