Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1931 - เป็นลูกศิษย์โดยไม่ตั้งใจ รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธ
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1931 - เป็นลูกศิษย์โดยไม่ตั้งใจ รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธ
ไม่ใช่ว่าชิงสุ่ยจะรู้สึกไม่พอใจเขาบอกได้เลยว่าคนเหล่านี้ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา และด้วยสถานะในปัจจุบันของชิงสุ่ย เขาจึงพอเข้าใจที่มาของคนเหล่านี้ได้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือพลังปราณจักรพรรดิปราชญ์วนเวียนอยู่ทั่วร่างกาย และใบหน้าของชายหนุ่มก็ช่างคล้ายคลึงกับใบหน้าขององค์ชายน้อยและองค์มกุฎราชกุมาร
พวกเขาทั้งหมดเดินตรงไปที่สวนด้านหลังหอคอยจักรพรรดิชิงสุ่ยนำทางทุกคนมาที่ศาลาพักและเชิญให้ทุกคนนั่ง ตอนที่เขาเดินผ่านห้องโถงใหญ่ เขาได้ยินเสียงสมาชิกครอบครัวของเขา เขาจึงพาทุกคนออกห่างจากเสียงการพูดคุยและตรงมายังสถานที่เงียบสงัดอย่างสวนหลังบ้านแทน
”มีอะไรที่พวกท่านอยากจะถามข้าหรือไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวถาม ชายชรามองเห็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นบนใบหน้าชิงสุ่ย”พ่อหนุ่มน้อย ชายคนนี้คือหลานชายแสนรักของข้า ข้ามาที่นี้วันนี้ก็เพื่อหวังว่าท่านจะยอมรับหลานของข้าเป็นศิษย์”ชายชรากล่าวอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ชิงสุ่ยถึงกับตกตะลึง เขาจ้องมองชายชราโดยไม่รู้ว่าเขาจะต้องตอบกลับไปอย่างไร
”ท่านบรรพบุรุษ….นี่มัน…..เรื่องนี้มัน….”ชายหนุ่มตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา
”องค์ชายสิบสามเจ้าไม่เชื่อใจอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าพวกเราพยายามจะกลั่นแกล้งเจ้าใช่หรือไม่? ถ้าหากเจ้ามองไม่เห็นความหวังดีของพวกเรา ข้าคงผิดหวังในตัวเจ้ามาก”ชายชรากล่าวขัดจังหวะคำพูดของชายหนุ่ม
”ท่านผู้อาวุโสท่านต้องล้อเล่นข้าแน่ๆ ถ้ายังไม่มีคุณสมบัติมากพอจะรับลูกศิษย์ ถ้าหากท่านต้องการให้ข้าสอนทักษะการแพทย์แล้วก็ข้าไม่มีปัญหา ข้าพร้อมจะสอนทุกคน แต่ถ้าหากต้องรับเป็นศิษย์ข้าเกรงว่าข้ายังสามารถไม่พอ ข้าจึงพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้”ชิงสุ่ยโบกมือ มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ และสิ่งนี้ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับเขาเลย เขาไม่จำเป็นต้องทำมัน
”ฮ่าฮ่า ฮ่า แม้ว่าข้าจะแก่ชราจนใกล้จะลงหลุม แต่ข้าก็ยังพอมีดวงตาที่มองเห็นความสามารถของผู้คน โปรดอย่าแสดงตัวตนว่าเป็นคนต่ำต้อยอีกเลย ท่านไม่ควรดูถูกตนเอง ข้ารับรองได้เลยว่าการมาถึงของข้าในครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาในแง่ร้ายแม้แต่น้อย ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนฉลาด ท่านย่อมรู้แรงจูงใจของข้า” ชายชราหัวเราะเบาๆ พร้อมกับจิบน้ำชาที่ชิงสุ่ยรินให้กับเขา
”ผู้อาวุโสถึงแม้ว่าชีวิตที่เหลืออยู่เพียงแค่ 10 ปีจะไม่ได้ยาวนานนัก แต่ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเร่งรีบ”ชิงสุ่ยจ้องมองชายชรา ด้วยความสามารถของเขา เขาจึงบ่งบอกสภาพร่างกายชายชราตามธรรมชาติได้ แม้ว่าชรายังไม่แก่จนถึงจุดใกล้ตายแต่เหตุผลส่วนใหญ่ก็คงเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แม้ว่าชิงสุ่ยจะช่วยยืดเวลาให้กับเขา มันก็คงยืดได้อีกไม่กี่ปี นอกจากนี้ด้วยดินแดนที่ชายชราอยู่ ต่อให้มีชีวิตมากกว่า 10 ปีเหลือเพียงแค่ 10 ปีมันก็ไม่ได้แตกต่างกันอีกแล้ว
