Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2044 – พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เริ่มต้นการค้า
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 2044 – พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เริ่มต้นการค้า
บทที่ 2044 – พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เริ่มต้นการค้า
ฝ่ามือกระชากมังกร!!
กรงเล็บมังกรมีบังคับให้หลิวตงเฟิงต้องหยุดชะงัก ชิงสุ่ยไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือเขาเข้าโจมตีด้วยความเร็วสูง
หมัดกระชาก!!
พรวดดดด!!
หลิวตงเฟิงถูกกระแทกเข้าที่หน้าอก จนบาดเจ็บร่างกายเป็นอัมพาตชั่วคราว ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบวนท่าโจมตีเป็นพายุลมกรด ทำให้ศัตรูยืนรับการโจมตีเหมือนขอนไม้
หลิวตงเฟิงไม่มีพลังจะต่อต้าน ใบหน้าของเขาถูกกระแทกด้วยนิ้ว หมัด และข้อศอก เมื่อชิงสุ่ยหยุดมือ หลิวตงเฟิงก็ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น นิ่งสนิท
ชิงสุ่ยร่างกายสะอาดสะอ้าน จ้องมองหลิวตงเฟิงอย่างเงียบๆ ก่อนจะหันไปมองฝูง
บทที่ 2044 – พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เริ่มต้นการค้า
ฝ่ามือกระชากมังกร!!
กรงเล็บมังกรมีบังคับให้หลิวตงเฟิงต้องหยุดชะงัก ชิงสุ่ยไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือเขาเข้าโจมตีด้วยความเร็วสูง
หมัดกระชาก!!
พรวดดดด!!
หลิวตงเฟิงถูกกระแทกเข้าที่หน้าอก จนบาดเจ็บร่างกายเป็นอัมพาตชั่วคราว ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบวนท่าโจมตีเป็นพายุลมกรด ทำให้ศัตรูยืนรับการโจมตีเหมือนขอนไม้
หลิวตงเฟิงไม่มีพลังจะต่อต้าน ใบหน้าของเขาถูกกระแทกด้วยนิ้ว หมัด และข้อศอก เมื่อชิงสุ่ยหยุดมือ หลิวตงเฟิงก็ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น นิ่งสนิท
ชิงสุ่ยร่างกายสะอาดสะอ้าน จ้องมองหลิวตงเฟิงอย่างเงียบๆ ก่อนจะหันไปมองฝูงชน
“ตระกูลหลิวแพ้แล้ว!!”ฝูงชนตะโกนออกมาด้วยความอยากไม่เชื่อ
“พวกเขาพ่ายแพ้ มันคือความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง”
“ชายหนุ่มที่แสนน่ากลัวคนนี้เป็นใคร? หลิวตงเฟิงสู้เขาไม่ได้เลย กระบวนท่าที่แสดงออกมามันยิ่งกว่านักฆ่า แต่ละท่าดูเรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพมาก”
……………
