Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1996 – พระราชวังหอรักษาสวรรค์ การลักพาตัว
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1996 – พระราชวังหอรักษาสวรรค์ การลักพาตัว
บทที่ 1996 – พระราชวังหอรักษาสวรรค์ การลักพาตัว
“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าพวกเราควรส่งคนไปพิทักษ์หอคอยจักรพรรดิหรือไม่?”จางตันเฟิงเปล่าถามชายชรา
“มันก็สมควรแต่ พวกเราก็ไม่ควรแสดงตัวนอกเสียจากมันจะมีสถานการณ์เร่งด่วน”
จางตันเฟิงพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา เขาเข้าใจสถานการณ์ หากพวกเขาแสดงตัวตนไวเกินไป ปัญหาเล็กอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ฉะนั้นการรอจังหวะที่เหมาะสมจึงเป็นอะไรที่สมควรมากสุด
………………..
ในขณะเดียวกัน บนยอดเขาสูงของเมืองฉาง สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และมีคฤหาสน์หลังใหญ่โต บรรยากาศโดยรอบแสนสดชื่น สถานที่แห่งนี้ก็คือศูนย์บัญชาการใหญ่ของพระราชวังหอรักษาสวรรค์
“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าพวกเราควรส่งคนไปพิทักษ์หอคอยจักรพรรดิหรือไม่?”จางตันเฟิงเปล่าถามชายชรา
“มันก็สมควรแต่ พวกเราก็ไม่ควรแสดงตัวนอกเสียจากมันจะมีสถานการณ์เร่งด่วน”
จางตันเฟิงพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา เขาเข้าใจสถานการณ์ หากพวกเขาแสดงตัวตนไวเกินไป ปัญหาเล็กอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ฉะนั้นการรอจังหวะที่เหมาะสมจึงเป็นอะไรที่สมควรมากสุด
………………..
ในขณะเดียวกัน บนยอดเขาสูงของเมืองฉาง สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และมีคฤหาสน์หลังใหญ่โต บรรยากาศโดยรอบแสนสดชื่น สถานที่แห่งนี้ก็คือศูนย์บัญชาการใหญ่ของพระราชวังหอรักษาสวรรค์ “เจ้าบอกว่าหอคอยจักรพรรดิสามารถฟื้นฟูพลังของจางเหมาหยุนได้ มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?”
คนที่กล่าวถามเป็นชายชราแต่งชุดธรรมดามีคิ้วหนาดวงตาสดใสให้ความรู้สึกถึงความสง่างาม ส่วนฝ่ายตรงข้ามเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ส่วนชุดคลุมสีเทาใบหน้าธรรมดา
“จริงแท้แน่นอน จางเหมาหยุนฟื้นฟูจุดตันเถียนและสามารถโคจรลมปราณได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังฟื้นตัวไม่เต็มที่แต่พวกเราก็สามารถยืนยันได้เลยว่าหอคอยจักรพรรดิรักษาจางเหมาหยุนได้”ชายวัยกลางคนกล่าวรายงานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“สิ่งนี้มันน่าประหลาดใจมาก ไม่เพียงแต่ตัวของเขาจะมีจุดตันเถียนที่พิการและเส้นลมปราณที่สูญสลาย ไม่มีทางที่เขาจะรักษาหายได้ อาการของเขานั้นไม่มีทางกลับมาฟื้นฟูพลังปราณได้อีกต่อไป เขาควรจะกลายเป็นคนพิการอย่างสมบูรณ์” มีผู้คนมากมายสูญเสียจุดตันเถียนจากการฝึกฝน ไม่ว่าจะวิธีใดพวกเขาก็ไม่มีวันฟื้นฟูความเสียหายเหล่านั้นได้อีกแล้ว โดยปกติผู้ที่สูญเสียพลังชีวิตของตนเอง ส่วนเราตัวตนที่สูงส่งก็มักจะสูญเสียทุกอย่างแล้วจมอยู่กับของทุกข์
“ไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้วรีบรายงานข้าโดยด่วน”
“ขอรับ”ชายหนุ่มร่างกำยำชุดคลุมยาวสีเทาพยักหน้าแล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันชายอีกคนนึงก็ปรากฏตัว ดูเหมือนเขาจะแก่กว่าชายชราที่ยืนอยู่ก่อนหน้าอยู่เล็กน้อย ซึ่งทั้งสองคนแต่งกายคล้ายคลึงกัน
