Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1878 - เจ้าคือคนสำคัญของข้า
AST
บทที่1878 – เจ้าคือคนสำคัญของข้า
ภูเขาน้ำแข็งที่ปรากฏเกิดขึ้นจากการพลังปราณจิตที่เข้มข้นพวกมันเคลื่อนไหวไปตามจังหวะรำกระบี่ของถานท่ายหลิงเยียน
ภูเขากำลังบีบอัด
เหนือชั้นบรรยากาศภูเขาธารน้ำแข็งกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย ชิงสุ่ยสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าภูเขาน้ำแข็งมันกำลังทำการบีบอัดตัวเอง พลังปราณจิตที่อยู่ภายในกำลังถูกกดดันให้ลดขนาด แต่หากผู้ที่สัมผัสไม่มีพลังปราณจิตที่ละเอียดอ่อนคนเหล่านั้นก็จะสัมผัสไม่ได้
และแล้วแรงระเบิดก็สั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่ชิงสุ่ยสังเกตการสะบัดข้อมือของถานท่ายหลิงเยียนเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปทันทีหลังจากที่ภูเขาทำน้ำแข็งระเบิดเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังจะแตกสลายไปพร้อมกับเจ้าของภูเขา สิ่งที่ถล่มลงสู่เบื้องล่างทั้งใหญ่และและรุนแรง
หลังจากคลื่นลมที่รุนแรงผ่านไปบรรยากาศที่เคยผันผวนก็กลับคืนสู่ความสงบ ถานท่ายหลิงเยียนลืมตาฟื้นสติก่อนจะหันไปมองชายที่ที่อยู่ไม่ไกลด้วยรอยยิ้ม ในตอนนี้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสงบ ความสงบที่เชื่อมั่นในตัวของชายที่คอยหนุนหลังเธอ
”เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”ชิงสุ่ยค่อยๆก้าวเดินผ่านอากาศตรงเข้าหาถานท่ายหลิงเยียน
”มันยอดเยี่ยมจริงๆข้ารู้สึกถึงพลังงานอันเอ่อล้น และที่สำคัญข้ารู้สึกว่าเจ้าเก่งแทบจะทุกด้าน”ถานท่ายหลิงเยียนยิ้มและพยักหน้า
ชิงสุ่ยพยักหน้ายิ้มช่างเป็นเรื่องแปลกจริงๆที่ถานท่ายหลิงเยียนยอมเอ่ยปากชม “แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อข้าเก่งกาจขนาดนี้ ข้าก็สมควรที่จะได้รับเกียรติเป็นคู่ครองของแม่นางถานท่าย”
เมื่อมองเห็นใบหน้าอวดดีถานท่ายหลิงเยียนก็ยิ้มเยาะด้วยความร่าเริง เธอจะหนักถึงจิตใจที่สงบ และยิ่งสงบเมื่อผ่านเรื่องราวต่างๆ เธอรู้ได้ชัดเจนเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
”ขอบคุณมาก!!”ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาบาง
”อย่าใช้คำพูดเหมือนคนห่างเหินเลยคำพูดของเจ้าเหมือนคนที่กำลังไม่ต้องการข้า”ชิงสุ่ยตอบกลับ
ชิงสุ่ยหยอกล้อเธอด้วยรอยยิ้มในอดีตชิงสุ่ยเคยใช้ความพยายามมากมายในการพูดคุยกับเธอ ตอนนั้นเขาพูดกับเธอไปหลาย 10 ประโยค แต่ก็แทบไม่ได้รับคำพูดกลับมาเลยแม้แต่ประโยคเดียว
แต่โชคชะตาช่างน่าเหลือเชื่อตอนนี้คนที่เธอแทบไม่เคยตอบกลับ กลับกลายเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกสนุกและพูดคุยได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ เธอลบล้างความรู้สึกไม่สบายใจจนหมดสิ้น และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความคุ้นเคย ซึ่งเธอก็รู้สึกอบอุ่นและสบายใจ “แล้วเจ้าอยากให้ข้าใช้ประโยคคำพูดใดล่ะ?”