คำพูดถกเถียงเกิดขึ้นทั่วไปทั้งพื้นที่ ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เดินเข้าไปใกล้ตระกูลหลิว ชายชราที่พ่ายแพ้ให้กับอวี้ซีหยวนจ้องมองชิงสุ่ยและกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “ตระกูลหลิวของเราพ่ายแพ้แล้ว พวกเราจะทำตามทุกคำขอของท่าน โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ”
ชิงสุ่ยรู้ว่าชายชราคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อเขาไม่มีโอกาส เขาก็กลัวว่าชิงสุ่ยจะกำจัดตระกูลหลิวให้หายจากโลก เขาจึงใช้น้ำเสียงนอบน้อม จากการต่อสู้ ชายชรารู้ว่าชิงสุ่ยไม่ได้ต้องการจะฆ่าหลิวตงเฟิง เขาจึงใช้โอกาสนี้แก้ไขสถานการณ์
“ข้าไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใคร ข้าเข้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ แล้วเมื่อถึงเวลาข้าก็จะจากไป ข้าไม่อยากเห็นปัญหาใดๆเกิดขึ้น ตอนนี้ซีหยวนคือเพื่อนของข้า พวกเราเป็นหุ้นส่วนเปิดภัตตาคารและเปิดหอยา นี่คือโลกใบใหญ่ พวกเราอาศัยอยู่ร่วมกันก็ไม่ควรจะมาฆ่ากันเอง ลืมตาดูโลกกว้างซะ สำหรับท่าน บางทีคนที่เดินอยู่บนถนน สักวันมันอาจจะกลายเป็นฝันร้ายของท่าน”
ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ เขาใช้คำพูดบอกเป็นนัยกล่าวเตือน บางครั้งการพูดตรงไปตรงมาเกินไปอาจจะทำให้เรื่องแย่ลง
“ข้าเข้าใจว่าท่านกำลังหมายถึงอะไร ในอนาคต เพียงแค่ท่านบอกในสิ่งที่ท่านต้องการ ตระกูลหลิวก็พร้อมจะมอบให้กับท่านทุกอย่างจนกว่าท่านจะพอใจ”ชายชราก้มหน้าพูดจาอย่างสุภาพ “ท่านเปรียบเสมือนงูที่พยายามจะเป็นมิตรกับไม้ตีงู ข้ารู้ว่าพวกท่านไม่มีทางทำอะไรข้าได้ พูดตามตรง ในสายตาของข้าพวกท่านไม่อาจเป็นได้แม้แต่ศัตรูของข้า เมื่อเทียบกับศัตรูของข้าแล้ว พวกท่านอ่อนแอเกินไป แต่เพื่อบรรลุความต้องการ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากแสดงพลังให้พวกท่านเห็น ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อถ่ายทอดข้อความสู่สาธารณชน แม้ว่าข้าจะเป็นหมอรักษาคน แต่พลังการต่อสู้ของข้าก็ไม่เป็นรองใคร ท่านจะนำพาตระกูลให้ก้าวไกลได้ ก็ต่อเมื่อท่านต้องเริ่มหัดเป็นมิตรกับผู้คนให้มากขึ้น สำหรับเมืองรุ้งคราม เมื่อผู้คนบรรลุถึงจุดสูงสุด มันคงไม่มีอะไรเหลือนอกจากความเหงาอ้างว่า แต่จงจำเอาไว้ อย่าได้ดูถูกคน เพราะคนที่อยู่บนถนนบางทีอาจจะมีพลังลบตระกูลของท่านได้”
ชิงสุ่ยยังคงใช้คำสอนข่มขู่
ชายชราเห็นด้วยกับทุกคำพูดของชิงสุ่ย เขาตั้งใจฟัง แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าชิงสุ่ย ได้ในโลกนี้ผู้ที่ทรงพลังย่อมได้อภิสิทธิ์ที่จะพูด ดังนั้นชายชราจึงไม่รู้สึกอาย และเขาก็เคารพชิงสุ่ยในฐานะผู้ที่อาวุโสกว่าตามศักดิ์ของพลัง
…………..
