Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1990 – ชิงสุ่ยโจมตีสังหาร
บทที่ 1990 – ชิงสุ่ยโจมตีสังหาร
ถ้าหากผู้นำตระกูลหลางดูว่าหญิงสาวคนนี้คิดเช่นนั้น เขาคงกระอักเลือดตาย จริงอยู่ที่เขารักชิงซี แต่ที่เขาใส่ใจมากกว่าคือตำแหน่งฐานะผู้นำตระกูล เขาวาดฝันว่าตะกูลหลางจะทรงพลังมากกว่านี้ และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะไร้ผู้ต้านทาน และสามารถชิงชิงซีกลับคืนสู่อ้อมกอดของเขาได้
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายในโลกนี้จะคิดเช่นนั้น ทุกคนล้วนแสวงหาพลัง พลังคือทุกสิ่งอย่าง
ชิงสุ่ยพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าโดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ เมื่อเทียบกับชายชราเหล่านั้นแล้ว ชิงสุ่ยมั่นใจมากว่ามือเปล่าก็ล้มทุกคนได้ ชิงสุ่ยไม่ต้องการทำให้พื้นที่ข้างเคียงพังพินาศ เขาจึงเลือกเข้าปะทะโดยตรง
หมัดทะลวง!!
ชิงสุ่ยปลดปล่อยหมัดที่เต็มไปด้วยพลังและความเร็วออกไป บริเวณรอบตัวหมัดอัด
ถ้าหากผู้นำตระกูลหลางดูว่าหญิงสาวคนนี้คิดเช่นนั้น เขาคงกระอักเลือดตาย จริงอยู่ที่เขารักชิงซี แต่ที่เขาใส่ใจมากกว่าคือตำแหน่งฐานะผู้นำตระกูล เขาวาดฝันว่าตะกูลหลางจะทรงพลังมากกว่านี้ และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะไร้ผู้ต้านทาน และสามารถชิงชิงซีกลับคืนสู่อ้อมกอดของเขาได้
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายในโลกนี้จะคิดเช่นนั้น ทุกคนล้วนแสวงหาพลัง พลังคือทุกสิ่งอย่าง
ชิงสุ่ยพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าโดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ เมื่อเทียบกับชายชราเหล่านั้นแล้ว ชิงสุ่ยมั่นใจมากว่ามือเปล่าก็ล้มทุกคนได้ ชิงสุ่ยไม่ต้องการทำให้พื้นที่ข้างเคียงพังพินาศ เขาจึงเลือกเข้าปะทะโดยตรง
หมัดทะลวง!!
ชิงสุ่ยปลดปล่อยหมัดที่เต็มไปด้วยพลังและความเร็วออกไป บริเวณรอบตัวหมัดอัดแน่นไปด้วยพลังปราณรากฐานและพลังปราณจิตมหาศาล และด้วยพลังที่ผันแปรฉับพลัน มันสามารถทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบหยุดนิ่งไปชั่วขณะ และชะลอความสามารถในการตอบสนองของพวกเขาได้ทันที
เมื่อผสมกับย่างก้าว 9 เทวา แล้วชิงสุ่ยยิ่งสามารถเข้าประชิดตัวศัตรูได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เสียงกระแทกของหมัดดังกึกก้อง ร่างกายของชายชราซวนเซเล็กน้อยก่อนจะถอยหลัง ดวงตาของชายชรา เลอะเลือนเหมือนลืมเรื่องที่กำลังจะทำ ชิงสุ่ยจึงกระแทกข้อสอบเข้าที่คอของชายชรา
ครึ้นนนนน!!
ชิงสุ่ยไม่มีการออมมือ เขาเผชิญหน้าและพร้อมจะฆ่าศัตรูทันที
ชายชราอีกคนรีบพุ่งตรงมาหาชิงสุ่ย หลังจากเห็นภาพที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามชายชราคนแรกก็ถูกชิงสุ่ยฆ่าไปต่อหน้าต่อตาของเขา ทำให้เขายิ่งหวาดกลัว เพราะตัวของเขาเองนั้นก็แข็งแกร่งเทียบเท่ากับชายชราอีกคน แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุดท้ายแล้วชะตากรรมชีวิตของเขาก็คงถูกฆ่าเหมือนกัน
ร่างกายของชายชราหยุดลงเมื่อความตายเข้าใกล้
ในวันนี้ชิงสุ่ยต้องการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง มิฉะนั้น ฝูงชนอีกมากมายคงอยากจะมาที่นี่เพื่อแสดงความเป็นใหญ่ และคิดว่าตัวของชิงสุ่ยจะถูกรังแกได้โดยง่าย
ฝ่ายตรงข้ามอาจจะหยุดนิ่งแต่ชิงสุ่ยไม่ได้หยุดด้วย แสงโหดเหี้ยมส่องประกายผ่านดวงตาของชายชรา ถึงเขาจะยอมเลิกรา แต่ชิงสุ่ยไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ สิ่งที่เขาทำได้คือการไม่อยู่เฉย
กระบี่ปรากฏขึ้นในมือขวา
ชายชราเหมือนฟื้นคืนความมั่นใจขึ้นมาอีกเล็กน้อย ทวีปในมืออาจจะไม่ใหญ่มากแต่มีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูง ลำแสงสีน้ำตาลอมเหลืองส่องประกายออกมาจากตัวกระบี่ทำให้สภาพแวดล้อมรอบข้างพร่ามัว
กับดักโลกา!!
พลังที่รุนแรงก่อตัวขึ้นที่ขาของชิงสุ่ยราวกับว่าเขากำลังถูกอะไรบางอย่างจับกุม ชายชราที่เคยหยุดนิ่ง พุ่งตรงมาหาชิงสุ่ยด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ
พลังธรณี!!
