Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1896 - เพราะข้าก็รู้วิธีใช้พิษเช่นกัน
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1896 - เพราะข้าก็รู้วิธีใช้พิษเช่นกัน
ผู้นำเทวะสูงสุดกล่าวด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าการแสดงออกของชิงสุ่ยอย่างไรก็ตามรอยยิ้มที่เขาสร้างขึ้นก็ยังคงเป็นรอยยิ้มที่แสนเย็นชา ในขณะเดียวกันกลิ่นอายของเขาก็ยังคงปลดปล่อยระดับความรุนแรงออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ชิงสุ่ยตัดสินใจได้ง่าย
ชิงสุ่ยไม่คิดเลยว่าผู้นำเทวะสูงสุดจะพูดแบบนี้ออกมาแต่น่าเสียดายที่พลังการป้องกันของชิงสุ่ยแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคิด เขาจึงยังคงมั่นใจว่าผู้นำเทวดาสูงสุดไม่มีทางโจมตีไปทำอะไรเขาได้
”พอดีว่าข้าเองก็ไม่ค่อยสนใจคำพูดของเจ้าและไม่แน่ใจว่าเจ้าจะมีความสามารถมากพอจะทำเหมือนที่เจ้าว่าได้”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่ในมือของเขายังคงถือง้าวทองทะลวงศัตรูไว้อย่างแน่นหนา
”ก็ดีข้าเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้ดูเป็นขวัญตา!!”
ทันทีที่เขากล่าวจบวงแหวนปราณอสูรทมิฬก็ปรากฏขึ้นเหนือร่างกาย วงแหวนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายน่ากลัวค่อยๆเคลื่อนไหวแปรสภาพอากาศเป็นพิษพุ่งตรงเข้าหาชิงสุ่ย เนื่องด้วยความเชื่อมั่นในพลังของพิษที่ตนเองครอบครอง ผู้นำเทวะจึงไม่รู้ว่าชิงสุ่ยมีความสามารถในการการใช้พิษที่แข็งแกร่งเหนือผู้คน
ฝ่ามือตะขาบสหัสพิษ!!
คลื่นพลังสีแดงเข้มปรากฏเหนือฝ่ามือสีฟ้าครามของผู้นำเทวะหากดูอย่างใกล้ชิดแล้วจะพบว่าบริเวณรอบนอกของสีแดงเข้มปรากฏให้เห็นชั้นคลื่นพลังสีเทาและสีขาว เมื่อเวลาผ่านไปสีที่ปรากฏก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ และส่งกลิ่นเหม็นเน่าน่าอาเจียนออกมาอย่างท่วมท้น กลิ่นเหม็นเน่านี้เป็นกลิ่นเน่าที่ต่อให้กลั้นหายใจก็ไม่สามารถปิดกั้นได้ ฉะนั้นการกลั้นหายใจจึงไม่มีประโยชน์
และเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังจากตัวผู้นำเทวะชิงสุ่ยก็คงอยู่เฉยๆต่อไปไม่ได้ ถึงเวลาที่เขาจะต้องทำให้ชายคนนั้นรับรู้ถึงพลังที่แท้จริง
แต่ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวทันใดนั้นหญิงสาวที่เคยเป็นผู้นำเทวะก็พุ่งทะยานมายืนอยู่ตรงหน้าเขาเพื่อเข้าแทรกแซงการต่อสู้
”หยุดเดี๋ยวนี้ท่านห้ามแตะต้องชายคนนี้เด็ดขาด!!”หญิงสาวผู้นั้นจ้องมองผู้นำเทวะด้วยสายตาที่แน่วแน่ เธอปลดปล่อยพลังกลิ่นอายสูงสุดเช่นกัน
”ฮ่าฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไร เจ้าต้องการสู้กับข้าแทนสินะ?”ผู้นำสูงสุดที่กำลังปลดปล่อยพลังเข้าโจมตีชิงสุ่ย เมื่อเขาเห็นเธอเข้ามาขวาง เขาก็รีบหยุดมือ
”ถ้าหากท่านยังคิดจะโจมตีชายคนนี้อีกข้าจะเป็นคนหยุดท่านเอง”หญิงสาวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
”สาวน้อยข้าไม่เคยบังคับอะไรเจ้ามาก่อนเลย ในใจของข้า เจ้าคือหญิงสาวที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ทำไมเจ้ากลับเลือกเด็กน้อยคนนี้? พวกเจ้าทั้งสองคนเคยนอนด้วยกันแล้วสินะ”ถึงแม้ว่าผู้นำเทวะจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม กลิ่นอายรอบตัวของเขาบ่งบอกถึงความโกรธอย่างชัดเจน
”แล้วทำไมท่านถึงต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับทุกคนที่ข้ารู้จักด้วย?”หญิงสาวผู้นั้นจ้องมองผู้นำเทวะสูงสุดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ใบหน้าของผู้นำเทวะสูงสุดแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าหมองก่อนที่ดวงตาของเขาจะจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวคนนั้น “ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ตอนแรกข้าต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ามาเป็นผู้หญิงของข้าโดยวิธีที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปเขาทำกัน แต่ในเมื่อเจ้าคิดจะหนีจากข้า วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าตกเป็นของข้า”
