Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1997 – ชิงซีถูกจับ การข่มขู่
ภายนอกชิงสุ่ยดูสงบนิ่งแต่ในใจของเขายังคงเกลียดชัง เขาเกลียดคนประเภทนี้มากที่สุด ใครที่กล้าคุกคามคนใกล้ตัวของเขา ชิงสุ่ยจะเป็นคนทำให้พวกมันต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
ชิงสุ่ยอยากจะกำจัดพวกมันทันทีหากพบเจอตัว
แต่ในตอนนี้ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกหมดหนทางอยู่เล็กน้อย เขาทำได้เพียงแค่รอคอยให้ศัตรูเคลื่อนไหว ในขณะที่ผึ้งหยกจักรพรรดิของเขาก็ยังไม่อาจสืบเสาะข่าวสำคัญกลับมาได้ สิ่งเดียวที่เขากังวลมากที่สุดคือเขากลัวว่าศัตรูจะลงมือทำร้ายโม่เอ๋อ อย่างไรก็ตามโอกาสที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างต่ำ
ในทางตรงกันข้าม ชิงซีรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกอยู่เงียบๆไม่อยากทำให้อาจารย์ของเธอต้องกังวลมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่านึกในใจของเธอก็ยังคงเป็นห่วงลูกของเธออย่างหนักหน่วง
ช่วงเวลานี้ชิงสุ่ยได้สั่งให้ชิงซีพักไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาผู้ป่วย เนื่องจากติดใจของเธอยังไม่พร้อม
ผึ้งหยกจักรพรรดิกลับคืนสู่หอคอยจักรพรรดิหลังจากผ่านไป 2 วัน พวกมันสามารถระบุพื้นที่ที่โม่เอ๋ออาจถูกจับตัวอยู่ ในขณะเดียวกันชิงซีก็ได้รับจดหมายนิรนาม เนื้อหาในจดหมายตรงไปตรงมา มันเขียนบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าลูกชายของเธอนั้นอยู่ในกำมือของพวกเขา ถ้าหากเธอต้องการลูกชายของเธอกลับมา เธอจะต้องอยู่อย่างเงียบๆ และมุ่งหน้าตรงไปที่ภัตตาคารหยกรัญจวน
ชิงซรถือจดหมายและกำลังคิดถึงสิ่งที่ชิงสุ่ยบอกกับเธอเมื่อก่อนหน้า เธอจึงสงสัยว่าเธอควรจะบอกชิงสุ่ยดีหรือไม่ เนื้อหาในจดหมายสั่งให้เธอปิดปากเงียบห้ามบอกใคร เธอจึงยิ่งวิตกกังวล
และด้วยพลังของเธอในปัจจุบันที่บรรลุขึ้นสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ผนวกกับความแข็งแกร่งที่เธอได้รับและความสามารถที่เพิ่มพูน ทำให้เธอเชื่อมั่นว่าตัวของเธอนั้นแข็งแกร่งพอจะรับมือ เธอจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปด้วยตัวคนเดียว
ภัตตาคารหยกรัญจวน!!
ชิงซีเดินทางไปที่ภัตตาคารหยกรัญจวนเพียงลำพัง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเธอต้องตามหาใคร ซึ่งเมื่อชิงซีปรากฏตัว ใครบางคนก็ออกมาต้อนรับ “สวัสดีแม่นางน้อย เชิญทางนี้”
“เจ้าคือ?”ชิงซีถามออกไปด้วยความสับสน
“ข้าจะพาท่านไปพบเจอกับคนคนนึง”บุคคลผู้นั้นตอบ
เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างธรรมดา
ชิงซีกัดฟัน หลังจากการรอคอยที่แสนยาวนานกว่า 2 วัน เธอจึงรีบเดินตามชายคนนั้นไปทันที
ในขณะที่ชิงซีและชายคนดังกล่าวเข้าไปในห้องอาหาร หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนก็ชายตามองและเห็นเธอเดินเข้าไปโดยบังเอิญ มันทำให้หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของนึกถึงชิงสุ่ย ซึ่งประจวบเหมาะกับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เธอก็เพิ่งได้ยินเรื่องที่ลูกชายของชิงซีถูกจับตัว
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เธอก็เรียกคนสนิทมาพูดคุยอะไรบางอย่างและสั่งให้เขาออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในชั่วพริบตาเมื่อชิงสุ่ยมาถึงภัตตาคารหยกรัญจวน ทุกอย่างก็กลายเป็นความว่างเปล่า แม้แต่ตัวของเจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนก็อย่างตกตะลึง ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนั้นจะใช้วิธีการบางอย่างหายตัวไปตากภัตตาคารหยกรัญจวน
“้ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้าประมาทเกินไปจึงไม่ได้หยุดยั้งเธอเอาไว้”หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด
