Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1965 – ศัตรูของตระกูลเฉิง
ในที่สุดงานแต่งงานระหว่างชิงเป่ยและเฉิงหยวนก็ถูกวางกำหนดการ งานแต่งงานของทั้งสองจะถูกจัดขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งอยู่ถัดไปอีกครึ่งเดือน
ตระกูลชิงทำให้ทุกอย่างที่อยู่บริเวณรอบตระกูลเงียบสงบ แต่มันก็ยังมีขุมพลังที่แข็งแกร่งกว่า การกลับมาของชิงสุ่ย ยกระดับความแข็งแกร่งของตระกูลชิงให้พอจะเทียบเท่ากับเหล่าพระราชวังอมตะ แต่ถ้าเปรียบเทียบกันจริงๆแล้ว ตระกูลชิงเรียกได้ว่าอยู่ต่ำสุด
ด้วยความช่วยเหลือของเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ ชิงสุ่ยแม้จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ยังไม่บรรลุถึงขั้นปลายของระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 หรือแม้จะเป็นภูเขา 9 เทวา ก็ยังเป็นเพียงระดับพลังขั้นปลายของสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ชั้นที่ 7 เท่านั้น
อี่หวง กู่หวู๋ และหญิงสาวคนอื่นๆมีระดับพลังที่พัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ด้วยความช่วยเหลือของชิงสุ่ย ตอนนี้พวกเธอแข็งแกร่งพอจะพิชิตอาณาเขตบริเวณโดยรอบได้อย่างสบายโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการช่วยเหลือของชิงสุ่ย
เวลาครึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา
ชิงสุ่ยใช้ชีวิตเหมือนพระเจ้าเวลาอยู่ในตระกูลชิง เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญหญิงสาวทุกคนจึงต้องกลับมาที่บ้าน ซึ่งรวมถึงอวี้ ลู่หยานและถานท่ายหยวน
วันนี้เป็นวันที่ชิงเป่ยและเฉิงหยวนจะเข้าพิธีแต่งงานกัน ตระกูลเฉิงเป็นถึงตระกูลราชวงศ์ขุนนาง มันจึงทำให้งานแต่งงานเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ผู้คนทั้งสองตระกูลทำความสนิทชิดเชื้อและเข้ากันได้ดี เด็กๆทั้งสองตระกูลเองก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนเป็นดั่งญาติสนิทมิตรสหายในที่สุด
งานแต่งงานเริ่มต้นด้วยดี ชิงสุ่ยยังคงใช้ชีวิตอย่างอิสระดื่มสุราชมบรรยากาศงานแต่งงานด้วยจิตใจที่สงบเงียบ ในวันนี้คนเกือบจะทั้งหมดของตระกูลชิงได้มาอาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์ตระกูลเฉิง เพื่อร่วมทำพิธีทางด้านฝ่ายหญิง
เมื่อถึงเวลาเกือบเที่ยง พิธีงานแต่งก็ดำเนินไปได้ครึ่งทาง งานพิธีพื้นฐานทั้งหมดเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ แต่ละคนเริ่มกระจัดกระจายกันร่วมรับประทานอาหารร่วมสนุกสังสรรค์จรดจนช่วงเย็น
ส่วนตัวชิงสุ่ยก็ยังคงดื่มด่ำไปกับสุรารสเลิศ แต่ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว และมองกลับไปทางด้านหลัง สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับจุดสีดำที่กำลังบินตรงเข้ามา แต่ที่น่าสนใจกว่าคือคลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากจุดสีดำนั้นทรงพลังมหาศาล
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตระกูลเฉิง ใครจะไปคิดว่าพวกเจ้าจะซ่อนตัวหดหัวอยู่ที่นี่ ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนพวกมันกำลังจัดงานแต่งกันอยู่ ใครกันนะที่เป็นเจ้าสาว มาให้ข้าดูหน่อย นางสวยเพียงใด?”เสียงอันแสนหยาบคายดังขึ้น
ชิงสุ่ยเปรียบเสมือนแขกคนสำคัญแน่นอนว่าคนที่ร่วมงานก็รวมถึงผู้อาวุโสของตระกูลเฉิง
