Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2038 – ตระกูลหลิว
บทที่ 2038 – ตระกูลหลิว
ปรมาจารย์สามแห่งตระกูลหลิวตัวสั่นสะท้านขณะมองดูกระบี่ยาวที่แสนภาคภูมิใจ หัวใจของเขาเหมือนกำลังถูกย่ำยี เส้นทางที่เขามั่นใจถูกทำลายจนป่นปี้
เขานึกถึงภาพวันที่ตระกูลหลิวยอมพ่ายแพ้ และนึกไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะมาถึง ในอดีตเขาคิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดในหมู่ผู้คน แต่แล้วความคิดนี้ก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ เขาเสียใจกับมันมาก
“ขอบคุณที่ให้โอกาส ถ้าเช่นนั้น ถ้าหากข้าจะขอตัวลาจะเป็นไรหรือไม่?” ปรมาจารย์สามแห่งตระกูลหลิวกล่าวถามด้วยคำพูดลังเล
“แน่นอน ข้าไม่ได้คิดกักขังท่าน อย่าได้ลังเล”ชิงสุ่ยหันหลังกลับทันทีที่กล่าวจบ
ปรมาจารย์สามพยุงร่างนายน้อยสามแห่งตระกูลหลิวจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งจนหายใจแทบไม่ออก มันไม่ผ่อนคลายเหมือนในอดีตอีกแล้ว
บทที่ 2038 – ตระกูลหลิว
ปรมาจารย์สามแห่งตระกูลหลิวตัวสั่นสะท้านขณะมองดูกระบี่ยาวที่แสนภาคภูมิใจ หัวใจของเขาเหมือนกำลังถูกย่ำยี เส้นทางที่เขามั่นใจถูกทำลายจนป่นปี้
เขานึกถึงภาพวันที่ตระกูลหลิวยอมพ่ายแพ้ และนึกไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะมาถึง ในอดีตเขาคิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดในหมู่ผู้คน แต่แล้วความคิดนี้ก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ เขาเสียใจกับมันมาก
“ขอบคุณที่ให้โอกาส ถ้าเช่นนั้น ถ้าหากข้าจะขอตัวลาจะเป็นไรหรือไม่?” ปรมาจารย์สามแห่งตระกูลหลิวกล่าวถามด้วยคำพูดลังเล
“แน่นอน ข้าไม่ได้คิดกักขังท่าน อย่าได้ลังเล”ชิงสุ่ยหันหลังกลับทันทีที่กล่าวจบ
ปรมาจารย์สามพยุงร่างนายน้อยสามแห่งตระกูลหลิวจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งจนหายใจแทบไม่ออก มันไม่ผ่อนคลายเหมือนในอดีตอีกแล้ว ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มคนอีกหลายคนพยายามทำความรู้จักกับชิงสุ่ย
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะถอยห่าง เพราะมันถือว่าเป็นความเสี่ยง ตระกูลหลิวจะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับชายคนนี้ นั้นใครก็ตามที่สร้างความสัมพันธ์กับชิงสุ่ยก็เท่ากับการสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ตะกูลหลิว
อวี้ซีหยวนทั้งรู้สึกสงบและมีความสุขในเวลาเดียวกัน เธอรู้ดีว่าชิงสุ่ยมีพลังแข็งแกร่งจนน่ากลัว อวี้ติงเหอเองก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นไป ทำให้เขาหมดทางเลือกนอกจากจะศรัทธาในตัวของชายหนุ่มคนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าตระกูลอวี้เองก็ตัดสินใจสานสัมพันธ์อันดีกับชิงสุ่ย
…………..
ภายในภัตตาคาร พวกเขาใช้ส่วนผสมที่ได้มาจากชิงสุ่ยเพื่อทำอาหารและจำหน่ายสุรา ในบรรดาผู้คนที่สัญจรเข้ามาชิม แม้ว่าครั้งนี้จะไม่มีคนมาจากตระกูลใหญ่ แต่หลายคนก็ถือว่ามีสถานะที่สูงส่ง ทุกคนที่ได้ชิมอาหารต่างก็ยกย่องรสชาติ และช่วยแพร่กระจายชื่อเสียง
ในขณะที่กลุ่มคนกำลังรับประทานอาหารจากภายใน กลิ่นหอมของอาหารและสุราที่ได้มาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ ก็กระจายไปทั่วดึงดูดผู้คนมากมาย พวกเขารู้ดีว่าหลักการเริ่มต้นการค้านั้นเริ่มต้นมาจากการทดลอง พวกเขามาเพราะมีโอกาสที่จะได้กินและดื่มฟรี ในขณะที่ภัตตาคารเต็มไปด้วยผู้คน มันจะมีอยู่ 2-3 โต๊ะด้านหน้า ที่ถูกจับไว้เพื่อให้ทดลองชิม
ในชั่วพริบตา ผู้คนมหาศาลก็ต่อคิวยาวเหยียดทะลุด้านนอกร้าน แต่ละคนต่างรู้สึกเสียใจที่มาช้ามิฉะนั้นก็คงจะได้อิ่มท้องกลับบ้านไปนานแล้ว
……………
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลังจากนายน้อยสามเสียชีวิตจนปัจจุบันก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น บรรยากาศที่หนักอึ้งค่อยๆผ่อนคลายลง ภัตตาคารยังคงเปิดปกติ ผู้คนสัญจรผ่านมาแวะเวียนดื่มสุรา
จนกระทั่งเวลาประมาณช่วงบ่าย กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวหน้าภัตตาคาร พวกเขาคือคนตระกูลหลิว!!