ชิงสุ่ยกลับไปที่ตระกูลอวี้ เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรจากตระกูลหลิว จากมุมมองของบุคคลภายนอก ชิงสุ่ยแทบจะไม่สนใจคู่ต่อสู้เขาเลย มันยิ่งทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นในตัวชิงสุ่ยมากขึ้น
เมืองรุ้งครามเป็นก้าวแรกก้าวเล็กของชิงสุ่ยที่จะต่อยอดไปยังดินแดนฟ้าอุดร เขารู้ดีว่าไม่ควรเดินก้าวใหญ่เกินไป เพราะดินแดนฟ้าอุดรมันเปรียบเสมือนดินแดนน้ำลึก เขาต้องได้รับการยอมรับจากดินแดนฟ้าอุดรเสียก่อน จึงจะเข้าถึงพื้นที่ที่เหลือรอบข้างได้
ชิงสุ่ยไม่ได้เข้าไปในตระกูลอวี้ เขาเลือกที่จะกลับไปยังภัตตาคาร อย่างไรก็ตามผู้คนจำนวนมากแต่ตระกูลอวี้ก็ติดตามเขาไปด้วย วันรุ่งขึ้นคือวันที่หอคอยจักรพรรดิจะเปิดทำการ ชิงสุ่ยวางแผนมุ่งเน้นฝึกฝนและกลั่นยา เขาต้องการจะกระจายชื่อเสียงหมอปาฏิหาริย์ให้ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งดินแดนฟ้าอุดร
เนื่องจากชิงสุ่ยและอวี้ซีหยวน ตระกูลอวี้จึงมีสถานะสูงขึ้น ผู้คนมากมายพยายามจะเข้าหาชิงสุ่ยแต่ก็ถูกปฏิเสธ คนเหล่านั้นจึงพยายามเข้าหาผ่านทางตระกูลอวี้แทน ทุกคนสามารถบอกได้ว่าอวี้ซีหยวนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ผิดปกติครับชิงสุ่ย
“แม่จะมีเกียรติเมื่อลูกชายของเธอมีตำแหน่งที่สูงขึ้น”ในขณะนี้ อวี้ติงเหอและภรรยาของเขาก็เป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมาย ชายชราตระกูลอวี้ยิ้มอย่างมีความสุขระหว่างดื่มสุราในภัตตาคาร
ตกกลางคืน ทุกคนรับประทานอาหารร่วมกัน ชิงสุ่ยช่วยรักษาอาการเจ็บปวดที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวชายชราตระกูลอวี้ เมื่อชายชราพบว่าตัวของเขานั้นได้รับการรักษาแล้ว เขาแทบจะไม่อยากเชื่อ ตอนแรกเขามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ตอนนี้เขามีอายุยืนยาวได้ถึง 50ปี อวัยวะภายในของเขาได้รับการรักษาฟื้นฟู อาการบาดเจ็บที่เคยแฝงอยู่ในร่างกายหายเกือบเป็นปลิดทิ้ง เขารับรู้ถึงพลังที่แสนจะคุ้นเคย
นึกในใจของชายชราเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นถึงพลังและความสามารถในการรักษาของชิงสุ่ย คำถามก็เกิดขึ้นในใจของเขา “ทำไม? ทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงเริ่มต้นที่นี่?”
“ชิงสุ่ย ข้ารู้ดีว่าท่านจะต้องสยายปีกบินออกไปไม่ช้าก็เร็ว กลุ่มตระกูลอวี้ของเราไม่มีสิ่งใดที่จะสำคัญมากพอดึงดูดความสนใจของท่าน แต่ท่านก็ยังทำหลายต่อหลายอย่างให้กับพวกเรามากมาย ข้าคงไม่อาจทดแทนบุญคุณของท่านได้” ชายชราตระกูลอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเมามาย
“ผู้อาวุโส ไม่ต้องคิดมาก บางทีในอนาคต ข้าอาจจะมอบโอกาสให้ตระกูลอวี้ได้ขยับขยาย แต่จะไปไกลได้มากเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับตัวของพวกท่านเอง” “ข้ารู้ ข้าก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งเจ้าพวกเด็กไร้ความสามารถเหล่านี้จะหยัดยืนได้ด้วยตัวเอง ฮ่าฮ่า วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ”
…………………..
ในวันรุ่งขึ้น พิธีเปิดกิจการหอคอยจักรพรรดิถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หอคอยจักรพรรดิ์สร้างขึ้นติดกับภัตตาคาร อาคารทั้งสองหลังแยกจากกัน ในวันเปิดวิธี ชิงสุ่ยไม่มีทางเลือกนอกจากเฝ้าการค้าของตัวเองด้วยตัวเอง เพราะอวี้ซีหยวนก็ต้องดูแลลูกค้าของตน
ตระกูลอวี้ไม่ใช่ตระกูลเดียวที่มาช่วยงาน สิ่งที่ทำให้ผู้คนตกใจมากที่สุดคือคนตระกูลหลิวก็มาช่วยงานเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้เห็นพลังของชิงสุ่ย ก็คงไม่มีใครกล้าคิดร้าย ดังนั้นการช่วยเหลือด้านการค้าก็เป็นการเริ่มอย่างสันติ แล้วมันก็ดี เพราะเขาไม่จำเป็นต้องตามหาคนมาช่วยงานอีก