เมื่อมีบางอย่างผิดปกติ ชิงสุ่ยจึงหันไปสังเกตและพบว่าชายชราเฉิงมีท่าทีที่แปลกไป ชายชราผู้นี้มีจิตใจที่แข็งแกร่ง และเป็นคนหน้าด้านหน้าทน แต่กลับแสดงสีหน้าเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังตื่นตระหนก
“ท่านพ่อ พวกเราควรทำอย่างไรดี? ตาเฒ่าปีศาจอู๋มาที่แล้ว” เฉิงสือชางสีหน้าบิดเบี้ยว
ชายชราเฉิงลุกขึ้นยืน แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด กลุ่มคนนับ 10 ก็พุ่งทะยานลงมาจากท้องฟ้า คนเหล่านี้ล้วนสวมเสื้อผ้าที่งดงาม แต่ก็เป็นเสื้อผ้าที่มีสีสันมากมายจนทำให้รู้สึกแปลก
ผู้นำกลุ่มคือชายที่มีความน่าพิศวง ชิงสุ่ยไม่สามารถบอกอายุที่แท้จริงของชายคนนั้นได้ อันที่จริงแล้วใช้คนนี้ดูเหมือนจะยังเด็กด้วยซ้ำ แต่ชิงสุ่ยมั่นใจมากว่าเขาไม่ใช่เด็กและจากความรู้สึก ชิงสุ่ยค่อนข้างมั่นใจว่าคนคนนี้จะต้องเป็นคนที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกับผู้อาวุโสเฉิง
ใบหน้าของชายผู้นั้นแสดงออกถึงความชั่วร้ายเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ถ้าหากเป็นผู้ที่อ่อนแอ เมื่อได้สัมผัสกับดวงตาอันแสนน่ากลัว คนผู้นั้นจะต้องเสียวสันหลังจนเกิดความหวาดกลัวแทรกซึมไปถึงหัวใจ
“เฒ่าปีศาจเฉิง ใบหน้าเจ้าวันนี้ดูไม่ดีเอาซะเลย เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีหลังจากที่ฆ่าคนของข้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าให้หนีไปหรอก”เสียงของเขาฟังแล้วขนลุกเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
“ตาเฒ่าปีศาจอู๋ ข้าเป็นคนฆ่าคนผู้นั้น ความตายของเขาก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว”เฉิงป่าไป๋กล่าวตอบด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“ฮ่าฮ่า มันก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิง!! วันนี้ใครเป็นผู้แต่งงานล่ะ? ข้าจะแย่งชิงหญิงสาวผู้นั้น และพานางกลับไปสนุกที่ห้องของข้า ดูซิว่าจะมีใครหยุดข้าได้บ้าง!!”ชายผู้นั้นเหลือบตามองไปรอบๆพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“ตาเฒ่าปีศาจอู๋ มันชักจะเกินไปแล้ว ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าทำแบบนั้นได้แน่”เฉิงหยวนตะโกนพร้อมกับจ้องมองไปยังศัตรูของเขา
“โอ้ เจ้าสินะที่เป็นคนแต่งงาน ข้าจะให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ ข้าจะไม่สังหารเจ้า แต่จะทำให้เจ้าพิการ และพาเจ้าไปดูความรื่นเริงที่ข้าจะทำกับเจ้าสาวของเจ้า!! ฮ่าฮ่าฮ่า!!” เต่าปีศาจอู๋ส่งเสียงหัวเราะลั่นเหมือนนกฮูก น้ำเสียงของเขาแย่เสียจนไม่น่าฟัง
ชิงสุ่ยรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรู ในตอนแรกเขาเองก็ไม่ต้องการจะเปิดเผยตัวตน แต่การแสดงออกที่แสนไร้ยางอาย โดยเฉพาะกับเจ้าสาวที่เป็นถึงน้องสาวสุดที่รักของเขา ชิงเป่ย เขาจะไม่ยอมให้ชิงเป่ยต้องได้รับความอับอายในวันเกิดของเธอ
ในขณะที่เจ้าอสูรเฒ่าอู๋เหลือบมองชิงเป่ย เขาถึงกับเลียริมฝีปาก “เจ้าสาวของเจ้าดูดีเลยทีเดียว ดูเหมือนวันนี้ข้าจะมีเรื่องสนุกให้ทำแล้ว”
เมื่อเขากล่าวจบเขาเอื้อมมือออกไป
เฉิงหยวนสีหน้าโกรธจัด และพยายามเอื้อมมือออกไปปัดมือของตาเฒ่าอู๋
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!!”
กลิ่นอายของตาเฒ่าปีศาจอู๋เพิ่มพูนขึ้นฉับพลัน
ทันใดนั้นผมของเฉิงหยวนก็แปรเปลี่ยนเป็นสีขาว มือทั้งสองข้างของเขาปัดป้องการเคลื่อนไหวและพยายามผลักมือของตาเฒ่าปีศาจอู๋ด้วยกำลังทั้งหมด
ปังงงง!!
