Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2003 – หอคอยจักรพรรดิขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความชอบธรรม
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 2003 – หอคอยจักรพรรดิขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความชอบธรรม
ก่อนที่อวี้ซีหยวนจะจากไป ชิงสุ่ยได้มอบเครื่องเทศและเครื่องปรุงมากมายให้กับเธอ สนธิสัญญาการตกลงร่วมมือได้ถูกจัดตั้งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือที่แท้จริงของทั้งสองจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากไปถึงโลกเก้ามหาทวีปที่แท้จริง
ในวันถัดไป ข่าวเรื่องหอคอยจักรพรรดิของชิงสุ่ยเป็นผู้ลงมือจัดการพระราชวังหอรักษาสวรรค์ก็แพร่สะพัดออกไปทั่วทั้งเมืองฉาง โดยในเนื้อขาวระบุอย่างชัดเจนเลยว่า การล่มสลายครั้งนี้เกิดจากพระราชวังหอรักษาสวรรค์ได้ลักพาตัวชิงซีและโมเอ๋อเพื่อจะช่วงชิงทักษะการรักษาจากชิงสุ่ย
ผู้คนในหอคอยจักรพรรดิเองก็ไม่รู้จนกระทั่งได้ยินข่าว พวกเขารู้ว่าชิงสุ่ยแข็งแกร่งและทรงพลัง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าผู้เป็นเจ้าของหอคอยจักรพรรดิและแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ เหลียนหลิงเฟิง องค์จักรพรรดิคลั่งและคนอื่นๆประหลาดใจอยู่สักพักใหญ่ แต่พวกเขาก็รู้ตัวตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่เห็นชิงสุ่ยกลับมาพร้อมกับชิงซี พวกเขาก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าชิงสุ่ยได้ลงมือทำสิ่งใด
ชื่อเสียงของหอคอยจักรพรรดิยิ่งขยายเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนต่างเฝ้าจับตามองความสามารถทางการรักษาของหอคอยจักรพรรดิ การที่พระราชวังหอรักษาสวรรค์จับตัวประกันเพื่อข่มขู่เอาทักษะการรักษา ยิ่งทำให้ผู้คนเชื่อกันว่าทักษะการรักษาของหอคอยจักรพรรดินั้นอยู่เหนือพระราชวังหอรักษาสวรรค์ และจากข่าวใหญ่ที่ทุกคนได้ยิน ยิ่งเป็นเครื่องรับประกันแล้วว่าหอคอยจักรพรรดิแข็งแกร่งจริง ไม่ได้เป็นเพียงข่าวลือลมปาก
2 วันถัดมา จางเหมาหยุนได้เดินทางมาที่หอคอยจักรพรรดิ ด้วยสีหน้าสงบนิ่งแฝงไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย หลังจากได้รับการฝังเข็ม ร่างกายของเขาก็พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“ดูเหมือนท่านจะยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริง พระราชวังหอรักษาสวรรค์คิดทำการใหญ่ ช่างโลภมากเหลือเกิน”จางเหมาหยุนกล่าวอย่างมีความสุข
“ทำไมท่านถึงกล่าวเช่นนั้น?”ชิงสุ่ยถามด้วยความสงสัย
“พระราชวังหอรักษาสวรรค์มีชื่อเสียงค่อนข้างดี หลังจากที่พวกเขากลายเป็นนิกายที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยนักปรุงยา ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้จะต้องให้ความกระเป๋านักปรุงยา และเมื่อวันเวลาผ่านไป ความเคารพได้ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส เมื่อพวกเขาเห็นหอคอยจักรพรรดิพยายามช่วงชิงภาพลักษณ์อันแสนสำคัญของพวกเขา พวกเขาก็คงไม่นั่งนิ่งดูดาย ข้าไม่คิดเลยว่าพระราชวังหอรักษาสวรรค์จะกล้ากระทำสิ่งน่าอาย ด้วยการลักพาตัว” “พวกมันไม่เพียงแค่ลักพาตัว แต่ยังกระทำสิ่งเลวร้ายลับหลังอีกด้วย”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่มีใครกล้าพูด มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คนตัวเล็กๆย่อมไม่กล้าท้าทายอำนาจยิ่งใหญ่ ส่วนผู้คนที่มีอิทธิพลก็ยิ่งหลงระเริงในอำนาจ แต่เมื่อหลงม่อมเมาจนเกินขอบเขต พวกเขาก็จะเผชิญหน้ากับการสูญเสียตัวตนที่ควรพึงมีไปโดยไม่รู้ตัว”จางเหมาหยุนส่ายหน้า
