Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 100 มันเป็นไปได้เหรอ...
ปืนถูกยิงออกมาอย่างกะทันหัน แรงระเบิดของกระสุนปืนทำให้มันเคลื่อนตัวผ่านช่องว่างตรงที่มีปืนตะปูอยู่พอดี มีหยดเหงื่อไหลตกลงมาจากหน้าผากของชูฮันด้วยเพราะเขาใช้สมาธิทั้งหมดเพ่งไปกับการยิง ลูกปูนทะลุผ่านเข้าไปในช่องว่างของแผ่นเหล็กได้อย่างสำเร็จ
‘พัฟ!’ มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่างแตกดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงครางของผู้ชายที่เหมือนพยายามจะกั้นเสียงไว้ ปืนตะปูหยุดยิงแล้ว มีแต่เพียงเสียงลมหายใจหนักๆของผู้ชายดังแทรกขึ้นมาทำลายความเงียบ
ชูฮันไม่รีรอ ยิงปืนออกไปอีกครั้งทันที!
เขาไม่มีเวลาพัก กระโจนตัวไปข้างหน้าหลังจากมั่นใจแล้วว่านัดที่ยิงไปเมื่อสักครู่ถูกเป้าหมาย ยกแผ่นเหล็กขึ้นและเอาไปวางตรงระหว่างกำแพงกับกองซากปรักหักพัง จนเกิดเป็นที่กำบังรูปสามเหลี่ยมเพื่อปกป้องเลาเสี่ยวเสียวที่นอนอยู่ตรงพื้น
หลังจากนั้น ชูฮันก็วิ่งไปข้างหน้าทันทีด้วยความรวดเร็ว หากไม่ได้วิ่งเป็นแนวตรง แต่เป็นการวิ่งแบบสลับฟันปลา
‘ตัก ตัก ตัก!’
ปืนตะปูยิงออกมาด้วยความเร็วสูงอีกครั้ง ชายคนนั้นกลัวและตื่นตระหนกที่ชูฮันกำลังเข้ามาใกล้ตัวเขาเข้ามาเรื่อยๆ ทว่าปืนตะปูไม่สามารถยิงโดนชูฮันได้
ชูฮันก้าวขึ้นมาบนกองซากขยะและกระโจนตัวขึ้น มันมีความเย็นยะเยือกฉายชัดในตาเขาท่ามกลางความมืดมิด
ปัง! เคล้ง!
แผ่นเหล็กที่ขวางกั้นอยู่ถูกเตะโดยขาที่ทรงพลังของชูฮันจนเกิดเสียงปะทะดังสนั่น
ชายที่หลบอยู่ข้างหลังแผ่นเหล็กไม่สนใจขาข้างขวาของชูฮันที่เห็น ไม่เลือกที่จะยิงปืนตะปูใส่ หากเลือกที่จะวิ่งหนีแทน เขาไม่มีเวลาจะมองชูฮันด้วยซ้ำ ความหวาดวิตกได้ควบคุมจิตใจเขาไปหมดแล้ว…ชายหนุ่มคนนี้สามารถเตะแผ่นเหล็กจำนวนมากพลิกคว่ำได้ยังไง ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?!
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ พยายามระงับอาการช็อคของตัวเองไว้—–
‘ปัง!’
จู่ๆก็มีปืนถูกยิงออกมา
ผู้ชายคนนั้นล้มลงไปกองที่พื้นพร้อมกับมีเลือดไหลทะลักออกมา ไม่นานหลังจากนั้น ร่างของเขาก็นอนอยู่บนกองเลือด
การกระทำของชูฮันหยุดลงทันที เขาละอาวุธในมือลงและเดินเข้าไปศพที่นอนอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเย็นชา มองตรงไปที่หน้าของชายคนนั้น เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าแปลกๆ โหนกแก้มของเขาอยู่สูงมากจนเหมือนจะเป็นใบหน้าผิดรูป
“เสี่ยวเสียว?!” น้ำเสียงวิตกของซางจิ่วตี้ดังขึ้นมา เธอพยายามอย่างหนักเพื่อขยับแผ่นเหล็กที่หนักอึ้งออกและพุ่งเข้าไปกอดเลาเสี่ยวเสียวที่นอนอยู่บนพื้น
“เด็กน้อย เป็นอะไรมั้ย?!” เฉินช่าวเย่รีบวิ่งเข้ามาและพูดว่า “เธอบาดเจ็บรึเปล่า?”