ธรณีพิโรธ!!
ผู้อาวุโสกระโดดลอยขึ้นฟ้า ลำแสงรอบตัวทวีความรุนแรง กระบี่เปล่งประกายแสงสีน้ำตาลเหลืองครอบคลุมร่างกายชิงสุ่ยอย่างสมบูรณ์
กระบี่กลายร่างเป็นภูเขาขนาดใหญ่ มันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหมือนจะช้าแต่กำลังจะผ่ากลางร่างชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยถ่ายโอนพลังปราณจากภาพหยินหยางเข้าสู่ขาทั้งสองข้าง โซ่พันธนาการขาทั้งสองข้างพลังสูญหายไปกว่าครึ่ง ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือรับมือกับกระบี่หนักที่กำลังฟาดลงมา
ง้าวทองทะลวงศัตรูปรากฏขึ้นในมือของชิงสุ่ย และโจมตีสวนกลับอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยร่างกายสั่นสะเทือน ในแง่ของพลังชายชราที่อยู่ตรงหน้าอ่อนแอกว่าชิงสุ่ย ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่จำเป็นต้องหลบ เขาฟาดฟันง้าวทองทะลวงศัตรูด้วยมือทั้งสองข้าง
ปังงงงงงงงงงง!!
แรงระเบิดปัดเป่าชายชราให้กระเด็นถอยหลังกลับไปอย่างไม่ต้องสงสัย ชิงสุ่ยยังคงฟาดฟันง้าวทองทะลวงศัตรูเข้าใส่ชายชรา ผสมผสานรวมกับทักษะไล่ล่าเงาสังหาร
แม้ว่าชายชราจะมีพลังป้องกันที่น่ากลัว แต่ร่างกายของเขายังเกิดแรงระเบิด ผลักกระเด็นออกไป ริมฝีปากเลือดทะลักสาดกระเซ็น นอกจากนี้ ชิงสุ่ยก็ไม่ได้หยุดยั้งมือ เขาจึงรู้ดีว่าชีวิตของเขานั้นกำลังจะดับสิ้น
ร่างกายของชายชราจมดิน ใบหน้าซีดเซียว เลือดอาบเต็มตัว บริเวณกลางร่างกาย ถูกตัดขาด อวัยวะบางส่วน ถูกบดขยี้จนมองไม่เห็นรูปลักษณ์เดิม
ชิงสุ่ยทำลายอวัยวะภายในของชายชราจนหมดสิ้น
เมื่อขวากหนามถูกจัดการจนหมดสิ้น ชิงสุ่ยก็หันหน้าไปมองหญิงสาวจากตระกูลฉาง เธอหวาดกลัวจนตัวสั่น เธอไม่มีพลัง แม้ว่าจะมาจากตระกูลที่มีภูมิหลังน่ากลัว แต่เมื่อเธอได้เห็นสิ่งที่ชายคนที่อยู่ตรงหน้าทำ เธอก็รู้ดีว่าชิงสุ่ยกล้าฆ่าเธออย่างไม่ต้องสงสัย
เธอหวาดกลัว และเธอยังไม่อยากตาย เธอจึงเริ่มคุกเข่า “ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย!! ข้ามันตาบอด ข้าผิดไปแล้ว ในอนาคต ข้าจะไม่มาวุ่นวายกับท่านอีกเลย”
ชิงสุ่ยมองดูหญิงสาวที่เหมือนจะรู้ซึ้งถึงผลการกระทำ ชิงสุ่ยเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเธอ เขาแทบไม่ได้ใส่ใจเรื่องของเธอมาตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงทำเป็นลืมเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
“ก็ได้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ไสหัวไปซะ จำเอาไว้ว่าอย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก ข้าขอเตือนเลยว่า ขอให้เป็นตระกูลของเจ้า พวกมันก็ทำอะไรข้าไม่ได้ แล้วถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะเป็นคนฆ่าเจ้าเอง”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หญิงสาวผู้นั้นลุกขึ้นแล้ววิ่งสุดกำลังโดยไม่แม้แต่จะหันมองกลับมา คนที่เหลือก็อยากจะหลบหนีจากที่แห่งนี้ไปเต็มทน แต่ก็ถูกชิงสุ่ยหยุดเอาไว้
เหล่าผู้ติดตามยืนขาสั่นจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาตื่นตระหนก
“กำจัดศพของสองคนนี้!! แล้วรีบทำความสะอาดที่แห่งนี้!!”ชิงสุ่ยชี้ไปยังซากศพของ 2 ผู้อาวุโส
ภายในชั่วพริบตา คนทั้งหมดก็รีบขนร่างไร้วิญญาณของผู้อาวุโสทั้งสองจากไปแล้วรีบทำความสะอาดคราบเลือดทุกอย่าง
หลังจากกลุ่มคนทั้งหมดจากไป ชิงซีและองค์จักรพรรดิคลั่งก็รีบมุ่งหน้าตรงมาหาชิงสุ่ย ชิงซีจ้องมองชิงสุ่ยและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ตอนนี้แม้แต่ตระกูลฉางก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว “
เขามองดูท่าทางเป็นกังวลของชิงซีและกล่าวว่า “วางใจได้ มันไม่มีอะไรที่น่ากลัว เจ้าจงมุ่งมั่นฝึกฝนวิชาการแพทย์ ในอนาคต ข้าคงต้องฝากฝังหอคอยจักรพรรดิแห่งนี้ให้เจ้าดูแล”
“ข้าจะพยายาม ข้าจะเป็นลูกศิษย์ของท่านไปตลอดกาลเว้นเสียแต่ท่านไม่ต้องการข้าแล่ว”ชิงซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คำพูดของเธอแทรกไปด้วยความเพียร แต่ก็ดูประหม่า