Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1924 - สมมติฐาน องค์จักรพรรดิคลั่งที่น่าเกรงขาม
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1924 - สมมติฐาน องค์จักรพรรดิคลั่งที่น่าเกรงขาม
นายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ องค์จักรพรรดิคลั่ง”
”เจ้าพอจะรู้ถึงสภาพร่างกายขององค์จักรพรรดิ์คลั่งหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
”ข้ารู้แค่เพียงเล็กน้อย”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวยืนอยู่ข้างใด ชายคนนี้เคยเป็นคนของตงฟ่างจือซิ่ว และตงฟ่างจือซิ่วก็เคยอยู่ฝั่งเดียวกับผู้นำหมาป่าเทวะ ซึ่งหลังจากได้พูดคุย ชิงสุ่ยรู้แล้วว่านายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวคือคนที่มีความลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ
นายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวกล่าวต่อไปว่า “ปัญหาที่พวกเขากำลังพยายามแก้ไข น่าจะเป็นการซ่อมแซมสมอง ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบแน่ชัด ดูเหมือนองค์จักรพรรดิคลั่งจะได้พบเจอกับอะไรบางอย่าง จนเขาเก่งขึ้นอย่างฉับ
บทที่ 1924 – สมมติฐาน องค์จักรพรรดิคลั่งที่น่าเกรงขาม
นายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ องค์จักรพรรดิคลั่ง”
”เจ้าพอจะรู้ถึงสภาพร่างกายขององค์จักรพรรดิ์คลั่งหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
”ข้ารู้แค่เพียงเล็กน้อย”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวยืนอยู่ข้างใด ชายคนนี้เคยเป็นคนของตงฟ่างจือซิ่ว และตงฟ่างจือซิ่วก็เคยอยู่ฝั่งเดียวกับผู้นำหมาป่าเทวะ ซึ่งหลังจากได้พูดคุย ชิงสุ่ยรู้แล้วว่านายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวคือคนที่มีความลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ
นายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวกล่าวต่อไปว่า “ปัญหาที่พวกเขากำลังพยายามแก้ไข น่าจะเป็นการซ่อมแซมสมอง ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบแน่ชัด ดูเหมือนองค์จักรพรรดิคลั่งจะได้พบเจอกับอะไรบางอย่าง จนเขาเก่งขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ในขณะเดียวกัน เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถใช้พลังของเขาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม”
ยิ่งได้ยินชิงสุ่ยก็ยิ่งตกใจในสถานการณ์แบบนี้ คนจากภายในไม่ควรนำความลับแบบนี้ออกมาเล่าให้คนภายนอกฟัง ยิ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับสมองที่ทำให้คนที่แข็งแกร่งกลายเป็นคนโง่ ยิ่งไม่ควรนำออกมาเล่าให้เขาฟัง
ในโลกใบนี้คนทั่วไปมักจะไม่ได้ใช้สมองในการคิดอย่างเหมาะสมจนทำให้หลักความคิดของโลกนี้บิดเบี้ยว และเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับความคิดสมอง ผู้คนก็จะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ค่อยมีคนเป็นกังวลเกี่ยวกับสมองของตนเอง
แต่ในกรณีขององค์จักรพรรดิคลั่งมันช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าแปลกประหลาดมาก ถึงขนาดที่ทำให้ตัวเองคิดว่าความคิดของเขามันไม่ปกติ
”ข้าจะพยายามลองรักษาดูแล้วกัน”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวตอบเขาเองก็ไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้เผชิญหน้ากับคนผู้แข็งแกร่ง ถ้าหากองค์จักรพรรดิคลั่งแห่งมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ฟื้นฟูสภาพกับการเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาด ด้วยพละกำลังและสมอง อะไรมันจะเกิดขึ้น?