“ขา ขาฉัน ฮือออออออออออออออ!” เลาเสี่ยวเสียวร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น เธอเสียใจมาก ที่เธอต้องการก็แค่ตรวจสอบประตูเท่านั้นเอง
“พันไว้ก่อน” ชูฮันสั่งเฉินช่าวเย่ จากนั้นก็เดินไปตรวจดูร่างของชายวัยกลางคนคนนั้น เขาก้มหน้าลงพื้นเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้เห็นสีหน้าของเขา
เฉินช่าวเย่หยิบพวกอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นออกมาพลางมองรอบๆอย่างกังวล “มันมืดมากและแสงจากไฟฉายมันไม่มากพอ”
“ไปตรงนั้น” ชูฮันชี้ไปตรงประตูมืด
ทุกคนอยู่ในอาการนิ่งงัน ด้วยเพราะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่หลังประตูหรือเปล่า และการไม่รู้หมายความว่าอันตราย
“ผู้ชายคนนั้นออกมาจากตรงนั่น มันน่าจะเป็นที่อยู่ของเขา และมันก็น่าจะมีแหล่งพลังงานไฟฟ้าอยู่บ้าง อีกอย่างที่นี่มันอันตราย ศพนี่จะล่อซอมบี้มา” ชูฮันวิเคราะห์ออกมาอย่างใจเย็น
“ไปกันเถอะ!” ซางจิ่วตี้อุ้มเลาเสี่ยวเสียวขึ้นมาและรีบวิ่งไปที่ประตูนั่นทันที ตัวตนของเลาเสี่ยวเสียวนั่นพิเศษมาก ดังนั้นเธอต้องมั่นใจว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กสาว
ชูฮันเดินนำหน้าทุกคนพลางจับขวานในมือไว้แน่น เฉินช่าวเย่ถือไฟฉายไว้และเดินตามมา
ด้านหลังของประตู….
มันเป็นห้องเละเทะที่เต็มไปด้วยกลิ่นเนื้อเน่าฉุน พวกเขาพบว่ามันมีประตูเล็กๆหลบอยู่ในมุมห้อง ทั้งห้องเงียบสนิทและชูฮันก็เตะไปที่ประตูนั่นทันทีอย่างรวดเร็ว
พั้ว!
แสงไฟที่สว่างวาบขึ้นทำให้ทุกคนผงะ หากก็ผ่อนคลายลงอย่างไว ห้องนั่งเล่นธรรมดาปรากฏต่อหน้าพวกเขา มันมีเตียงนอน เตาสำหรับทำอาหาร และห้องน้ำ ชายวัยกลางคนที่ตายไปแล้วคนนั้นน่าจะใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟ
“ไหนดูหน่อยสิ” เฉินช่าวเย่หยิบชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นออกมา ท่าทางของเขาดูกังวลมาก “แผลเธออยู่ตรงไหน?”
ซางจิ่วตี้รีบวางเลาเสี่ยวเสียวลงบนเตียงและรีบตรวจสอบร่างกายทันที
“อ๊า!” ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องสั่นๆของซางจิ่วตี้ดังขึ้น “แผลลึกมาก!”
เลาเสี่ยวเสียวนอนอยู่บนเตียง เหงื่อโชกพร้อมกับนอนน้ำตาไหลพรากอยู่บนเตียง ริมฝีปากของเธอซีดราวกับกระดาษ บาดแผลอยู่ตรงข้อเท้าของเธอและตะปูนั่นก็เจาะทะลุเข้าไปลึก ซึ่งมันอาจจะทะลุไปโดนกระดูกได้
“ยังไง? เราควรยังไงดี?” เฉินช่าวเย่กังวลจนเหงื่อโชกท่วมตัว!