ร่างกายของเฉิงหยวนถูกอัดกระแทกปลิวกลับไปทางด้านหลัง พร้อมกับถมเลือดคำโตออกจากปาก
“พวกเจ้ามันเป็นได้เพียงแค่มดที่พยายามต้านทานแรงลม!! หัดประมาณตัวเองซะบ้าง!!” เต่าปีศาจอู๋ชำเลืองมองคนตระกูลเฉิงพร้อมกับกล่าวด้วยคำพูดเหยียดหยาม “ตาเฒ่าปีศาจอู๋ เจ้าควรจะรู้ขีดจำกัดของตัวเอง มิฉะนั้น ข้าจะเอาชีวิตข้าเดิมพันเพื่อฆ่าเจ้า” ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสเฉิงก็เดินออกมา ใบหน้าของเขาแลดูมืดมนเล็กน้อย
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าจะเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงงั้นหรือ? ตาเฒ่าเฉิง เจ้าคิดว่าตัวเองจะฆ่าข้าได้สินะ ข้าว่าเพียงแค่ข้ากระพริบตา ข้าคงกลายเป็นฝ่ายฆ่าเจ้าแทน”ตาเฒ่าปีศาจอู๋แสดงสีหน้าน่าเกลียดเยาะเย้ยถากถางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชิงสุ่ยเดินตรงมาที่ด้านข้างเฉิงหยวน จากนั้นก็ยื่นมือออกมาตบหลังเฉิงหยวน ใช้วิชาหมอจัดเรียงอวัยวะใหม่ เพื่อทำให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิม “พวกมันคือคนที่บีบบังคับพวกเจ้าให้ต้องจำยอมลี้ภัยมาอยู่ที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำแห่งนี้สินะ”
“ใช่แล้วล่ะ ข้าต้องขอโทษพี่ชายสุ่ยจากใจจริง ข้าไม่คิดเลยว่าพวกมันจะหาพวกเราเจอเร็วขนาดนี้ ข้าขอโทษที่ต้องลากท่านมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ “เฉิงหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด
“เล่าเรื่องเกี่ยวกับชายคนนั้นให้ข้าฟัง!!”ชิงสุ่ยไม่พูดอะไรมาก ในทำนองเดียวกันใบหน้าของเขาก็ไม่สู้ดี ดังคำกล่าวที่ว่า “รู้จักประมาณตน รบ 10 ครั้งชนะ 10 ครั้ง” เขารู้ดีว่าศัตรูเองก็จะต้องเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่ง
“ตระกูลอู๋คือตระกูลขุนนาง พวกเขาฝึกฝนทักษะที่ชั่วร้าย โดยอาศัยการดูดซับพลังหยิน หรือจะให้พูดอีกนัยหนึ่งก็คือการดูดซับพลังจากหญิงสาว ตอนแรกทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี ทั้งตระกูลเฉิงและตระกูลอู๋ ต่างก็มาจากที่แห่งเดียวกัน พวกเราให้ความสำคัญกับการค้ามาโดยตลอด แต่อยู่มาวันหนึ่ง คนจากตระกูลอู๋บังเอิญเจอลูกพี่ลูกน้องหญิงของข้า พวกเขาไม่เพียงแต่ทำให้เธอต้องแปดเปื้อน แต่ยังดูดพลังและฆ่าเธอทิ้ง ชายผู้นั้นก็คือลูกคนสุดท้องของตาเฒ่าปีศาจอู๋”เฉิงหยวน พยายามสรุปเรื่องสั้นๆให้ชิงสุ่ยเข้าใจ
ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าตระกูลอู๋ต้องเป็นตระกูลที่มีแต่ผู้ชายฝึกฝนวรยุทธ การดูดซับพลังจากผู้อื่นมาเป็นของตนคือสิ่งชั่วร้าย แต่มันก็เป็นจุดแข็งที่ทำให้ความแข็งแกร่งของตระกูลพัฒนาได้ไวก้าวกระโดด ในเมื่อมันมีข้อดีย่อมมีข้อเสีย ยิ่งข้อดีมากเท่าไหร่ข้อเสียก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือรากฐานพลังที่ไม่มั่นคง
ในตอนนี้ผู้อาวุโสเฉิงได้เข้าห้ำหั่นกับศัตรู และแล้วเขาก็ถูกตาเฒ่าปีศาจอู๋โจมตีผลักกลับมา จากการต่อสู้ในช่วงสั้นๆบอกได้ชัดเจนว่าตาเฒ่าปีศาจอู๋แข็งแกร่งทั้งในแง่ความเร็วและแง่ของพลัง
การโจมตีของตาเฒ่าปีศาจอู๋เป็นเพียงแค่การโจมตีธรรมดาไร้ซึ่งทักษะ ฝ่ามือของเขา รวดเร็วจนเหมือนกับมีรัศมีพลังยาวกว่า 3 เมตรพุ่งโจมตีกลายเป็นลูกไฟสีเขียว
ค้อนพระจันทร์ครึ่งซีก!!
ทันใดนั้น ค้อนในมือของผู้อาวุโสเฉิงก็หมุนเหวี่ยงในลักษณะที่แปลกประหลาด เหมือนภูเขาลูกยักษ์พุ่งเข้าโจมตีตาเฒ่าปีศาจอู๋!!
” หืม กลหลอกเด็ก!!”
ตาเฒ่าปีศาจอู๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แทนที่เขาจะถอยกลับ เขาเลือกที่จะพุ่งโจมตีออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลันจนเหมือนกับเขาหายวับไปกับตา หลังจากนั้นร่างของเขาก็ไปปรากฏตัวอยู่ด้านข้างผู้อาวุโสเฉิง ปล่อยหมัดขวาโจมตีลงบนซี่โครงข้างซ้ายของผู้อาวุโสเฉิง
ครึ้นนนนนนน!!
พรวดดดดด!!