”ยอดเยี่ยมไปเลยคุณชายชิง องค์จักรพรรดิคลั่งจะมาที่นี่ในวันพรุ่ง แล้วเราค่อยมาเจอกันอีกครั้งเมื่อท่านองค์จักรพรรดิคลั่งมาถึง”นายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวยิ้มก่อนจะจากไป
เมื่อนายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวจากไป บรรดาผู้คนและหอคอยจักรพรรดิก็กลับคืนสู่ความสงบ ไม่ว่าจะเป็นเทียนอี่หรือคนอื่นๆ ต่างก็ทำการรักษาคนไข้โดยไม่เก็บค่าตอบแทน ตอนนี้หอคอยจักรพรรดิไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน และมีมากพอจะใช้จ่ายไปตลอดชีวิต พวกเขาจึงไม่กังวลเรื่องเงินเช่นกัน
การช่วยชีวิตผู้อื่นคือพันธกิจของหอคอยจักรพรรดิที่ยึดมั่นเอาไว้ในหลักคุณธรรม
ในไม่ช้าชื่อเสียงของหอคอยจักรพรรดิก็กลับคืนภายในเวลาไม่ถึงวัน คนป่วยมากมายเดินทางมาที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อทำการรักษา บางคนก็ร่ำรวยพร้อมจะมอบเงินทองให้กับหอคอยจักรพรรดิ ในขณะที่บางคนก็ต้องการใช้เงินเพื่อยืดอายุของตนเอง
………..
ในวันถัดมาช่วงเวลาประมาณเที่ยง กลุ่มคนทั้ง 5 คนนำกลุ่มโดยชายร่างยักษ์รูปร่างคล้ายกับหอคอยเหล็ก ชิงสุ่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นชายคนนั้น ด้วยพลังของทักษะเบิกเนตรสวรรค์ ชิงสุ่ยเหมือนกำลังดูดวงอาทิตย์ขนาดเล็กที่อยู่บนหัวของชายผู้นำ มันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังปราณสีม่วงที่แข็งแกร่ง
พลังงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต!!
โดยปกติแล้วชิงสุ่ยจะมองเห็นพลังชีวิตของผู้คนได้โดยอาศัยทักษะเบิกเนตรสวรรค์แต่ละคนจะมีรูปนักพลังที่แตกต่างกันไป นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเลยที่ได้เห็นพลังอันแสนน่าหวาดกลัวเช่นนี้ เขาได้แต่สงสัยว่ามันเป็นพลังที่แท้จริงของชายผู้นั้น หรือเพราะทักษะเบิกเนตรสวรรค์ของเขาพัฒนา เขาถึงได้มองเห็นพลังมากมายขนาดนี้ได้
ตอนที่เขามองเห็นชายคนนี้เขาก็สังเกตเห็นนายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัว เขาจึงรู้ได้ทันทีเลยว่าชายคนนี้เป็นใคร
องค์จักรพรรดิคลั่ง!!
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่บุคคลทรงพลังแบบนี้จะอุดมไปด้วยพลังแห่งชีวิตมากมาย!!ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาจะต้องทำคือทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้องค์จักรพรรดิคลั่งกลับมามีความเฉลียวฉลาด แล้วปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในมหาจักรวรรดิก็จะถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
”คุณชายชิงข้าขอแนะนำให้เจ้ารู้จัก ท่านพรุ่งนี้ก็คือองค์จักรพรรดิคลั่ง ส่วนชายหนุ่มคนนี้ก็คือชิงสุ่ย” นายน้อยที่ 2 แห่งตระกูลฮัวกล่าวแนะนำอย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากนายน้อยที่2 แห่งตระกูลฮัวและองค์จักรพรรดิคลั่ง ผู้ติดตามยังมีชายชราอีก 3 คน แต่ละคนมีลักษณะแก่ชรามากและสวมชุดคลุมสีเทา พลังชีวิตรอบตัวของแต่ละคนเรียกได้ว่าเหนือกว่าเฉิงหยวนมากมายหลายเท่า ฉะนั้นคนเหล่านี้ คงจะมีสถานะดำรงอยู่ที่ไม่ธรรมดาแล้วจะต้องอยู่เหนือกว่าผู้นำเทวะสูงสุดอย่างแน่นอน
”ข้าน้อยยินดีต้อนรับท่านองค์จักรพรรดิคลั่ง”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
