Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2055 – แล้วตอนที่ข้าจับมือท่าน ท่านรู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 2055 – แล้วตอนที่ข้าจับมือท่าน ท่านรู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ
บทที่ 2055 – แล้วตอนที่ข้าจับมือท่าน ท่านรู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ
“ตัดเรื่องไร้สาระนั้นไปซะ นี่มันฤดูหนาว ไม่ใช่เดือนมิถุนายน!!”เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยตาเขม็ง
“ก่อนหน้าข้า มีชายใดได้จับมือทางบ้าง?”ชิงสุ่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ท่านอยากจะโดนตีใช่หรือไม่? ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น มันเป็นเพราะข้าสงสารท่านและคำนึงว่าท่านคือผู้ที่ช่วยชีวิตข้า ดังนั้นข้าจึงตอบแทนท่านด้วยวิธีนี้”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
ด้วยคำตอบของเธอมาทำให้เขารู้โดยธรรมชาติว่าเขาคือคนที่ได้ใกล้ชิดกับเธอคนแรก เขาจึงพยายามจะแกล้งเธอ
“พี่ชาย ท่านสนใจซื้อช่อดอกไม้ให้ภรรยาท่านหรือไม่? เธอช่างงดงามเหลือเกิน”
ชิงสุ่ยหันไปมองเด็กสาวที่ถือตะกร้า
บทที่ 2055 – แล้วตอนที่ข้าจับมือท่าน ท่านรู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ
“ตัดเรื่องไร้สาระนั้นไปซะ นี่มันฤดูหนาว ไม่ใช่เดือนมิถุนายน!!”เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยตาเขม็ง
“ก่อนหน้าข้า มีชายใดได้จับมือทางบ้าง?”ชิงสุ่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ท่านอยากจะโดนตีใช่หรือไม่? ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น มันเป็นเพราะข้าสงสารท่านและคำนึงว่าท่านคือผู้ที่ช่วยชีวิตข้า ดังนั้นข้าจึงตอบแทนท่านด้วยวิธีนี้”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
ด้วยคำตอบของเธอมาทำให้เขารู้โดยธรรมชาติว่าเขาคือคนที่ได้ใกล้ชิดกับเธอคนแรก เขาจึงพยายามจะแกล้งเธอ
“พี่ชาย ท่านสนใจซื้อช่อดอกไม้ให้ภรรยาท่านหรือไม่? เธอช่างงดงามเหลือเกิน”
ชิงสุ่ยหันไปมองเด็กสาวที่ถือตะกร้าดอกไม้ บนถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยเด็กเช่นเธอมากมาย เหล่าเด็กน้อยยากจนพยายามขายดอกไม้เลี้ยงชีพตน
“ภรรยาของข้างดงามถึงเพียงนั้นเลยเหรอ?”ชิงสุ่ยย่อตัวลงไปคุยกับเด็กสาวตัวน้อย เธอมีอายุประมาณ 6-7 ปีเท่านั้น ใบหน้าของเธอช่างน่ารักน่าชัง ผิวพรรณของเธอมีสีชมพูถักผมเปียยิ่งช่วยให้ดูน่ารัก ในสายตาของเขา เด็กน้อยคนนี้เหมือนเทพธิดาตัวน้อย
“ใช่แล้วล่ะ พี่สาวคนนี้สวยมาก เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่หนูเคยพบเจอมาเลย”เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวอย่างมีความสุข
ชิงสุ่ยลูบหัวเด็กน้อยและซื้อดอกไม้ทั้งตะกร้าจากเธอ เงินที่ใช้จ่ายไปแทบไม่ได้มีค่าอะไรเลยสำหรับชิงสุ่ย แต่สำหรับเด็กหญิงตัวเล็กๆ มันเพียงพอจะทำให้เธอได้กลับบ้านและใช้จ่ายวันปีใหม่ร่วมกับครอบครัว ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอจำเป็นต้องใช้เงิน เธอก็คงไม่ออกมาเร่ขายดอกไม้ในเวลาแบบนี้
“ทำไมท่านไม่ให้เงินเธอเพิ่มล่ะ ข้าบอกได้เลยว่าท่านเขาต้องการช่วยเหลือเธอ ดูเหมือนว่าท่านเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน!!”เฉินหวงยิ้มขณะกล่าว
“เธอเป็นเพียงแค่เด็กน้อย ข้าก็ไม่อยากเปลี่ยนวิถีชีวิตของเธอ นอกจากนี้การให้เงินเธอมากเกินไป รั้งแต่จะสร้างปัญหาให้กับเธอ เธออาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ คนดีมีมากพอๆกับคนเลว ถ้าหากเธอถูกปล้น การที่เธอถูกขโมยเงินถือเป็นโชคดีสำหรับเธอ แต่ถ้าหากเกิดเรื่องเลวร้ายเธอก็อาจจะตาย”ชิงสุ่ยส่ายหน้าแล้วหันกลับมาพร้อมมอบดอกไม้ให้กับเฉินหวง “ดอกไม้นี้สำหรับท่าน”