“ศิษย์พี่ เรื่องนี้ท่านคิดว่าอย่างไร?”ชายชราก่อนหน้ากล่าวถาม
“ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริง หอคอยจักรพรรดิก็จะกลายเป็นจุดเด่นของโลก ทั้งคนดีคนชั่วคนอ่อนแอคนแข็งแกร่งจะพยายามสรรหาวิธีเพื่อเป็นพันธมิตรกับ มีผู้คนมากมายสูญเสียจุดตันเถียนจากการฝึกฝน ไม่ว่าจะวิธีใดพวกเขาก็ไม่มีวันฟื้นฟูความเสียหายเหล่านั้นได้อีกแล้ว โดยปกติผู้ที่สูญเสียพลังชีวิตของตนเอง ส่วนเราตัวตนที่สูงส่งก็มักจะสูญเสียทุกอย่างแล้วจมอยู่กับของทุกข์
“ไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้วรีบรายงานข้าโดยด่วน”
“ขอรับ”ชายหนุ่มร่างกำยำชุดคลุมยาวสีเทาพยักหน้าแล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันชายอีกคนนึงก็ปรากฏตัว ดูเหมือนเขาจะแก่กว่าชายชราที่ยืนอยู่ก่อนหน้าอยู่เล็กน้อย ซึ่งทั้งสองคนแต่งกายคล้ายคลึงกัน
“ศิษย์พี่ เรื่องนี้ท่านคิดว่าอย่างไร?”ชายชราก่อนหน้ากล่าวถาม
“ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริง หอคอยจักรพรรดิก็จะกลายเป็นจุดเด่นของโลก ทั้งคนดีคนชั่วคนอ่อนแอคนแข็งแกร่งจะพยายามสรรหาวิธีเพื่อเป็นพันธมิตรกับหอคอยจักรพรรดิ และจากเรื่องเล่าก่อนหน้า ข้าก็พอจะรู้แล้วว่าหมอที่อยู่ภายในหอคอยจักรพรรดิจะต้องมีศักยภาพที่น่ากลัว”ยอดยุทธอาวุโสกล่าวไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
ทันใดนั้นดวงตาของศิษย์น้องก็ส่องประกายสดใส เขามองไปยังศิษย์พี่ของตนและกล่าวว่า “ถ้าหากเราสามารถขโมยความสามารถของหมอปาฏิหาริย์คนนั้นได้ ท่านคิดว่าพระราชวังหอรักษาสวรรค์ของพวกเราจะโด่งดังเพิ่มขึ้นอีกเพียงใด?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ศิษย์พี่ของเขาก็จ้องมองศิษย์น้องชั่วครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า “เจ้าคิดว่าคนที่มีความสามารถถึงเพียงนี้จะเป็นคนธรรมดาอย่างนั้นหรือ? พวกเราไม่ควรทำอะไรลงไปด้วยความประมาท นอกจากนี้ยังมีผู้คนอีกมากมายพยายามชักจูงเขา ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันเขาก็คงจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลจาง ก่อนที่จางเหมาหยุนจะหายดี ตระกูลจางคงไม่มีวันยอมให้หอคอยจักรพรรดิเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน” “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจสถานการณ์ดี แน่นอนว่ามันจะต้องมีกลุ่มคนที่ไม่อยากให้จางเหมาหยุนมีชีวิตรอด พวกเขาไม่มีทางอยู่เฉยและคอยดูคอยจักรพรรดิทำการรักษา”ดวงตาของศิษย์น้องเต็มไปด้วยความมีไหวพริบและความโลภ ถ้าหากเขาสามารถช่วงชิงพรสวรรค์มาจากชิงสุ่ยได้ละก็ เขาก็จะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลลำดับต้นๆของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้ามั่นใจว่าหอคอยจักรพรรดิจะไม่มีทางสอนหมอจากโลกภายนอก “ศิษย์พี่กล่าวหลังจากครุ่นคิดอีกเล็กน้อย
“ศิษย์พี่ ท่านรู้จักแม่นางหลางหรือไม่?”ศิษย์น้องเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนน่าเกลียดน่ากลัว
“ข้าเคยได้ยินเรื่องของเธอมาก่อน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?”