”ท่านคิดจริงๆเหรอว่าท่านจะทำแบบนั้นกับข้าได้?เพราะต่อให้ท่านทำสำเร็จ ร่างของคนที่ท่านจะได้ไปก็จะเป็นเพียงแค่ร่างคนตายเท่านั้น”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ”ฮ่าฮ่า ฮ่า เจ้าช่างอ่อนต่อโลกยิ่งนัก แม้เจ้าจะฆ่าตัวตาย ข้าก็จะคืนสภาพร่างกายของเจ้า และทำให้เจ้าเป็นของข้า พวกเราจะทำมันทั้งคืน”ผู้นำเทวะจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาอำมหิต
หญิงสาวคนนี้ไปหน้าซีดเซียวเล็กน้อยแน่นอนว่าถ้าเป็นอย่างที่ผู้นำเทวะสูงสุดกล่าว มันคือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตายเสียอีก ฉะนั้นวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงความทุกข์ระทมเหล่านั้นได้คือการทำร้ายร่างกายตัวเองให้แหลกเป็นชิ้น
”สำหรับคนชั่วช้าอย่างเจ้าเอาแต่คิดเรื่องสกปรกบีบบังคับให้หญิงสาวหวาดกลัว ว่าแต่เจ้ามีปัญญาทำอะไรได้อีกบ้าง?”ชิงสุ่ยเริ่มกล่าวด้วยถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม
”เจ้าเด็กน้อยข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าความตายมันเป็นอย่างไร พวกนางที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้า ก็เป็นหญิงสาวของเจ้าใช่หรือไม่? ฮ่า ฮ่า ฮ่า………”ผู้นำเทวะสูงสุดจ้องมองบรรดาหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังชิงสุ่ยขณะที่เขากล่าว ในตอนแรกชิงสุ่ยไม่ค่อยแยแสในคำพูดของเขาแต่เมื่อได้ยินคำพูดสกปรกทั้งหมด เขาก็เริ่มรังเกียจจนถึงกระดูกดำ “วันนี้คือวันตายของเจ้า”
”ฮ้่าฮ่า ฮ่า”ผู้นำเทวะสูงสุดระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยกำลังโกรธจัด ดูเหมือนสิ่งที่เขาได้ยินจะเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิตของเขา
ในทางกลับกันหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็จ้องมองชิงสุ่ยด้วยท่าทีที่แปลกไป
”เอ่อแม่นางตงฟาง พวกเราช่วยกันโจมตีผู้นำเทวะสูงสุด เจ้าว่ามันเป็นความคิดที่ดีหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามขณะมองดูหญิงสาวที่กำลังขาดสติ
หญิงสาวคนนั้นกุมขมับพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวเธอมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นคง “พวกเราจะเอาชนะชายคนนั้นได้จริงๆหรือ?”
”ถ้าเราไม่ลองก็คงไม่รู้ฮ่า ฮ่า ฮ่า ต่อให้เขาไม่ตายผิวหนังของเขาจะต้องหยุดนอกแต่ข้ามั่นใจว่าเขาจะต้องตายเพราะพิษของข้า”ชิงสุ่ยยิ้ม
นี่ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ชิงสุ่ยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับทักษะการใช้พิษเลยเพราะการใช้พิษมันไม่ใช่การต่อสู้ที่เป็นธรรมนอกจากนี้หากปล่อยพิษในปริมาณที่มากเกินไป มันก็จะส่งผลต่อหัวใจของผู้ใช้
ถึงแม้ชิงสุ่ยจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพิษแต่ทุกครั้งที่เขาเจอสิ่งที่มีพิษเขาก็จะเก็บรวบรวมเอาไว้ จนกระทั่งภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะพื้นที่ส่วนหนึ่งกลายเป็นพิษได้อย่างไม่น่าเชื่อ พิษที่เกิดจากการทับถมกันเป็นเวลานาน ได้พัฒนาจนกลายเป็นพิษที่ร้ายแรง
”สิ่งนี้สำหรับเจ้ามันคืออุปกรณ์ที่มีพิษความเข้มข้นสูง ถ้าหากเจ้าสามารถเชือดเฉือนผิวหนังของเขาได้ ชายคนนั้นจะตกอยู่ในสถานการณ์กดดันทันที แต่ถ้าเจ้าถูกเขาใช้พิษโจมตี เจ้าก็จงใช้มีดเล่มนี้รับมือกับชายผู้นั้น “ชิงสุ่ยมอบมีดพิษมังกรขณะกล่าวอธิบาย ชิงสุ่ยหลอมมีดสั้นชิ้นนี้ขึ้นมาจากกระดูกส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของมังกรพิษแล้วปล่อยให้มันจมสู่ทะเลสาบพิษอันแสนเข้มข้นมาเป็นเวลาแสนนาน
ด้ามจับของมีดสั้นพิษมังกรทำมาจากเพชรและชิ้นส่วนอุกกาบาตโดยประสานพลังของชิงสุ่ยเข้าไป จนทำให้พวกมันมีสถานะต้านทานพิษที่ทรงพลัง
หญิงสาวคนข้างหลังเลก่อนจะหยิบมีดสั้นเธอดูไม่ออกเลยว่ามีดเล่มนี้จะมีพิษที่แข็งแกร่งอย่างที่ชิงสุ่ยกล่าว แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกไม่สบายใจคือกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวมีด
แต่ทันทีที่เธอสัมผัสเธอรู้สึกได้เลยว่ามีดเล่มนี้ไม่ใช่มีดธรรมดา