“เอามันออก” ใบหน้าสงบนิ่งของป่ายหวีเนอไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา “เธออายุแค่ 12 แผลของเธอจะสมานอย่างไว”
“มันอยู่ในข้อเท้าของเธอนะ!” ซางจิ่วตี้ตะคอกใส่ป่ายหวีเนอ “เธอต้องผ่าตัด! มันต้องปิดผนึกบาดแผลไว้และไปรักษาในโรงพยาบาล ถ้าอยู่ดีๆเอามันออกมา มันจะอันตรายมากแน่ๆ!”
“หัวหน้า? เราควรทำยังไงดี?” เฉินช่าวเย่ถามชูฮันที่กำลังยืนจ้องห้องน้ำอยู่
ชูฮันกำลังคิดอยู่…ถ้ามันมีน้ำร้อน อย่างนี้พวกเขาก็จะได้อาบน้ำร้อนกัน
ทว่า…เขาก็เดินไปหาเลาเสี่ยวเสียวทันทีที่ได้ยินเฉินช่าวเย่หันมาถามเขา มันมีน้ำตานองเต็มหน้าของเด็กน้อย จมูกของเธอเป็นสีแดง ตะปูนั้นปักลึกลงไปทำให้เท้าเล็กๆของเธอบวมเป่ง
ต้องเอาตะปูออกมาไม่งั้นเธอจะติดเชื้อได้
“เชื่อใจฉันมั้ย?” ชูฮันมองตาเลาเสี่ยวเสียว
“ค่ะ!” เด็กสาวพยักหน้าแรงๆ ความจงรักภักดี90%ทำให้เธอเชื่อใจชูฮันอย่างไม่มีเงื่อนไข
“โอเค ทนหน่อยนะ” ชูฮันมองไปที่ข้อเท้าของเลาเสี่ยวเสียว และวางเท้าลงกับฝ่ามือเขา สองนิ้วคีบตะปูไว้ ชูฮันเพ่งสมาธิไปที่ตะปูจากนั้นก็กระชากมันออกทันที
“อ๊ายยยยยยยยย!!” เลาเสี่ยวเสียวกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เลือดไหลทะลักออกมาจากข้อเท้าเธอไม่หยุด
“พันแผล” เสียงของชูฮันเรียบนิ่ง แต่สำหรับซางจิ่วตี้มันฟังเหมือนกับว่าเขาไม่แยแสอะไร
“ทำไม?” มีอารมณ์ที่บรรยายไม่ถูกอยู่ในแววตาของซางจิ่วตี้ “เธออาจจะพิการได้!”
“ไม่” ชูฮันมองเธอกลับ “ป่ายหวีเนอพูดถูก เลาเสี่ยวเสียวจะฟื้นตัวได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน”
“คุณจะมั่นใจได้อย่างไร?” ซางจิ่วตี้ไม่เชื่อป่ายหวีเนอและพูด “กระดูกเธอแตก!”
“ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้?” ป่ายหวีเนอพูดขึ้นมา “มันมีซอมบี้ปรากฏตัวขึ้น เธอคิดว่าพันธุกรรมของมนุษย์จะเหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อนเหรอ? เธอไม่รู้เหรอว่าทำไมชูฮันถึงแข็งแกร่งนัก?”
ซางจิ่วตี้ตกใจมาก มันใช้เวลาสักครู่เลยทีเดียวกว่าเธอจะเปล่งเสียงออกมาได้ “เธอหมายถึงอะไร?”
“พันธุกรรมของเรากำลังเปลี่ยนแปลง” ชูฮันไม่ได้พูดอะไรต่อ หากมองไปที่ป่ายหวีเนอ…ผู้หญิงคนนี้ลึกลับชะมัด
“ฉันจะไปหาน้ำมา” เฉินช่าวเย่ห้ามเลือดของเลาเสี่ยวเสียวได้ และรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
“เจ้าอ้วนเฉิน” ชูฮันหยุดเฉินช่าวเย่ได้และพูดขึ้น “เอาอาวุธของแกไปด้วย”