“คุณชาย ข้าเหมือนเห็นว่าท่านกำลังสนิทใกล้ชิดกับภัตตาคารหยกรัญจวน ข้าขอแสดงความยินดีด้วย”จางเหมาหยุนเหมือนจะไม่สนใจบทสนทนาก่อนหน้า เขารีบเปลี่ยนไปพูดเกี่ยวกับเรื่องของภัตตาคารหยกรัญจวนโดยฉับพลัน
“โอ้ สหายจาง ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับภัตตาคารหยกรัญจวนด้วยอย่างนั้นหรือ?”ชิงสุ่ยเป็นคนอยากรู้อยากเห็น เขาจึงอยากทราบภูมิหลังของภัตตาคารหยกรัญจวน ทำไมหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ถึงได้เป็นผู้ปกครองที่นั่น? เขาไม่เชื่อในจุดประสงค์หลักของภัตตาคารหยกรัญจวนที่ตั้งในที่แห่งนี้
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้เพียงแค่ว่าตัวตนของเธอนั้นลึกลับมาก และเธอก็เหมือนจะมีคนใหญ่โตมากคอยดูหลังอยู่ บางทีมันอาจจะเป็นคนที่มาจากโลก 9 มหาทวีปที่แท้จริง ฉะนั้นเหตุผลที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเรื่องลึกลับที่สุด จากการคำนวณแล้ว เธอน่าจะหยุดเพราะบางสิ่ง จึงทำให้เธอมาอยู่ที่นี่นานกว่า 10 ปีแล้ว”จางเหมาหยุนส่ายหน้า
จุดตันเถียนของจางเหมาหยุนค่อยๆถูกรักษาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เขายังไม่สามารถใช้พลังปราณรากฐานได้ชั่วคราว และยังไม่สามารถฝึกฝนได้ เขาไม่ได้รู้สึกโศกเศร้า เขารู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปด้วยซ้ำ ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่สามารถฝึกฝนอะไรได้เลย เขาคิดฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นความกังวลในสายตาพ่อแม่ และนึกถึงภรรยา เขาได้แต่เก็บความอัดอั้นตันใจเอาไว้ทนอยู่กับความอดทน แม้ว่าจะเป็นคนพิการ แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตด้วยความกล้าหาญ
เขาคืออัจฉริยะที่แท้จริงของตระกูลจาง ตอนนี้เขาได้รับโอกาสในการฟื้นฟูพลัง ตระกูลจางจึงจัดจ้างยอดยุทธมากมายมาเพื่อปกป้องจางเหมาหยุน ตอนนี้เขายังใช้พลังไม่ได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตระกูลจะกังวลว่าเขาอาจจะเจอคนเจตนาไม่ดีพยายามทำร้ายเขา
จางเหมาหยุนกำลังฟื้นตัวเต็มที่ เขาจะฟื้นฟูพลังกลับมาอย่างสมบูรณ์ ถ้าหากได้พักผ่อนอีก 1 เดือน
“คุณชาย ท่านคือผู้มอบชีวิตที่ 2 ให้กับข้า ถ้าหากข้าไม่เจอท่าน ข้าก็คงไม่ต่างอะไรจากซากศพเดินได้ แม้ว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง แต่บางสิ่งบางอย่างก็หนักอึ้งเกินกว่าที่คาดจะก้าวข้าม ถ้าหากท่านต้องการอะไร โปรดบอกข้าได้เลย ข้าพร้อมจะช่วยท่านทุกอย่าง ขอให้ท่านต้องการชีวิตของข้า ข้าก็จะมอบให้ท่านโดยไม่ลังเล”จางเหมาหยุนกล่าวด้วยคำพูดจริงจัง ชิงสุ่ยยิ้มและตบไหล่ “พวกเราไม่ได้มีอะไรติดพันกัน ระหว่างที่ข้ารักษาท่าน ท่านเป็นคนนำตัวยาอีกทั้งยังจ่ายค่ารักษาให้กับข้า ท่านไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรข้า ตัวข้าเองก็เป็นหมอ ถ้าหากทุกคนทำเหมือนท่าน ข้าจะเปิดหอรักษาได้อย่างไร?”