“ไม่ต้องกังวล ที่จริงแล้วข้าควรขอบคุณท่านด้วยซ้ำที่บอกเรื่องนี้ให้ข้าได้รับรู้ ตัวข้านั้นไม่รู้เรื่องเลยจนกระทั่งตอนนี้ ข้าบอกให้เด็กน้อยคนนั้นแจ้งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ข้าไม่คิดเลยว่านางจะมาเพียงลำพัง”ชิงสุ่ยหัวเสียเป็นอย่างมาก
“ท่านต้องการให้ข้าช่วยตรวจสอบหรือไม่?”เจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนพร้อมให้ความช่วยเหลือ
“ดีเยี่ยมไปเลย”ชิงสุ่ยกล่าวขอความช่วยเหลือ
ใบหน้าของชิงสุ่ยเป็นไปด้วยความประหลาดใจ “ข้าคงต้องขอโทษที่ทำให้ท่านรู้สึกหนักใจ เมื่อใดที่ข้าเจอซีเอ๋อ ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม”
“ยินดี”เจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนกล่าว
ชิงสุ่ยนั่งรออยู่ในภัตตาคารหยกรัญจวน ส่วนเจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนก็ได้เดินทางออกไปด้านนอก หลังจากนั้นเพียงแค่ 1 ชั่วยาม ข้อมูลบางอย่างก็ถูกรวบรวมกลับมาภัตตาคารหยกรัญจวน ชิงสุ่ยคาดไม่ถึงเลยว่าภัตตาคารหยกรัญจวนเองก็เป็นแหล่งข้อมูลชั้นเลิศ มีโอกาสสูงมากที่ภัตตาคารหยกรัญจวนจะอยู่ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มอำนาจใหญ่ เพราะข้อมูลที่เขาได้รับเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างสมบูรณ์
หญิงสาวผู้นั้นกล่าวถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเมื่อชิงสุ่ยมองดู เขาก็รู้สึกคุ้นเคยมันเหลือเกิน มันคือสถานที่ที่เจ้าผึ้งหยกจักรพรรดิ์ได้ให้ข้อมูลกับเขาก่อนหน้า เพียงแต่เขาไม่สามารถระบุสถานที่ตั้งได้อย่างชัดเจน
“ข้าขอตัวไปที่นั่นก่อน!! ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่ท่านมอบให้!!”ชิงสุ่ยออกไปจากภัตตาคารหยกรัญจวนทันทีที่ 9 จบ
“คุณชายชิง โปรดรอสักครู่”
ชิงสุ่ยจ้องมองเธอด้วยความสับสน
“ท่านรู้หรือไม่ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ใด?” “ไม่ ข้าไม่รู้”
“สถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งของพระราชวังหอรักษาสวรรค์ ถ้าหากข้าคาดเดาไม่ผิด มันมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาทำเช่นนั้นลงไปก็เพื่อแย่งชิงความสามารถของท่าน แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในพระราชวังหอรักษาสวรรค์จะเป็นนักปรุงยา แต่พวกเขาก็ทรงพลัง ท่านจะได้มองข้ามเรื่องนี้เป็นอันขาด”เจ้าของภัตตาคารหยกรัญจวนจ้องมองชิงสุ่ยและอธิบายอย่างช้าๆ
“ต่อให้เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขามีด ทะเลเพลิง มันก็ไม่มีอะไรหยุดข้าได้”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความร้อนใจ เขาไม่เหลือความอดทนอีกแล้ว
หญิงสาวผู้นั้นหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย เธอน่าจะสงสัยในตัวเองว่า ” อะไรถึงทำให้ข้ากังวลเรื่องของเขา? ข้าไม่ควรไปมีความสัมพันธ์อะไรกับเขา ไม่ว่าเขาจะสุขสบายหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า…….”อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงมีความคิดเหมือนผู้หญิงทั่วไป ไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือไม่ สิ่งที่เธอสงสัยก็ยังคงเป็นทำไมเธอถึงต้องบอกเรื่องของชิงซีให้เขารู้เรื่อง? ทำไมเธอต้องส่งคนไปตรวจสอบสืบหาชิงซี แม้แต่เรื่องของพระราชวังหอรักษาสวรรค์
จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ แต่เธอรู้สึกได้ว่าชายคนนี้เป็นคนดี ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เธอได้ไปหอคอยจักรพรรดิ เธอได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ หรือบางทีเธอเองก็อยากได้อาหารที่เขาทำ
“ว่าแต่ท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”หญิงสาวถามหลังจากลบล้างความคิดก่อนหน้า
“ข้าคิดว่าข้าไปคนเดียวได้สบาย ถ้าหากข้าให้ท่านมีส่วนร่วม ข้าอาจจะดึงปัญหามาสู่ท่านอีกคนนึง”ชิงสุ่ยพยักหน้าแล้วรีบจากไป
…………….
ชิงซีตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกกักขังอยู่ เธอไม่สามารถรวบรวมพลังเข้าสู่ร่างกายได้แม้แต่น้อย และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นได้ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องขัง และคนที่เดินเข้ามาก็เป็นชายชราดวงตาสดใสจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้ม
“ท่านเป็นใครกัน? ท่านรักพาตัวข้ามาทำไม?”ชิงซีรู้ตัวแล้วว่าเธอตกหลุมพราง
“เจ้าอยากจะเห็นหน้าลูกชายของเจ้าหรือไม่?”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ลูกชายของข้า!! ข้าอยากจะเจอลูกชายของข้า!!”ชิงซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบเธออยากได้ยินเสียงของโม่เอ๋อ
“ใจเย็นๆ พวกเราไม่ได้วางแผนจะทำร้ายเจ้า เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเรารู้ว่าหอคอยจักรพรรดิเข้าใจวิธีการผสานเส้นลมปราณเพื่อกู้คืนจุดตันเถียน สิ่งที่เจ้าต้องทำคือบอกเคล็ดลับของมันมา แล้วเราจะปล่อยเจ้าไปทันที”ชายชรายิ้มเยาะจ้องมองชิงซี
“ข้ายังไม่รู้วิธีทำ อาจารย์ของข้าก็เจ้ายังไม่ได้สอนข้าเลย”ชิงซีกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ชายชรายิ้ม
“ข้าโรงเรียนรู้จากอาจารย์ของข้า ได้เพียงแค่ไม่กี่วัน และด้วยทักษะการรักษาที่น่าเกรงขามก็ไม่ใช่เรื่องที่เรียนรู้ได้ภายในเวลาอันสั้น ถ้ามันง่ายขนาดนั้น คนอย่างอาจารย์ของข้าก็คงเจอได้ทุกพื้นที่!!”ชิงซีกล่าวต่อ
“เจ้าจงเขียนในสิ่งที่ข้าต้องการ”ชายชรายังคงกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ข้าพูดจริงๆ ข้ายังไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อนเลย”
“หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็คงต้องตัดแขนเจ้าเด็กนั่นออกสักข้าง ยิ่งเจ้าไม่ตอบคำถาม ข้าก็จะตัดอวัยวะของเขาออก”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ในขณะเดียวกันนั้น โม่เอ๋อก็มาปรากฏตัวต่อหน้าชิงซี
“ท่านแม่….ท่านแม่….”
เจ้าเด็กน้อยน้ำตาอาบแก้ม ตัวของเขาถูกล้อมรอบด้วยชายร่างยักษ์ 2 คน หนึ่งในนั้นถือมีดแล้วจับแขนของโม่เอ๋อ
“โม่เอ๋อ….”
“ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าหากเจ้ายังปฏิเสธ ข้าจะตัดแขนเจ้าเด็กน้อยคนนี้ออก”ชายชรากล่าวอย่างเชื่องช้า
หนึ่ง!!
ชายชราต้องใช้วิธีการนี้เท่านั้น ลูกชายของเธอคือจุดอ่อนใหญ่ที่สุด ถ้าหากข่มขู่เธอด้วยลูกชายของเธอไม่ได้ พวกเขาก็จะหมดหวังที่จะได้เรียนรู้
สอง!!
สาม!! ตัดแขนมัน!!
หยุด!! ข้าจะพูด!!
ใบมีดห่างจากแขนของโม่เอ๋อไม่ถึงนิ้ว ชิงซีตะโกนสุดเสียงแหบห้าว เธอมองดูลูกชายของเธอที่กำลังส่งเสียงร้องพร้อมน้ำตา เธอจะทนดูลูกชายของเธอถูกตัดแขนต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ถ้าหากพวกเขาต้องการตัดแขน เธอยอมให้พวกเขาตัดแขนเธอดีกว่า
“เขียนมันซะ จำเอาไว้ พวกเราเองก็เป็นหมอ ถ้าหากพวกเราพบว่าเจ้าเขียนผิดหรือเจตนาเขียนผิด ข้าจะตัดมือลูกชายของเจ้าทันที และจะไม่มีโอกาสที่สองอีกแล้ว”