Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1915 - เจ้าคิดว่าเจ้าควรยืนอยู่เหนือหัวของข้าในฐานะผู้อาวุโสที่น่านับถือ
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1915 - เจ้าคิดว่าเจ้าควรยืนอยู่เหนือหัวของข้าในฐานะผู้อาวุโสที่น่านับถือ
ชิงสุ่ยไม่รู้สึกเกรงกลัวคำพูดข่มขู่และไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นเขาสรุปเหตุการณ์จากสีหน้าการแสดงออกของศัตรู และเชื่อมั่นว่าพลังปราณจิตของเขาจะไม่มีทางโกหกความรู้สึก ซึ่งกำลังบอกว่าชายชราคนที่พูดไม่ได้เป็นคนดีเลย
ชายชราตกตะลึงในคำพูดของชิงสุ่ยอย่างหนักเนื่องจากไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขามาก่อน อันที่จริงต้องเรียกว่าไม่มีใครกล้าพูดจาดูถูกกับเขามาก่อนเลย แต่เขาก็ยังฝืนรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นออกมา
การโดนดูถูกจากเด็กน้อยต่อหน้าคนหมู่มากมันทำให้ชายชราโกรธแค้นแต่ก็ต้องอดทน ในสายตาของเขามดไม่ควรมีปาก ไม่ว่าจะแสดงความกล้าหาญต่อหน้ามนุษย์เพียงใด มดก็ยังถูกบดขยี้ได้โดยไม่ต่างจากฝุ่น ”เจ้าหนูน้อยดูเหมือนจะไม่มีคนคอยสอนมารยาท เจ้าถึงไม่รู้จักวิธีการแสดงความเคารพผู้อาวุโสสินะ? ในเมื่อข้ามาที่นี่ด้วยตัวเอง สงสัยข้าจะต้องสอนบทเรียนให้เจ้าได้รู้”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความบึ้งตึง
”ใครกันที่ทำให้เจ้าคิดว่าเจ้าควรยืนอยู่เหนือหัวของข้าในฐานะผู้อาวุโสที่น่านับถือ?”ชิงสุ่ยถามกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แม้ว่ารอยยิ้มของเขาจะปรากฏบนใบหน้าแต่มันเป็นรอยยิ้มที่อัดแน่นไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เขาไม่ควรค่าพอที่จะได้รับความเคารพจากชิงสุ่ยเลย คนประเภทนี้ไม่ควรแม้แต่จะเอ่ยปากต่อหน้าเขา
ชิงสุ่ยเฝ้าสังเกตสีหน้าการแสดงออกของผู้นำราชันย์ปราชญ์ทั้งสามตอนที่เขาเอ่ยปากกล่าวคำยั่วยุ คนทั้งสามคนยังคงไว้ซึ่งสีหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในขณะที่ทั้ง 3 คนจับจ้องมาที่ตัวชิงสุ่ย ดูเหมือนสีหน้าของทั้งสามจะเคร่งเครียดยิ่งกว่า 2 คนที่เหลือเสียอีก
”ฮ่าฮ่า ฮ่า!!”
สีหน้าการแสดงออกของชายชราที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธแค้นตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแห้งเหมือนติดอยู่ในลำคอ ดวงตาของเขาหรี่แคบ สร้างความหนาวเหน็บยิ่งกว่าดวงตาอสรพิษ หากเป็นคนธรรมดา เขาก็คงจะหัวใจหยุดเต้นจนตายทันทีหลังจากสบตากับชายชราผู้นี้
บางคนบอกว่าดวงตาคือหน้าต่างสู่จิตวิญญาณฉะนั้น การสบตากับผู้ทรงพลัง จะสามารถส่งผ่านวิญญาณจากฝ่ายหนึ่งเพื่อบดขยี้วิญญาณที่อ่อนแอกว่าของอีกฝ่ายได้ทันที มันคงเทียบได้กับการมองหน้าใครสักคนนึงแล้วรู้สึกอึดอัดใจ หวาดกลัวจนอยากจะหลบหนี
”พ่อหนุ่มน้อยการที่เจ้ากล้าแสดงความหยิ่งยโสแบบนี้ออกมา นั่นก็หมายความว่าเจ้าเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเจ้า แต่ถ้าหากความแข็งแกร่งของเจ้ามันอ่อนแอ เจ้าจะกลายเป็นไอ้โง่ที่แสดงความหยิ่งยโสโดยไม่รู้จักการประเมินตน” ชายชราเริ่มกล่าววาจาถากถาง
”ฮ่าฮ่า ข้ายังเป็นเพียงแค่เด็ก ข้าจึงมีโอกาสแก้ไขข้อผิดพลาดของข้า แม้ว่าข้าจะเป็นคนโง่ ก็เป็นคนโง่แค่เพียงครั้งเดียว ซึ่งมันแตกต่างจากท่าน ท่านแก่แล้ว แต่กลับไม่รู้จักอะไรเลย ความหยิ่งยโสมันคงบดบังดวงตาของท่าน สงสัยว่าท่านจะแก่แต่ตัว สมองคงจะเลอะเลือนไปหมดแล้ว”ชิงสุ่ยพูดจาถากถางดวงตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ความหมายเบื้องหลังคำพูดของชิงสุ่ยมันชัดเจนจนกล้ามเนื้อบนใบหน้าชายชราถึงกับกระตุก”เจ้าสมควรตาย!!”
ชายชราสบถคำพูดทั้ง4 ออกมา ก่อนจะสะบัดฝ่ามือพุ่งเข้าหาชิงสุ่ย
ฝ่ามือนักปราชญ์!!
