Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1848 - ชำระล้างร่างกายหญิงสาวตัวน้อย ประทับรอยจูบ
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1848 - ชำระล้างร่างกายหญิงสาวตัวน้อย ประทับรอยจูบ
AST
บทที่1848 – ชำระล้างร่างกายหญิงสาวตัวน้อย ประทับรอยจูบ
ชิงสุ่ยเดินกลับมาพร้อมกับข้าวต้มอาหารชุดสมุนไพร และซุปที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย เขารู้ดีว่าหญิงสาวหลังจากคลอดบุตร ย่อมต้องสูญเสียเลือดและน้ำเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นการเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายจึงเป็นสิ่งจำเป็น และทำให้ร่างกายของผู้ที่เป็นแม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
”หืมมมกลิ่นหอมจริงๆ!!”จักรพรรดินีผีดูดเลือดดมกลิ่นหอมขณะที่ชิงสุ่ยเข้ามาในห้อง
”เอ่อ……ดูเหมือนข้าจะลืมไปว่าอาหารที่อยู่ในมือข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้ากินเช่นนั้นเจ้ามากินเลือดข้าแทนดีหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
จักรพรรดินีผีดูดเลือดแสดงสีหน้าอ่อนโยนจากนั้นเธอก็กล่าวว่า”ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่กินอาหาร ส่วนเลือดที่พวกเราดื่มกิน เราต่างมีจุดประสงค์เดียวกันคือการใช้มันเพื่อฝึกฝน เพราะหนทางที่ทำให้ร่างกายของพวกเราขับเคลื่อนพลังได้ขึ้นอยู่กับเลือด เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มเลือดแล้ว ความเร็วในการฝึกฝนระหว่างผู้ที่เดือดเลือดและไม่ได้ดื่มเลือดจะแตกต่างกันเกือบ 10 เท่า บางทีสิ่งนี้อาจเรียกว่าพรสวรรค์แห่งเผ่าผีดูดเลือดของพวกเราก็เป็นได้”
”อ่าข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ลองชิมรสชาติน้ำซุปที่ข้าทำมาดูสิ ผลลัพธ์ของมันน่าจะดีสำหรับเจ้าเพราะส่วนประกอบส่วนหนึ่งที่ใช้ทำน้ำซุปนี้ ก่อกำเนิดมาจากแก่นแท้โลหิตของสัตว์อสูรปราณจิต”ชิงสุ่ยถือถ้วยน้ำซุปและเดินตรงไปนั่งข้างเตียง
บนโลกใบนี้เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์นานาชนิดมากมายแต่ละเผ่าพันธุ์มีความสามารถพิเศษเป็นของตน ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับธรรมชาติ เช่นเดียวกับนกที่บินได้และปลาที่ว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ส่วนการสืบทอดสายพันธุ์ก็ขึ้นอยู่กับชะตากรรมของเผ่าพันธุ์นั้นๆ
”อันที่จริงแล้วข้าเองก็กินเลือดมนุษย์นอกเหนือจากตัวเจ้า ข้าก็ไม่แน่ใจนะว่าข้าจะกินเลือดมนุษย์คนไหนได้อีก”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวโดยตรงกับชิงสุ่ย
”ก็ข้าเพิ่งบอกไปว่าถ้าหากเจ้าอยากดูดเนื้อกายของข้าก็เชิญดูดได้เลย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าล่ะว่าจะสามารถดูดกลืนแก่นแท้โลหิตของข้าไปได้หรือไม่”ชิงสุ่ยกล่าวตอบ
จักรพรรดินีผีดูดเลือดแสดงสีหน้าเขินอาย”การที่เจ้าจะหยุดใช้ประโยชน์จากตัวข้าสักครู่หนึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากสินะ? ข้ารู้แล้วว่าเจ้าในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน”
ชิงสุ่ยหยิบถ้วยน้ำซุปและช้อนขึ้นมา”กินซุปนี้ก่อนเถอะ ส่วนเรื่องอื่นๆเราค่อยว่ากันทีหลัง”
จักรพรรดินีผีดูดเลือดอ้าปากดื่มน้ำซุปโดยไม่รู้ตัวและเธอเองก็รู้สึกประหลาดใจในการกระทำของตัวเธอเองด้วยเช่นกัน
ส่วนทางด้านของชิงสุ่ยเขามีความสุขอย่างมากที่หญิงสาวผู้นี้เลือกที่จะไม่ผลักไสเขา ในเมื่อเธอยอมรับและยอมกินน้ำซุปที่เขาทำ เขาจึงเริ่มคิดวิธีการทำอาหารที่เหมาะสำหรับเธอทันที
จักรพรรดินีผีดูดเลือดพยายามจะหยิบช้อนเพื่อดื่มกินน้ำซุปด้วยตัวเองแต่ชิงสุ่ยก็ไม่ยอมเธอจึงจำเป็นต้องให้เขาป้อนด้วยสีหน้าที่ดูเขินอาย น้ำซุปแต่ละคำบ่งบอกได้ถึงความตั้งใจทำและรสชาติที่แสนอร่อย ช่างน่าประหลาดใจจริงๆที่ชิงสุ่ยเป็นทั้งผู้ฝึกตนแต่กลับทำอาหารรสชาติยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้
เพียงแค่น้ำซุปถ้วยเดียวก็สามารถทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากกว่าเก่าแม้ว่าขั้นต้นลูกสาวของทั้งสองจะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้มั่นคง อย่างไรก็ตามมันยังคงมีปัจจัยอื่นที่ต้องปรับปรุงไปตามสถานการณ์