“หญิงสาวผู้นี้คอยติดตามหมออัจฉริยะลึกลับ ยิ่งกว่านั้นจากข้อมูลที่เชื่อถือได้บอกอย่างชัดเจนเลยว่าเธอคือลูกศิษย์ของเขา แต่จากการกระทำแล้วเขาเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะรับเธอเข้ามาเป็นลูกศิษย์ และเหมือนว่าเธอเองก็ยังไม่เรียนรู้ทักษะแพทย์อย่างเต็มที่”
“ศิษย์น้อง เจ้ากำลังวางแผนจะทำสิ่งใด?”ศิษย์พี่ของเขาไม่รู้เลยว่าศิษย์น้องของเขาวางแผนอะไรอยู่
“ข้าคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างพิเศษ ทำไมเราไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นข่มขู่เขา และบังคับให้เขาสอนในสิ่งที่เราต้องการอยากรู้เพื่อแลกเปลี่ยนล่ะ?”
“แล้วเราจะทำอย่างไร ถ้าหากนางปฏิเสธและเลือกจะฆ่าตัวตายแทน?”
“ในกรณีนี้ เราก็มีทางเลือกอื่น อันดับแรกคือเราข่มขู่นางโดยตรง แม่นางหลางมีบุตรชายอยู่คนนึง ตราบใดที่เราสามารถข่มขู่เธอผ่านทางลูกชายของเธอได้ เราก็จะสามารถสั่งให้เธอทำสิ่งที่เราต้องการได้เช่นกัน เมื่อเราได้รับความรู้ที่เราต้องการ พวกเราก็เพียงแค่ฆ่าทั้งสองคนทิ้ง จากนั้นก็จะไม่มีใครสงสัยในตัวของพวกเรา “ศิษย์น้องกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
ศิษย์พี่ของเขาเงียบไประยะหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารู้ดีว่าศิษย์น้องของเขานั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายไร้ความปราณี และตัวของเขาเองก็ไม่คิดจะทำสิ่งอันไม่สมควรเพื่อบรรลุเป้าหมาย จนถึงตอนนี้เขาเองก็ยังไม่อยากสนใจในสิ่งที่ศิษย์น้องของเขาบอก
“ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจในความกังวลของท่าน แต่ท่านต้องพึ่งรู้เอาไว้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ถ้าหากเราได้เรียนรู้ความสามารถอันแสนลึกลับ และประสานมันเข้ากับความแข็งแกร่งของพระราชวังหอรักษาสวรรค์ พวกเราจะได้รับโอกาสที่ดีมากมายในอนาคต”ศิษย์น้องของเขายังคงกล่าวเชิญชวน โดยอาศัยสิ่งยั่วยวนที่เรียกว่าความสามารถ
“ข้ากลัวว่าพระราชวังหอรักษาสวรรค์จะต้องประสบปัญหาที่เกิดขึ้นจากมัน”ศิษย์พี่ของเขากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ศิษย์พี่ตามข้ามา ข้าจะอธิบายให้ท่านทราบถึงแผนการของข้าอย่างละเอียด ข้าขอรับรองได้เลยว่ามันจะไม่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น แม้ว่าพวกเราจะรับมือกับมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันจะต้องไม่ส่งผลถึงพระราชวังหอรักษาสวรรค์”เมื่อศิษย์น้องของเขาตัดสินใจแล้ว โอกาสที่ศิษย์น้องของเขาจะหันหลังกลับแทบเป็นไปไม่ได้
………………..