ชายชราค่อนข้างตกตะลึงแม่เขาเองจะเคยได้ยินข่าวลือเรื่องที่ว่าชายหนุ่มเป็นหมอเทวดา แต่เขาถึงกับต้องรู้สึกตกใจทันทีที่ชายหนุ่มผู้ที่อยู่เบื้องหน้าบ่งบอกอายุขัยที่เหลือของเขาได้ทันที
”การพูดความจริงย่อมเป็นสิ่งที่ดีองค์ชายสิบสามคนนี้ มีความรู้ความสามารถและจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งองค์จักรพรรดิสูงสุดแห่งมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์คนต่อไป ฉะนั้นเขาจะทำให้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องขององค์จักรพรรดิคลั่งอีกต่อไป เจ้าหนูนั่นโชคดีที่ได้เจ้ามาเป็นคนรักษาให้ ส่วนเจ้าเด็กคนนี้ ข้าเชื่อว่าเขาจะทำให้ท่านสนใจได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ทำให้ท่านสูญเสียสิ่งใดไปเลย”ชายชรากล้าว
อันที่จริงแล้วต่อให้มีชายชรา ชิงสุ่ยก็คงต้องหาวิธีสานสัมพันธไมตรีกับองค์ชายสิบสาม มันเป็นเพราะว่าองค์ชายสิบสามคือผู้สืบทอดมรดกแห่งเทพสงคราม แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยที่จะทำคือการทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและองค์ชายสิบสามจบลงแบบเหลียนหลิงเฟิงและหยินต่งนั่นก็คือการกลายเป็นพี่น้องกับเขา
”ท่านผู้อาวุโสเลิกคิดเรื่องจะทำให้เขากลายมาเป็นลูกศิษย์ของข้าเถิด ข้ามีอายุน้อยกว่าเขาเลยด้วยซ้ำ”ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกเหมือนว่ากำลังรับลูกศิษย์อยู่เลย
”เมื่อตอนที่เจ้าอายุเท่าพวกเราเจ้าก็จะเริ่มละสิ่งต่างๆบนโลก คนที่มีความสามารถจะเป็นอาจารย์ ขอให้มีอายุเท่าไหร่ ผู้นั้นก็สมควรเป็นอาจารย์อยู่ดี ข้าต้องการให้เขาแสดงความเคารพต่อท่านในฐานะอาจารย์ของเขา และจะให้เขามองท่านในฐานะพ่อ พ่อขององค์ชายสิบสาม!!” ในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนและเดินตรงมาหาเขาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง”ช่างเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้มาเป็นศิษย์ของอาจารย์”
ขณะที่เขากล่าวเขาก็คุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรีบเอามือออกมาจับแขนเพื่อพยุงเขาให้ลุกขึ้น
”ผู้อาวุโส…….”
ชายชราหยิบอะไรบางอย่างออกมา”การที่ข้าสั่งให้หลานของข้าทำเช่นนี้มันอาจจะดูไม่ยุติธรรมต่อท่าน และตัวข้าเองก็รู้สึกไม่สบายใจในฐานะองค์จักรพรรดิแห่งมหาจักรวรรดิ ฉะนั้นสิ่งของชิ้นนี้ ข้าขอมอบให้ท่าน และมันจะทำคุณประโยชน์ให้แก่ท่านอย่างแน่นอน”
ชายชราหยิบกล่องใสเหมือนผลึกซึ่งมีขนาด1 ลูกบาศก์ฟุต ภายในบรรจุสารที่คล้ายควันลึกลับ ควบแน่นจนเห็นเป็นร่างของชายเล็กๆ มันต้องดูยิ่งใหญ่และเกรียงไกร คล้ายกับพลังปราณขององค์เทพเจ้า
รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์!!
ชิงสุ่ยมองดูกล่องผลึกด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อทันทีที่เขาเห็นมัน เทพสงครามทองคำก็พรั่งพรูข้อมูลต่างๆออกมาให้เขาได้รับรู้ว่ามันคืออะไร และรู้ว่ามันมีค่าเพียงใด
สิ่งของชิ้นนี้มีค่ามากเกินไป!!
รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ถือกำเนิดมาจากยอดยุทธดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังสูงสุดจนถูกขนานนามว่านักรบเทวะเต๋าอมตะ หลังจากที่คนเหล่านี้เสียชีวิต มันมีโอกาสน้อยมากที่ร่างของคนเหล่านี้จะให้กำเนิดแก่นแท้ และมีโอกาสยากยิ่งกว่าถ้าหากแก่นแท้จะเข้าไปประสานรวมกับรากฐานแห่งพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อทั้งสองอย่างรวมเข้าด้วยกัน พวกมันจะกลายเป็นรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถ้าหากผู้ใดได้รับมันคนผู้นั้นจะได้รับคุณประโยชน์มหาศาลเกินกว่าที่เขาจะรับไหว
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถกลั่นทางจากรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้ตามตำนานกล่าวไว้ว่ามีเพียงอัจฉริยะหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ และคนคนนั้นจะต้องมีลักษณะร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ โดยที่ความแข็งแกร่งของคนคนนั้นจะต้องไม่ต่ำกว่าระดับดินแดนพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่ากายาทองคำ9 หยางก็เป็นหนึ่งในร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ และแข็งแกร่งพอจะดูดซับพลังจากรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้
โดยทั่วไปแล้วกายาทองคำ 9 หยางจะต้องทนทานต่อพลังนี้ได้ บางคนก็ได้รับประโยชน์สูงสุดจนกลายเป็นสุดยอดผู้ทรงพลัง แต่ในขณะที่บางคนก็ต้องสูญเสียชีวิตที่เพียรพยายามสร้างขึ้นมา เพราะไม่อาจทนแรงระเบิดของพลังจนร่างกายแหลกสลาย
ชิงสุ่ยรู้ได้เลยว่าชายชราผู้นี้จะต้องรู้ว่าเขาครอบครองกายาทองคำ9 หยาง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลย เหตุผลที่ชายชราผู้นี้รู้เรื่องของเขาก็คงเพราะเทียนหลงตี๋ฮูคงสืบเรื่องต่างๆแล้วไปเล่าให้กับชายชราได้ฟัง
”ท่านผู้อาวุโสสิ่งนี้มันมีค่ามากเกินไป ข้าคงรับมันเอาไว้ไม่ได้”หลังจากลังเลชั่วครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยก็ยืนกรานในคำพูดของเขา
”ข้ายังไม่ทำอะไรเลยสักอย่างฉะนั้นข้าก็ไม่ควรรับรางวัลนี้ แล้วมันก็ไม่สมควรสำหรับข้า “ชิงสุ่ยปฏิเสธมัน
ไม่ใช่ว่าชิงสุ่ยไม่ต้องการต่อให้เขายอมรับชายหนุ่มมาเป็นลูกศิษย์ของเขา รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมีค่ามากเกินไป
”ใครบอกว่าเจ้าไม่ต้องทำอะไรเลยเจ้ายอมรับองค์ชายสิบสามไปเป็นลูกศิษย์ของเจ้า เอาเถอะ ข้าเชื่อว่าสิ่งของชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามากกว่าข้า และถ้าเจ้าปฏิเสธสิ่งของชิ้นนี้ ถ้าจะถือว่าเจ้าดูถูกของขวัญของข้า ข้าขอพูดจากใจจริง ข้าเองก็ใช้ชีวิตมานาน และข้าก็พึ่งพอใจอย่างมากที่ในชีวิตของข้าจะได้เห็นคนที่ใช้มัน” ชายชราเผยเห็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น
”ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องรับมันเอาไว้”ชิงสุ่ยยื่นมือขวาออกไปรับของขวัญ
”ชิงสุ่ยเจ้าจะต้องใช้งานมันอย่างระมัดระวัง เจ้าอย่าพลาดเป็นอันขาด และควรหาสถานที่ที่เจ้าจะไม่ถูกรบกวนจากผู้ใด ขณะที่เจ้าใช้มัน เจ้าจะต้องอยู่ในสภาวะที่จิตใจสงบมากๆ”ชายชรากล่าวย้ำเตือนชิงสุ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ความกังวลที่ชายชรามีต่อเขามันทำให้ชิงสุ่ยรับรู้ถึงความสุขและรู้ถึงความอบอุ่นในใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่เขารู้อย่างแน่นอนคือชายชราคนนี้จะต้องเป็นคนที่ดีมากๆ
”ข้าน้อยขอขอบคุณ!!”ชิงสุ่ยเก็บมันเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะอย่างระมัดระวัง
”ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่ขัดขวางภารกิจของเจ้าแล้ว องค์ชายสิบสาม เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ จำเอาไว้ว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นดั่งพ่อของเจ้า”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก
ลึกๆในใจของชายชราเขากำลังมองดูเด็กรุ่นใหม่ แล้วเขาก็พยายามไขว่คว้าโอกาสเช่นนี้เอาไว้ ในอนาคตเด็กหนุ่มที่เขาเผชิญตรงหน้า จะกลายเป็นคนที่นำความมั่งคั่งเข้ามาสู่ตระกูลเซี่ย เขาหวังว่าสักวันหนึ่งองค์ชายสิบสามจะมองเห็นและคิดได้ว่าสิ่งที่เขาทำก็ทำเพื่อตัวขององค์ชายสิบสามเอง