แต่สิ่งที่ชายคนนั้นทำคือการเอื้อมมือขึ้นไปเกาหัวซึ่งมันสร้างความประหลาดใจให้กับชิงสุ่ย ชายคนนี้ช่างดูเรียบง่ายและดูซื่อสัตย์ เขายิ้มอย่างสุภาพและกล่าวว่า “ยินดีที่ได้พบ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อให้ท่านวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยที่ข้าเป็นอยู่”
ถึงแม้ทางของชายหนุ่มจะดูเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามคำพูดของชายผู้นั้นสร้างความประทับใจให้กับชิงสุ่ย มันเป็นคำพูดของคนที่มีความใจกว้าง แต่ดวงตาแฝงไปด้วยปัญญาอันล้ำลึก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของชิงสุ่ย เขาจะรีบใช้เนตรสวรรค์มองดูไปที่ร่างอันใหญ่โตขององค์จักรพรรดิคลั่ง ทันทีที่เขาเปิดใช้ทักษะการตรวจสอบเขาก็มองเห็นโครงสร้างร่างกายที่มีรูปแบบลักษณะคล้ายซุ้มประตูโค้ง ซึ่งตามตำนานแล้วใครก็ตามที่มีพลังรูปทรงนี้จะเป็นคนที่มีพลังระดับน่าหวาดกลัว
แต่สมอง1 ใน 3 ของได้ถูกทำลายโดยคลื่นพลังเหล่านั้น ชิงสุ่ยจมเข้าสู่ความกลัวอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าส่วนของสมองจะถูกทำลายไปเพียงแค่ 1 ใน 3 แต่ถ้าหากวัฏจักรพลังยังวงเวียนเช่นนี้ต่อไป องค์จักรพรรดิคลั่งจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงแค่ 10-20 ปีเท่านั้น
ใครคือผู้ใช้แมลงพิษ?แรงจูงใจของคนที่ทำคืออะไร? แล้วองค์จักรพรรดิคลั่งรู้เรื่องนี้หรือไม่
ชิงสุ่ยมีคำถามมากมายอยู่ในหัวองค์จักรพรรดิ์คลั่งเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เขารู้ตัวหรือไม่ว่าในหัวของเขานั้นมีแมลงกินสมองอยู่ภายใน? แล้วทำไมถึงปล่อยให้มันอยู่ในนั้นมาเป็นเวลานาน แล้วถ้าหากองค์จักรพรรดิคลั่งไม่รู้ล่ะ? เพียงแค่ข้อสันนิษฐานก็ทำให้ชิงสุ่ยเย็นว่าไปถึงสันหลังคนที่ฝังแมลงเอาไว้ในหัวองค์จักรพรรดิคลั่งจะต้องวางแผนอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อย่างแน่นอน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากองค์จักรพรรดิคลั่งไม่ได้เป็นคนโง่เหมือนตอนนี้?ชิงสุ่ยบอกได้ทันทีว่าคนคนนี้จะต้องสำเร็จพลังในระดับที่ผู้อื่นไม่มีทางคาดฝันถึง หรือว่าองค์จักรพรรดิจะมองเห็นถึงสิ่งนี้? เขาเลยต้องการให้องค์จักรพรรดิคลั่งเป็นตัวแทนที่เตรียมขึ้นมาเป็นผู้นำมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ เพียงแต่สติปัญญาขององค์จักรพรรดิคลั่งเป็นปัญหาหลักที่ใหญ่เกินกว่าองค์จักรพรรดิจะมอบอณาจักรเอาไว้ในมือได้
สมองของชิงสุ่ยขบคิดซ้ำไปซ้ำมา จนเขาสรุปได้ว่าเขาค่อยหาคำตอบหลังจากรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งเสร็จสิ้น
”ได้โปรดให้ข้าตรวจชีพจรของท่านด้วย”
องค์จักรพรรดิคลั่งให้ความร่วมมือชิงสุ่ยเป็นอย่างดีเขาเหยียดแขนออกมา จากนั้นก็ให้ชิงสุ่ยวางนิ้วของเขาไว้บนข้อมือ หลังจากที่ชิงสุ่ยหลับตา เขาก็รับรู้ถึงสภาพร่างกายขององค์จักรพรรดิคลั่ง เขารู้สึกถึงความแข็งแรงทั้งหมด แต่เขาก็ต้องตกใจที่ได้รู้ผลลัพธ์ของมัน
องค์จักรพรรดิคลั่งคือผู้ฝึกพลังที่น่ากลัวด้วยพลังหลักที่เขาใช้ในการฝึกฝนคือทักษะมังกรคชสารภูเบศ ทักษะอันยิ่งใหญ่ระดับราชวงศ์ หากนับถือแค่ความแข็งแกร่งอย่างเดียว หากองค์จักรพรรดิคลั่งปลดปล่อยพลังโจมตีชิงสุ่ย ชิงสุ่ยคงจะต้องตายทันทีโดยไม่มีโอกาสได้ป้องกัน