Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1953 - หรือว่ายังมีความลับอื่นซ่อนอยู่ในรูปภาพโฉมงาม ชิงเป่ย
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1953 - หรือว่ายังมีความลับอื่นซ่อนอยู่ในรูปภาพโฉมงาม ชิงเป่ย
ชิงสุ่ยจำเป็นต้องแยกห่างจากหญิงสาวที่เขาชอบแล้วจะกลับมาอยู่ร่วมกันได้เมื่อตอนที่แต่ละคนมีลูกของตนเอง
แต่ก็น่าเสียดายที่เรื่องเหล่านี้ก็หยุดเขาไม่ได้อยู่ดีเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องทุกคน ทางเลือกเดียวของเขาก็คือการออกเดินทางเพื่อไขว่คว้าอนาคต
แล้วมันก็ทำให้บรรดาหญิงสาวของเขาแต่ละคนมีความอิสระพวกเธอคอยดูแลซึ่งกันและกัน อีเย่เจี้ยนเก้อ ชิงห่านอี้ ถานท่ายหลิงเยียนและคนอื่นรวมตัวกันอยู่ภายในพระราชวังอาทิตย์อัสดง แม้ว่าชิงห่านอี้จะมาจากพระราชวังหมาป่ามังกร หรือถ่านท่ายหลิงเยียนจะมาจากพระราชวังจอมอสูร ขุมกำลังทั้งหมดได้ประสานร่วมมือกันเป็นหนึ่ง ตัวของถานท่ายหลิงเยียนเองก็มีแผนที่จะย้ายพระราชวังจอมอสูร มันยิ่งทำให้ขุมกำลังทั้ง 3รวมตัวกันเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์
ภายในห้องโถงชิงสุ่ยกำลังถูกล้อมรอบไปด้วยเด็กตัวเล็กตัวน้อย
”เฉินเอ๋อ นิกายบงกชเทวะเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยจำได้ว่าเจ้านิกายบงกชเทวะไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงานและมีลูก
ติ๊เฉินคือผู้ที่แข็งแกร่งไม่อาจปฏิเสธได้แต่เธอก็ยังอ่อนแอกว่าอี่หวงกู่หวู๋ทั้งติ๊เฉินและติ๊ชิงต่างก็มีพลังอยู่ในระดับที่ 5 ของดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าติ๊เฉินจะอ่อนแอกว่าติ๊ชิงอยู่เพียงแค่เล็กน้อย ส่วนชางห่ายหมิงเยวี่ยจะมีพลังอยู่ในระดับที่ 6 ของดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ทางด้านของห่าวหยุนลิ่วลี่และหยุน ต้วน ทั้งสองคนอ่อนแอที่สุดและมีพลังอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นบัญชาสวรรค์พินาศ
สำหรับแม่ของเขาชิงอี้ชิงสุ่ยไม่มีวิธีการที่ทำให้แม่ของเขาแข็งแกร่งขึ้นอีก แต่เขาสอนวิธีการฝึกฝนเพื่อทำให้แม่ของเขามีชีวิตที่ยืนยาวสามารถเสพสุขอยู่กับเขาได้อีกนานเท่าที่จะนานได้
เหวินเหรินอูซวงมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกับติ๊ชิงชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าพลังของบรรดาหญิงสาวจะค่อนข้างเกี่ยวโยงกัน โดยเฉพาะบรรดาหญิงสาวแห่งรูปภาพโฉมงาม เป็นไปได้หรือไม่ที่ตัวของเขาเองทุกครั้งที่บรรลุระดับพลังมันจะเกี่ยวโยงมาถึงพวกเธอและทำให้พวกเธอแข็งแกร่งขึ้น?
ชิงสุ่ยรู้สึกไม่แน่ใจแต่ตลอดทุกครั้งที่เขาถามพวกเธอ เขารู้สึกได้เลยว่าการฝึกฝนของพวกเธอราบรื่นกว่าของคนอื่นๆ แม้แต่การเผชิญหน้าทัณฑ์สวรรค์ที่ลำบากแสนสาหัสสำหรับผู้คนทั่วไปกลับกลายเป็นเรื่องง่ายเมื่ออยู่ในมือของพวกเธอ
”ข้าไม่สนใจหรอกว่าข้าก็ยังเป็นเจ้านิกายบงกชเทวะอยู่อีกหรือไม่ และผู้คนในนิกายก็รู้ดีว่าข้ามีลูก แต่พวกเขาก็ยังยืนยันให้ข้าเป็นผู้นำต่อ ดูเหมือนว่ากฎของนิกายจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้จึงกลายเป็นผู้คนสามารถแต่งงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกจากนิกาย”
”ไม่เลวเลยกฎบางกฎก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่บางกฎเกณฑ์ก็ไร้สาระเกินไป ทั้งยังไร้มนุษยธรรม “ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
”ข้าว่าพวกเราอย่าไปใส่ใจเรื่องนั้นเลยว่าแต่เจ้าจะกลับมาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ละ? พวกเราทุกคนคิดถึงเจ้ามากเลย” อี่หวง กู่หวู๋หัวเราะคึกคัก
”ข้าจะพักอยู่ที่บ้านสักพักใหญ่”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับ
ในใจของเขาเองรู้ตัวว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นานนักเขายังมีเรื่องที่ต้องจัดการกับพระราชวังอมตะดาราจรัส ก่อนที่เขาจะจากไปไกลเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น