“ทำไมข้าต้องรับดอกไม้จากท่านด้วย”เฉินหวงตะขิดตะขวงใจ แต่เธอก็มีความสุข ชายคนนี้ทั้งใจกว้างและฉลาด เธอค่อนข้างชอบภาพรักตอนที่เขานั่งลงคุยกับเด็กตัวน้อย มันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้แต่ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาปฏิบัติกับเด็กน้อยประหนึ่งลูกสาวของตนเอง
“ท่านเองก็รู้อยู่แล้ว ก็เด็กสาวตัวน้อยบอกข้าให้มอบให้กับท่าน”
“ดอกไม้หลากหลายสีสัน พวกมันจะบานสะพรั่งได้อีกไม่นานแล้วก็ร่วงโรย “เฉินหวงรับดอกไม้มาจากชิงสุ่ย และเริ่มจ้องมองพวกมัน
“แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งมันก็เคยมีสีสันและสดใส ไม่มีอะไรบนโลกนี้คงอยู่ไปตลอดกาล”
“ตอนนี้เป็นวันปีใหม่ เราอย่าพูดเรื่องนั้นเลย อย่างน้อยเราต้องทำให้วันนี้เป็นวันที่มีความสุข”เฉินหวงกล่าว
” แน่นอน ข้าเองก็อยู่อย่างโดดเดี่ยว ข้าจึงรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้เห็นท่านอยู่กับข้าในวันนี้ ยังไง เราก็เป็นเพื่อนกัน ผู้คนมากมายยิ่งกว่าหยดน้ำทะเล มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะได้มาเจอกันเพราะโชคชะตา ดังนั้นข้าต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกับท่านให้คุ้มค่าที่สุด”ชิงสุ่ยจับมือเธอ
“ท่านเป็นคนช่างพูดจริงๆ”ในขณะที่เฉินหวงกำลังพูด รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นและอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถนนทุกสายจึงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา บางคนก็กำลังแสดงการละเล่นโลดโผน บางคนก็ร้องเพลง บางคนก็ขายขนมที่ทำขึ้นเอง ท่ามกลางฝูงชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ชิงสุ่ยก็รู้สึกสงบใจเป็นการชั่วคราว
“ข้ามีความสุขมากที่ท่านปฏิบัติต่อข้าดุจมิตรสหาย แม้ว่าข้าจะเคยคิดสกปรกกับท่านไปบ้าง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิด โปรดมั่นใจได้เลยว่า ข้าจะมีทางทำอะไรท่าน และไม่ว่าจะมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับท่าน ก็โปรดแบ่งปันมาให้ข้าช่วยเหลือ ไม่ว่าท่านจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหรือความเศร้า ชีวิตนี้ก็มีเพียงแค่ชีวิตเดียว ทำไมท่านไม่ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าอย่างมีความสุขละ?”ชิงสุ่ยกล่าว
“ข้าเข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร แต่ข้าต้องทำอะไรล่ะข้าถึงจะมีความสุข? ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าทำไมท่านถึงดูมีความสุขมากนัก?”เฉินหวงถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นี่คือคำถามที่ง่ายที่สุด มันเป็นเพราะว่าตอนนี้ข้าได้จับมือท่านอยู่ ข้าถึงได้มีความสุข”ชิงสุ่ยดึงมือของเธอขึ้นมา
“ทำไมท่านถึงมีความสุขเพียงเพราะจับมือข้า”เฉินหวงถามด้วยความสับสนเล็กน้อย
“มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์จะหลงใหลในความงาม นายหญิงใหญ่ ท่านเกิดมาพร้อมกับรูปร่างที่สง่างามและน่าดึงดูด ข้าที่ได้จับมือท่านจะไม่มีความสุขได้อย่างไร”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวถาม
“แต่ทำไมข้าถึงไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นในขณะที่จับมือท่าน”เฉินหวงยังทรงถามต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
ในขณะเดียวกันนั้นชิงสุ่ยความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เขาใช้มืออีกข้างถูจมูกและกล่าวว่า “ท่านเกลียดผู้ชายหรือไม่?”