หลังจากผ่านไปอีก3 วัน ชิงสุ่ยก็เริ่มช่วยเหลือเจ้าหนูน้อยในการชำระล้างร่างกาย ทางด้านของจักรพรรดินีผีดูดเลือดเธอยังคงแสดงความเป็นห่วงแม้เธอจะรู้และเชื่อมั่นจากการกระทำหลายๆอย่างของชิงสุ่ยว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายลูกสาวของตัวเอง แต่เธอก็อดกังวลไม่ได้
เพื่อลบล้างความกังวลในจิตใจของเธอชิงสุ่ยจึงทำการแสดงการชำระล้างร่างกายของเธอเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าการกระทำทั้งหมดทำให้เธอผ่อนคลายความกังวลที่มีอยู่ในจิตใจ และจากการชำระล้างร่างกายมันทำให้เธอได้รับผลประโยชน์อย่างมาก รวมถึงรากฐานและพลังที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การกระทำของเขาอาจเรียกได้ว่าเป็นการเขย่าสวรรค์สิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่นักรบและผู้ฝึกตนต่างพยายามสร้างมันขึ้นมาให้กับตัวเอง ร่างกายของมนุษย์จินตนาการภาพให้เหมือนกับตึก 10 ชั้น โดยการชำระร่างกายเปรียบเสมือนการเสริมโครงสร้างคอนกรีตโดยการเสริมเหล็กเพื่อให้สามารถรองรับไม่พังทลายง่ายๆ
การชำระล้างร่างกายจักรพรรดินีผีดูดเลือดกินเวลาประมาณครึ่งวันแต่ความแข็งแกร่งที่ได้รับคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม
จากนั้นเขาก็เริ่มทำการชำระร่างกายให้กับเด็กน้อยตัวเล็กๆแต่ละกระบวนการเป็นไปอย่างเชื่องช้า รากฐานพลังของเด็กทารกคือสิ่งสำคัญที่จะปูทางสู่อนาคต ฉะนั้นเขาจึงจำเป็นต้องระวังเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นเส้นลมปราณของทารกยังคงแคบอ่อนแอแต่ยืดหยุ่น เขาจึงยิ่งต้องควบคุมพลังหากเกิดเหตุผิดพลาดโอกาสที่จะแก้ไขก็มีน้อย
โชคดีที่ชิงสุ่ยคือหมอเทวดาเด็กน้อยจึงถูกฝังเข็มเพื่อให้หลับสนิทก่อนจะเริ่มต้นกระบวนการ
ทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ชิงสุ่ยค่อยๆถอนเข็มออกจากร่างกายเด็กน้อยพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เด็กน้อยผู้นี้เกิดมาพร้อมกับสายเลือดปีศาจศักดิ์สิทธิ์โดยมีเขาช่วยประสานเส้นลมปราณชำระล้างร่างกายทั้งหมด มันคือกระบวนการปลดผนึกพันธนาการขีดจำกัดทางสายเลือด เขาจะอดสงสัยไม่ได้หรือว่าในอนาคตชีวิตของเด็กสาวผู้นี้จะยิ่งใหญ่เพียงใด
หลังจากที่จักรพรรดินีผีดูดเลือดมองดูลูกสาวที่นอนหลับเธอก็ค่อยๆขยับสายตาของเธอเคยมองชายที่อยู่ด้านข้างช่วง 3 วันที่ผ่านมาเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบที่เธอไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว มันคือความรู้สึกเมื่อตอนที่เธอเป็นเด็ก ความรู้สึกอบอุ่นที่ครอบครัวของเธอมีให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงวาดฝันว่าลูกสาวของเธอจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีพ่อและแม่ที่คอยห่วงใยเคียงข้างกาย
เมื่อก่อนเธอไม่เคยคาดหวังว่าสิ่งต่างๆจะเป็นเช่นนี้แม้เธอจะได้รับแก่นแท้โลหิตจากตัวของชิงสุ่ย เธอก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องเริ่มต้นครอบครัวกับชายคนนี้เลย จนกระทั่งตอนนี้เองเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แต่สุดท้ายดูเหมือนลูกสาวของเธอจะมีพ่อที่รักเธอมาก
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นควรค่าแก่ความสุขนอกจากนี้พ่อของเด็กสาวตัวน้อยก็เป็นหนึ่งในบุคคลทรงพลัง ในอนาคตเด็กตัวน้อยจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและไม่ถูกรังแกจากผู้อื่น
มันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นแม่จะคิดเช่นนี้เมื่อเด็กน้อยเติบใหญ่ หลายๆคนอาจถูกรังแก แต่คงไม่ใช่ลูกของเธอ เพราะถ้าหากใครรังแกเธอชายผู้เป็นพ่อคงไม่ยอมง่ายๆ
ชิงสุ่ยค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือของจักรพรรดินีผีดูดเลือดมือของเธอรู้สึกเย็นเล็กน้อยแต่ก็อบอุ่น ร่างกายของเธอเริ่มสั่นเครือแต่ก็ไม่ได้ต่อต้าน
ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่จักรพรรดินีผีดูดเลือดในขณะเดียวกันเธอก็หันมามอง สายตาทั้งสองค่อยๆสบตากัน ชิงสุ่ยขยับมือโอบกอดเธอยังอบอุ่น
”ชิงสุ่ย!!”จักรพรรดินีผีดูดเลือดเผลอร้องเรียกชื่อของชิงสุ่ยด้วยความตื่นตระหนกนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการอบกอดจากผู้ชาย
แต่แล้วชิงสุ่ยก็ทำสิ่งที่ประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือการที่เขาค่อยๆก้มหัวลงประทับรอยจูบปากของเธอ