ฝ่ามือสีขาวหยกขนาดยักษ์2 ฝ่ามือระเบิดออกจากฝ่ามือของชายชรา พร้อมกับปลดปล่อยรัศมีกลิ่นอายบริสุทธิ์สง่างามไม่มีผู้ใดเทียบเทียม มันเป็นกลิ่นอายที่มากพอจะทำให้มนุษย์ทุกคนก้มลงกราบ แต่ภายใต้แสงสว่างของฝากมือ มันให้ความรู้สึกถึงจิตสังหารที่ไม่สามารถต่อต้านได้อย่างชัดเจน
ชิงสุ่ยถึงกับส่ายหน้า”ถ้าหากหัวใจของชายคนนั้นชั่วร้าย ฝ่ามือนักปราชญ์ของเขาก็ไม่มีวันบรรลุขั้นสูงสุด”
เพลงหมัดตันเปียน
ฝ่ามือของชิงสุ่ยแปรสภาพกลายเป็นหยกสีขาวเรืองแสงสว่างไสวเหมือนผลึกแก้วพร้อมกับปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อันล้นหลาม กดดันพลังคู่ต่อสู้ให้อ่อนแอจนไร้ค่าในทันตาเห็น
ปังงงง!!
ทันทีที่ปะทะชิงสุ่ยถอยหลังเพียงเล็กน้อย แต่ฝ่ามือของเขาก็ยังปลดปล่อยประสิทธิภาพสูงสุด มันเคลื่อนไหวเหมือนกับเงาพุ่งออกไปก่อให้เกิดพลังโจมตี จากนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายจนกลายเป็นเงา ปลดปล่อยฝ่ามือคล้ายกับเมฆที่กำลังไหลไปตามรูปแบบสายน้ำ
ฝ่ามือเมฆา!!
ชิงสุ่ยขยับมุมการโจมตีไปตามการเคลื่อนไหวของเขาฝ่ามือของเขาโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วบังคับให้การฟื้นตัวของศัตรูเป็นไปอย่างยากลำบาก
ในครั้งนี้ผู้ที่ถูกกระแทกถอยหลังไม่ใช่ชิงสุ่ยแต่เป็นชายชราที่ต้องถอยหลังไปเรื่อยๆตามจำนวนครั้งของการโจมตี
ภาพเงาของชิงสุ่ยยังคงเคลื่อนที่เป็นระบบภายใต้พลังย่างก้าว9 เทวา แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะไม่ได้ดูเร่งรีบ แต่จังหวะของเขายังคงต่อเนื่องไม่ช้าไม่เร็ว
ชิงสุ่ยมุ่งเน้นไปในการฝึกฝนเพลงหมัดของเขาในทุกๆเช้าซึ่งมันทำให้พลังเพลงใหม่ของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก จนปัจจุบันเพลงหมัดไทเก๊กได้ก้าวขึ้นสู่ดินแดนใหม่อย่างสมบูรณ์ และการต่อสู้ที่แท้จริงจะเป็นตัวยกระดับความแข็งแกร่งของเขาเช่นกัน ในตอนแรกชายชราประเมินคู่ต่อสู้ของเขาต่ำเกินไปจนทำให้เขากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถ้าหากเขาคิดถี่ถ้วนดีกว่านี้ เขาก็คงรับมือชิงสุ่ยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
เนื่องจากเขาคิดช้าเกินไปสิ่งที่เขาทำจึงถูกชิงสุ่ยขัดจังหวะตลอดเวลา นั่นก็หมายความว่าชิงสุ่ยได้ปิดผนึกการต่อสู้ของชายชราไปอย่างสมบูรณ์ มันเหมือนกับการบีบคอชายชราจนเขาเริ่มอึดอัดจนหายใจไม่ออก หากชิงสุ่ยบีบแน่นขึ้น พลังของชายชราจะถูกกีดขวางจนร่างกายอ่อนแอไปเอง
ฝ่ามือเมฆาเพลงหมัดตันเปียน วิชาค้อนสะท้านโลกา
ชิงสุ่ยปลดปล่อยพลังของเพลงหมัดไทเก๊กอย่างต่อเนื่องทุกกระบวนท่าเต็มไปด้วยความสง่างามและแข็งแกร่ง บดบังความสามารถของศัตรูส่งผลให้ศัตรูเริ่มท้อถอย อ่อนแรง เริ่มผิดพลาด
พลังที่เขาปลดปล่อยออกไปแม้ว่าชายชราจะป้องกันได้อย่างต่อเนื่อง แต่แรงสั่นสะเทือนก็เริ่มทำให้อวัยวะภายในของชายชราบาดเจ็บทับถม
ชายชรายังคงป้องกันและถอยหลังต่อเนื่อง
ปังงงง!!
ภายในเวลาไม่ถึงก้านธูปผู้อาวุโสถูกอัดกระแทกจะเริ่มถอยร่นเป็นระยะไกล ชิงสุ่ยหยุดการโจมตี และมองดูอาการบาดเจ็บของชายชราด้วยสายตาพึงพอใจ
ชิงสุ่ยโจมตีชายชราจนอ่อนล้าโดยอาศัยเพียงแค่ทักษะเพลงหมัดไทเก๊กเขาเองยังไม่ได้ใช้แม้แต่ภูเขา 9 เทวา นั่นก็หมายความว่าศัตรูที่เขากำลังเผชิญหน้า เขาใช้พลังเพียงแค่ 70 ส่วนก็เอาชนะได้โดยไม่ยากเย็น