แต่เขาก็ไม่ได้กังวลเลยหลังจากเขาถามคำถามบรรพบุรุษตระกูลเซี่ย มันทำให้เขารู้ว่าพระราชวังอมตะดาราจรัสก็มีพลังอยู่ในระดับเดียวกับมหาจักรวรรดิราชันย์นักปราชญ์และจักรวรรดิหมาป่าจันทรา ที่สำคัญบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยก็ให้สัญญาแล้วว่าจะไม่มีใครกล้าเข้ามาสร้างปัญหาให้กับบรรดาผองเพื่อนและบรรดาหญิงสาวของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยไว้วางใจในตัวบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยมิฉะนั้นเขาก็คงไม่ได้กลับบ้านแบบนี้
”พี่สุ่ย”ชิงเป่ยยิ้มและจ้องมองชิงสุ่ยอย่างมีความสุข
ตัวของชิงเป่ยก็แข็งแกร่งในระดับหนึ่งถ้าหากไม่นับชิงสุ่ย ชิงเป่ยก็คือคนที่แข็งแรงที่สุดในตระกูลชิง แล้วเธอก็ยังอายุไม่ถึง 50 ปี สำหรับโลกนี้เธอจึงถูกบอกว่าเป็นเด็ก
ชิงเป่ยมีพลังอยู่ในระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศขั้นที่5 ชิงสุ่ยก็ช่วยหาวิธีเพิ่มพลังให้กับเธอ สถานะของเธอตอนนี้เปรียบเสมือนเจ้าหญิงตัวน้อยแห่งตระกูลชิง
”เด็กน้อยมาให้ข้ากอดสักหน่อยเร็ว”ชิงสุ่ยรู้ดีว่ารอบตัวเขาไม่ได้มีที่สำหรับเธอแล้ว มันทำให้เธอรู้สึกค่อนข้างว้าเหว่
ชิงเป่ยโอบกอดชิงสุ่ยอย่างมีความสุข”พี่สุ่ย ท่านไม่มาหาข้าเลย และข้าก็รู้ดีว่าท่านอยู่ห่างจากข้าไกลแสนไกลมาก”
ชิงเป่ยฝึกฝนอย่างหนักและใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่ชิงสุ่ยทิ้งเอาไว้อย่างคุ้มค่า โดยทุกครั้งที่ชิงสุ่ยกลับมาบ้าน เขาจะช่วยเหลือเธอโดยการฝังเข็มชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดขัดตามเส้นลมปราณและร่างกาย
”ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดหรือข้าจะอยู่ที่ไหน ท่านก็ยังเป็นพี่ชายแสนดีของข้าเสมอ”
”ว่าแต่ เจ้ามีชายหนุ่มที่เจ้าหมายปองแล้วหรือยัง?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวถาม
คำถามของเขาทำให้ชิงเป่ยเขินอาย
มันมีบางอย่างเกิดขึ้นและชิงสุ่ยก็รับรู้ได้ ตระกูลใหญ่ภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำส่วนใหญ่จะแต่งงานโดยไม่ได้เกิดจากความรักแต่เกิดจากเรื่องการเมือง แต่สำหรับตระกูลชิง เรื่องเหล่านั้นไม่ได้มีความจำเป็นหรือมากพอจะให้ตระกูลชิงเห็นความสำคัญ
”บุรุษตระกูลเฉิง”ชิงห่ายพ่อของชิงฮูกล่าวแทรก ”ตระกูลเฉิง?ท่านลุงสี่ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อตระกูลนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าข้าคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมเยือนชายหนุ่มผู้นั้น แล้วดูว่าเขาเหมาะสมกับน้องเป่ยของพวกเราหรือไม่”
”สาวน้อยคนนี้ชอบเขามากตระกูลเจิงไม่เคยปรากฏตัวบนมหาทวีปแห่งนี้มาก่อน ข้ารู้สึกได้เลยว่าพวกเขาจะต้องเป็นตระกูลขุนนางที่คอยต้อนตัวมาจากที่ใดสักแห่ง ดูเหมือนชายหนุ่มคนนั้นก็บรรลุระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ตั้งแต่เยาว์วัย”ชิงห่ายกล่าว แม้ว่าลุงของชิงสุ่ยจะไม่ได้แข็งแกร่ง แต่คำพูดของเขาก็พอจะบอกได้ว่าตระกูลแห่งนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
”โอ้?ดูเหมือนมันจะยิ่งทำให้ข้าอยากจะไปเห็นพวกเขาสักหน่อยแล้ว”ชิงสุ่ยรู้สึกสนใจอย่างมาก
”พี่สุ่ยเฉิงหยวนก็อยากจะพบท่านเหมือนกัน เขาชื่นชมท่านมาก”ชิงเป่ยกล่าวอย่างมีความสุข
”ว่าแต่พวกเจ้าวางแผนจะแต่งงานกันเมื่อไหร่?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวถาม
”พวกเราเพิ่งรู้จักกันได้ครึ่งปีแต่ก็วางแผนว่าจะคุยเรื่องนี้กันในภายภาคหน้า”ชิงเป่ยยิ้มอย่างเขินอาย
”ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
เป็นเรื่องปกติที่จะมีตระกูลใหญ่แอบซ่อนเร้นอยู่ภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำชิงสุ่ยก็หวังว่าตระกูลเฉิงจะเป็นตระกูลที่ดี เขาไม่อยากให้ภัยพิบัติต่างๆย่างกรายมาถึงตัวชิงเป่ย