คนประมาณ 10 คนแต่ละคนล้วนเป็นยอดยุทธระดับสูง โดยที่ผู้นำเป็นชายอาวุโสลักษณะค่อนข้างแก่
สีหน้าการแสดงออกของแต่ละคนดูมืดมน เหงื่อไหล่ พวกเขาประหลาดใจมากที่ภัตตาคารแห่งนี้ได้รับความนิยมจนน่าเหลือเชื่อ อาหารแต่ละอย่างยั่วยวนจนทำให้พวกเขาน้ำลายไหล อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้มาเพื่อรับประทานอาหาร ชายชราที่เป็นผู้นำกลุ่มยังคงเงียบปล่อยให้ชายวัยกลางคนอยู่ด้านข้างตะโกนว่า “ตระกูลหลิวกำลังจะจัดระเบียบ ถ้าหากพวกเจ้าไม่มีอะไรทำแล้วก็จงแยกย้ายกันไปซะ “
ผู้คนที่เคยต่อแถวยาวเหยียดกระจายไปหมด หากใครกล้าขัดขืนคำสั่งตระกูลหลิวก็เท่ากับรนหาที่ตาย แต่ลึกๆในใจพวกเขาแล้วก็ยังคงอึดอัด
ชิงสุ่ยและอวี้ซีหยวนออกมาพร้อมกับคนของตระกูลอวี้ ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชราตรงกลางที่เป็นผู้นำ “ดูเหมือนว่าตระกูลหลิวขะตัดสินใจได้แล้ว”
“เจ้าไม่ได้มาจากตระกูลสูงศักดิ์ เพราะรอบตัวของเจ้าไม่ได้มีเครื่องบ่งบอกถึงปราณชั้นสูง”ชายชรากลางตรงไปตรงมา ดวงตาของเขาเหมือนกับผู้มีปัญญา
ชิงสุ่ยไม่ตอบโต้ “จะอะไรก็ไม่สำคัญ คำแนะนำเดียวที่ข้ามีอยู่คือ เมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วก็จงอย่าเสียใจ”
“ข้าไม่มีทางเสียใจ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำลายตระกูลหลิวได้ด้วยการอาศัยทักษะฝังเข็มสกัดจุดอย่างนั้นสินะ? เจ้าประเมินตระกูลหลิวต่ำไปเสียแล้ว คนตระกูลหลิวไม่สมควรถูกรังแกได้ง่ายๆ”ชายชราปลดปล่อยกลิ่นอายที่แสนมืดมน
“ข้าขอพูดตามตรง ข้ายังยืนยันคำเดิมมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้าจะมาถึงจุดนี้ได้ จงอย่านำพาตระกูลของตนเองไปสู่ความพินาศเพียงเพราะขยะตัวเดียว ในตอนนั้นเจ้าอาจจะไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษของตน”ชิงสุ่ยจ้องมองคนตระกูลหลิวทั้งหมด
“ท่านปู่ เดี๋ยวข้าจะฆ่ากันเอง เจ้าหนูน้อย อย่าทำตัวเป็นพระเจ้าหน่อยเลย”ชายที่ดูเด็กมากกล่าว
ชายชรากางแขนคนหยุดอื่นๆ “เด็กไร้ประโยชน์คนของตระกูลข้าตายไปแล้ว เมื่อมันเป็นเช่นนั้น สัญญาระหว่างตระกูลหลิวและตระกูลอวี้จึงถูกยกเลิก แต่เราจะมาจัดการเรื่องทั้งหมดในวันนี้แทน”
“เจ้ามีแผนอย่างไร?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
“ตัดสินกัน 5 รอบ ระหว่างตระกูลหลิวกับเจ้าและตระกูลอวี้”
“5 รอบมากเกินไป เสียเวลาเปล่า เรามาตัดสินผู้ชนะในรอบเดียวดีกว่า”ชิงสุ่ยยิ้มกว้าง “อย่างน้อยที่สุด 3 รอบ หรือว่าเจ้ามีคนไม่พอจะต่อสู้?”
“ตกลง พวกเจ้าจะต้องรับผิดชอบชีวิตของตน ถ้าหากพวกเจ้าชนะ พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?”ชิงสุ่ยยิ้ม
“ถ้าหากข้าชนะ เจ้าจะต้องตายเพื่อชดเชยชีวิตลูกของข้า”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“แล้วถ้าหากพวกเจ้าแพ้ล่ะ?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวถาม
“เจ้าสามารถทำอะไรกับพวกเราก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ เพราะถ้าหากข้าแพ้ ข้าก็คงไม่มีกำลังพอจะต้านทานเจ้า”ชายชรากล่าวอย่างเชื่องช้า
หลังจากทำข้อตกลงเสร็จสิ้น ตระกูลหลิวก็ทยอยจากไป ชิงสุ่ยพิจารณาถึงการแข่งขันครั้งนี้ ก่อนหน้านี้เขาเห็นคนที่แข็งแกร่งอยู่หลายคน ตัวอย่างเช่น ชายชราที่อยู่ตรง ชิงสุ่ยค่อนข้างแปลกใจในพลังของเขา ถ้าหากเขาพ่ายแพ้ ทั้งเขาและตระกูลอวี้อาจจะต้องถึงคราวจุดจบ
ที่สำคัญการแข่งขันถูกจัดขึ้นถึง 3 ครั้ง เขาคงไม่มีเวลามากพอจะหาผู้ที่เหมาะสมเข้าต่อสู้ เขาจึงมองไปทางอวี้ซีหยวนและอวี้ติงเหอ ” มีใครในตระกูลอวี้ที่เหมาะสมจะลงแข่งครั้งนี้หรือไม่?”
อวี้ติงเหอส่ายหน้า “คนของตระกูลอวี้สู้คนตระกูลหลิวไม่ได้”
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมขยะจากตระกูลหลิวถึงได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับอวี้ซีหยวน