จางเหมาหยุนรู้ว่าชิงสุ่ยพยายามจะบอกอะไร เขาจะไม่พูดมากอะไรต่อ เขาแค่ยิ้มและพยักหน้า “ข้าเป็นคนรักษาคำพูด ท่านคือคนที่ข้าไว้ใจและให้ความเคารพที่สุด ถ้าหากท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใด โปรดบอกมาได้เลยไม่ต้องมีพิธีรีตอง “
“ตกลง ข้าจะรีบบอกท่านทันที”
…………….
ในวันต่อมา เหตุการณ์ยังคงดำเนินไปด้วยความสงบสุข ชิงซีเรียนรู้ทักษะการรักษาและได้รับการฝึกฝนจะชิงสุ่ย เด็กๆที่อยู่ในหอคอยจักรพรรดิเองก็ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด ชิงสุ่ยเป็นคนที่จริงจังมาก ไม่ว่าพวกเขาจะมีอายุมากน้อยเพียงใดทุกคนจะได้รับการฝึกฝนตามช่วงอายุของตนเอง ชิงสุ่ยปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียม แม้ว่าจะเป็นเด็กที่มีอายุ 15-16 ในสายตาของเขามันยังไม่สายเกินไป
หอคอยจักรพรรดิรับงานมากขึ้นเรื่อยๆทำให้พวกเขาจำเป็นต้องจ้างหมอเพิ่มขึ้นอีกสองสามคน ด้วยความสามารถของหอคอยจักรพรรดิ เพียงแค่ประกาศรับสมัครหมอ ทุกคนทั่วทั้งเมืองและเมืองโดยรอบต่างมุ่งหน้าตรงมาเพื่อเข้าร่วมกับหอคอยจักรพรรดิโดยไม่หวังค่าตอบแทน นั่นก็เพราะว่าการได้รับชื่อเสียงจากหอคอยจักรพรรดิ คุ้มค่ายิ่งกว่าค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น และผู้คนที่เป็นหมอต่างก็อยากได้รับการเรียนรู้โดยตรงจากชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยก็รู้ดีว่าทุกคนมาด้วยเหตุผลใด เขาจึงเป็นคนลงมือคัดเลือกหมอด้วยตัวเอง ประการแรกคือต้องมีคุณธรรม หากไร้คุณธรรม ชิงสุ่ยจะไม่สอนสิ่งใดให้พวกเขาเลย มิฉะนั้นคนเหล่านี้จะเอาความสามารถไปใช้ในทางที่ผิด ทำให้ผู้ป่วยยิ่งเจ็บช้ำปวดร้าวมากขึ้นเป็นทวีคูณ
เพื่อสร้างชื่อเสียงให้หอคอยจักรพรรดิ ชิงสุ่ยจึงจำเป็นต้องพักอยู่ในเมืองฉางอีกสักพักใหญ่ และอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างนาน สถานที่แห่งนี้ในอนาคตมันอาจจะเป็นหนึ่งในบ้านของตระกูลชิง
ในช่วงพริบตา 5 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับชิงสุ่ย 5 เดือนไม่ใช่เวลายาวนานเลย มันสั้นไปด้วยซ้ำ ทุกสิ่งอย่างดำลงไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ทุกคนต่างจดจำสถานะของหอคอยจักรพรรดิได้เป็นอย่างดี หอคอยจักรพรรดิคือผู้โค่นล้มพระราชวังหอรักษาสวรรค์ นั่นก็หมายความว่าหอคอยจักรพรรดิทรงพลังอำนาจเหนือกว่าพระราชวังหอรักษาสวรรค์ทุกด้าน ผู้คนจึงไม่กล้าตอบแทนหรือสร้างปัญหาใดๆทั้งสิ้น
หอคอยจักรพรรดิมีจิตใจที่อบอ้อมอารี เหล่าคนจนจะได้รับการรักษาด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกมา กล่าวได้ว่าจ่ายแค่เพียงตัวยา และถ้าหากพวกเขายากจนหมดหนทาง คนเหล่านี้จะได้รับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ชื่อเสียงของหอคอยจักรพรรดิยิ่งแข็งแกร่งขึ้น โค่นล้มแทบจะทุกกองกำลังในเมืองฉาง ทำให้ทุกคนขนานนามว่าพวกเขาคือขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความชอบธรรม
โลกใบนี้ เห็นความสำคัญของหมอ คนที่เป็นหมอจะได้รับการยกย่อง
ฉะนั้นการใดมีความสัมพันธ์กับหอคอยจักรพรรดิ จะทำให้ผู้คนได้รับเกียรติและไม่มีใครกล้ารังแก