“ข้าก็ไม่รู้ มีผู้ชายมากมายที่ข้าเกลียด อย่างไรก็ตาม บางคน ข้าก็รู้สึกเกลียดเพียงเล็กน้อย อย่างเช่นท่าน”
ชิงสุ่ยพูดไม่ออก เกลียดเพียงเล็กน้อยหมายถึงอะไร? ความหมายในคำพูดของเธอก็ยังคงมีความหมายว่าเธอเกลียดเขาอยู่ แต่มันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชายอื่น
“แล้วตอนที่ข้าจับมือท่าน ท่านรู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือ?”ชิงสุ่ยจ้องมองเฉินหวง
“ข้าก็ไม่รู้!!”เฉินหวงตอบอย่างตรงไปตรงมา
“หรือว่าท่านจะชอบผู้หญิง”
“เงียบไปเลย!!”เฉินหวงจ้องเขม็งชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยน่าจะหัวเราะแต่ก็ยังคงจับมือเธอเดินไปตามถนน ” ท่านเองก็เหมือนคนปกติ ปัญหาเดียวคือท่านดูเย็นชากว่าทุกคนอยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ข้าก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง ยังกลับไปตอนที่ข้าจับมือท่าน ดูเหมือนท่านเองก็จะรู้สึกประหม่า”
“แล้วท่านจะถามทำไม ทั้งที่ท่านรู้อยู่แล้ว”เฉินหวงหน้าแดง แต่เหมือนว่าเธอเองก็มีความสุขหลังจากที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว
“พวกเราไปซื้อของที่ใช้ในการฉลองปีใหม่คืนนี้กันดีกว่า”ชิงสุ่ยกล่าวขณะชายตามองข้างทาง
“ท่านอยากจะซื้ออะไรหรือ?”
“ประทัดและดอกไม้ไฟ นอกเหนือจากนี้ก็พวกอาหารที่ใช้กิน”
หลังจากนั้นชิงสุ่ยและเฉินหวงก็แวะไปตามร้านค้าต่างๆเพื่อซื้อของและกลับไปที่บ้านในเวลา บ่าย เมื่อเขากลับไปยังหอคอยจักรพรรดิ ผู้ป่วยคนสุดท้ายก็ได้จากไป หอคอยจักรพรรดิจึงได้ปิดทำการลงในที่สุด อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยฉุกเฉินต้องการเข้ารักษา เพียงแค่ภูเขาเคาะประตูหอคอยจักรพรรดิก็จะพร้อมเปิดต้อนรับ
เสือใหญ่และแม่ของเขาก็อาศัยอยู่ในหอคอยจักรพรรดิพร้อมกับคนรับใช้บางส่วน นอกจากนี้ในภัตตาคารก็ยังมีคนรับใช้ที่คอยดูแลอยู่อีกจำนวนนึง
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัวท้องฟ้ามืดก็มืดมน ผู้คนเริ่มจุดดอกไม้ไฟ พรุไฟส่องสกาวไปทั่วท้องฟ้า เปลี่ยนท้องฟ้ามืดมิดให้ส่องสว่างแสงสีสันสดใส
“นายหญิงใหญ่ พวกเรามาเตรียมอาหารมื้อค่ำคืนวันส่งท้ายปีเก่าด้วยกันเถิด”ชิงสุ่ยยิ้มและจับมือของเธออย่างเป็นธรรมชาติ
“ดูเหมือนว่าท่านจะคุ้นชินกับการจับมือข้าเสียแล้ว”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“วันนี้คือวันสุดท้ายก่อนสิ้นปี ข้าอยากจะจับมือท่านก้าวข้ามปีไปพร้อมกับท่าน “ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
ชิงสุ่ยซื้อทั้งผักและเนื้อสัตว์ รวมทั้งเอาอาหารทะเลและสุราออกมาจากดินแดนต่างมิติ ครั้งนี้เขาเตรียมอาหารช้ามาก จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อกิน แต่เพื่อเพลิดเพลินกับการทำอาหาร นอกจากนี้เขายังได้มีแผนจะทำให้หญิงสาวโฉมงามที่ทำอาหารไม่เป็นได้รับมือกับวิธีทำอาหาร
“ชิงสุ่ย ข้าทำอาหารไม่เป็น”
“ให้ข้าสอนท่าน” “ได้เลย!!”
ชิงสุ่ยสอนทั้งวิธีเด็ดผัก วิธีหั่นผัก นอกจากนั้นยังบอกละเอียดถึงขั้นว่าเธอควรจะตัดแบ่งออกเป็นขนาดชิ้นอย่างไร หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำอาหาร
ชิงสุ่ยชิ้นงานทั้งหมดให้เธอเป็นผู้ทำโดยที่มีเขาเป็นผู้ช่วยอยู่นั้นคาน แม้ว่าความตั้งใจของเขาจะเป็นเช่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าเธอก็ยังคงพึ่งพาชิงสุ่ยแทบจะทั้งหมด
เนื่องจากอาหารต้องได้รับการปรุง ชิงสุ่ยจึงค่อยๆมอบเครื่องปรุงให้เธอธีรยา อย่างไรซะกระบวนการปรุงอาหารก็มีความซับซ้อน เขาจึงค่อยๆสอนเธอทีละขั้นตอน ในที่สุดเฉินหวงก็เริ่มทำเป็น