ชิงสุ่ยไม่ได้กลัวหรือกังวลที่ผู้คนจะได้เห็นความสามารถของเขาในวันนี้ เขาตั้งใจจะสร้างชื่อเสียงและรู้ดีเลยว่ามันจะต้องไปกระตุ้นความอิจฉาริษยาของผู้อื่น เขาไม่กลัวผู้ใด แต่เขาเป็นห่วงคนรอบตัวมากกว่า
แต่สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือลูกของซีฉีชาและหลินเฟ่ยที่เพิ่งจะหัดเดิน รวมไปถึงลูกของชิงซี
ชิงสุ่ยแจ้งให้ทุกคนระวังและพยายามดูแลลูกของตนเอง แต่แล้ว ชิงซีก็เดินตรงมาหาเขาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
“ท่านอาจารย์ โม่เอ๋อถูกลักพาตัว” ในขณะที่เธอกำลังพูดน้ำตาของเธอก็ไหลรินอาบแก้ม
“ใจเย็นๆ เล่าเหตุการณ์ให้ข้าได้รู้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น “ชิงสุ่ยกล่าวคำปลอบโยน แต่ในใจของเขานั้นเดือดพล่านด้วยความโกรธ
ชิงสุ่ยรู้ว่าการที่ฝ่ายตรงข้ามลงมือกับคนใกล้ตัว พวกมันคงต้องการอะไรบางอย่างจากเขา โอกาสแรกคือพวกมันต้องการช่วยเหลือใครบางคนที่พวกเขามั่นใจว่าชิงสุ่ยจะต้องปฏิเสธไม่ให้การช่วยเหลือ หรืออีกอย่างหนึ่งคือพวกมันกระหายความรู้ในการรักษาจากตัวของชิงสุ่ย แต่ประการแรกมันไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องด้วยตัวของชิงสุ่ยไม่เคยคิดปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือมาก่อน
“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ข้าเห็นคือมีร่างของใครบางคนพาตัวโม่เอ๋อบินหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นข้ากำลังหันหลังไปเก็บลูกบอลที่โม่เอ๋อเล่น มันทำให้ข้ามองไม่เห็นร่างของคนที่เอาตัวลูกชายของข้าไป “ชิงซีร้องไห้อย่างหนัก
“หรือว่ามันจะเป็นคนจากตระกูลหลาง?” ชิงสุ่ยสันนิษฐาน แต่ครั้งสุดท้ายตระกูลหลางก็ได้รับผลตอบแทนที่สาสม มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำผิดซ้ำ
“ข้าไม่รู้ท่านอาจารย์ ข้าควรทำอย่างไรดี?”ชิงซีกังวลมาก
“ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เจ้าไม่ต้องกังวล โจรลักพาตัวย่อมมีแรงจูงใจ รอพวกมันบอกในสิ่งที่ต้องการ อีกไม่นานนักพวกมันจะต้องร้อนรน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นเรื่องของข้า ข้ารับรองได้เลยว่าโม่เอ๋อจะต้องปลอดภัย”ในตอนนี้สิ่งเดียวที่ชิงสุ่ยทำได้คือการปลอบโยน เขารีบสั่งให้ผึ้งหยกจักรพรรดิ์กระจายตัวออกไปสืบข่าว
“ซีเอ๋อ สัตว์อสูรพวกนี้เก่งกาจด้านการสืบหา พวกมันจะต้องหาตัวลูกชายของเจ้าเจอ ไปอาจจะใช้เวลาสักครู่นึง”
“ขอบคุณมากท่านอาจารย์”ชิงซีสงบสติอารมณ์ลงแล้ว “เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่ต้องแสดงท่าทางสุภาพต่อหน้าอาจารย์ของเจ้าอีกแล้ว พวกเราเกี่ยวข้องกันแล้ว จงจำเอาไว้ ไม่ว่าปัญหาใดที่เกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าบอกข้าได้ ยิ่งเจ้ากังวลในตัวโม่เอ๋อมาก มันอาจจะนำพาให้เจ้าตัดสินใจผิดพลาด”ชิงสุ่ยกล่าวเตือน
“ท่านอาจารย์จะได้กังวล ข้าจะคิดทบทวนให้ดีที่สุด”