”เอ่อข้าอยากให้เจ้าพูดว่า ข้าต้องการเจ้า….”ชิงสุ่ยถูจมูก ตอนแรกเขาแค่เอ่ยปากออกมาโดยไม่คิดถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่เมื่อเขาฉุกคิดได้ทัน เขาก็เอ่ยปากออกไปแล้ว
ถานท่ายหลิงเยียนถึงกับสะดุ้งใบหน้าที่งดงามของเธอค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ
”เจ้าคือครอบครัวของข้าฉะนั้นเจ้าจึงเป็นคนสำคัญของข้า “ถานท่ายหลิงเยียนพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ
ชิงสุ่ยไม่คิดว่าเธอจะกล่าวอะไรแบบนี้ออกมาแม้น้ำเสียงของเธอจะเบามาก แต่ชิงสุ่ยก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
ชิงสุ่ยค่อยๆโอบกอดเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเขาเฝ้ามองการกระทำและเมื่อเห็นว่าถานท่ายหลิงเยียนไม่ได้ตำหนิ เขาจึงไม่ยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ”ช่างงดงามเหลือเกิน!!”
ชิงสุ่ยมองดูใบหน้าอันแสนงดงามอย่างใกล้ชิดมันทั้งเย็นชาและเร้าร้อนไปพร้อมกัน กลิ่นอายรอบตัวเธอเหมือนดอกบัวหิมะบนธารน้ำแข็งบริสุทธิ์ มันเป็นกลิ่นอายที่โดดเด่นจนชิงสุ่ยรู้สึกถึงความด้อยของตนเอง
ถานท่ายหลิงเยียนจ้องมองชิงสุ่ยดวงตาเปล่งประกายมันเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักและความชื่นชม ในไม่ช้าเธอก็แนบอิงใบหน้าพิงเข้ากับไหล่ชิงสุ่ย
เธอคือผู้หญิงสูงศักดิ์จึงมีการหลีกเลี่ยงสายตาเล็กน้อยแม้ชายคนนี้จะสัมผัสได้ถึงการรุกเร้าจากตัวถานท่ายหลิงเยียน เขาก็ต้องใช้ความพยายามและความกล้าหาญมากมายที่จะเผชิญหน้า
ชิงสุ่ยพยายามอดกลั้นความหุนหันพลันแล่นเอาไว้ขณะที่เขากำลังกอดชมงามอะไรที่ติกลิ่นอายที่ออกมาจากตัวของเธอให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายไม่ต่างจากคนรัก
หัวใจของเขาเหมือนกำลังขาดอะไรบางอย่างเหมือนว่าหญิงสาวกำลังรอคอยรอยจูบของเจ้าชาย แต่เธอก็มองดูเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเรียบเย็นคล้ายสายตาที่จับจ้องโจรร้าย
ชิงสุ่ยทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรเริ่มที่ตรงไหน แม้จะอยากจูบเธอมากเพียงใดก็ตาม
……………..
……………
เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสองก็ฝึกฝนต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินทางกลับไปยังหอคอยจักรพรรดิ ทุกคนร่วมโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมกัน แม้จะไม่ได้สนทนามากมาย แต่บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัว
”อาหารพวกนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ”ถานท่ายหลิงเยียนกำลังรับประทานอาหารด้วยความพึงพอใจ
ชิงสุ่ยคือผู้จัดเตรียมอาหารฉะนั้นรสชาติอาหารที่อยู่บนโต๊ะจึงล้ำเลิศเป็นเรื่องธรรมดา ”ถ้าหากเจ้าชอบข้าพร้อมจะทำให้เจ้ากินไปตลอดชีวิต”ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปตักน้ำซุปให้เธอ
”ได้เลยข้าจะกินมันไปตลอด”ถานท่ายหลิงเยียนตอบอย่างมีความสุข โดยไม่นึกถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ชิงสุ่ยได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่าเธอคงไม่ได้คิดอะไรเขาชื่นชอบหญิงสาวคนนี้มากๆ แล้วชอบมองดูใบหน้าอันแสนสนุกสนานของเธอ เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของผู้หญิงคนนี้
หลังจากมื้ออาหารถานท่ายหลิงเยียนก็เก็บจานเดินกลับเข้าไปในห้องครัว ภาพที่ชิงสุ่ยมันทำให้เขานึกถึงชีวิตในโลกที่ผ่านมา มันคือภาพการเป็นอยู่ของครอบครัวอันแสนสมบูรณ์อย่างแท้จริง
ถานท่ายหลิงเยียนสัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนที่มองมาจากด้านหลังเธอหันกลับมามองชิงสุ่ยและพยายามหลีกเลี่ยงสายตา ตอนนี้ชิงสุ่ยยิ่งรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่ได้ปกปิด เขาค่อยๆย่างก้าวเดินตรงเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ
ในขณะที่เธอกำลังเก็บจานหัวใจของเธอก็ยิ่งสั่นระรัวเมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังเข้ามาใกล้ เธอไม่สามารถระงับความรู้สึกตื่นเต้นได้อีกแล้ว