Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1031 ขอโทษ
”เป้าหมายอยู่ข้างหน้าห่างออกไป800 เมตรครับ!” เสี่ยวเคินเข้ามาประชิดพร้อมกระซิบรายงานชูฮัน
ชูฮันพยักหน้ารับขณะเคลื่อนไหวไปกับทีมกุ้งเสือดำอย่างเงียบๆโดยไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้นเลยอีกทั้งพุ่มไม่หญ้าสูงทั้งหลายก็ช่วยบดบังได้เป็นอย่างดี
ในตอนนั้นเองเสียงของเกาช้าวฮุ่ยก็ดังขึ้นพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นเทาด้วยความกังวลหนักเขารีบเข้ามาประชิดชูฮันเพื่อรายงาน “ชูฮัน สถานการณ์มันผิดแปลกไปหมด! ฝั่งนั้นมีผู้บัญชาการที่ทรงพลังมาก มันเดาได้ว่านายวางแผนที่จะกระจายทีมนักฆ่าขนนกและอีกสามทีมไปคนละทาง แถมยังเดาได้อีกว่านายจะต้องมีคนที่คอยสืบสถานการณ์ที่มีประสิทธิภาพสุดๆ และก็รู้ว่านายรับรู้ถึงการมาของพวกมันก่อนแล้ว และพวกมันก็คิดว่าฝ่ายของเราเสียคนไปเยอะพอสมควรในการต่อสู้กับลูกผสม”
ทันทีที่เกาช้าวฮุ่ยรายงานจบทีมกุ้งเสือดำก็เกิดความประหลาดใจกันหมด…หลังจากฆ่าอู๋หลิงฉิงไปพวกเขาก็ไม่คิดว่าจะมีคู่ต่อสู้ที่สูสีกับหัวหน้าชูฮันอีก
ชูฮันเองก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้เขารีบถามข้อมูลจากเกาช้าวฮุ่ยต่อ “พวกมันใช้มาตรการอะไรในการคำนวณ?”
”นั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุดฉันแอบลอบฟังพวกมันอยู่นานหากพวกมันไม่พูดอะไรเลย!” เกาช้าวฮุ่ยวิตกกังวลจนเหงื่อแตกพลั่ก “ฉันรู้สึกว่ามันเหมือนรู้ว่าฉันแอบสุ่มดูอยู่ตรงนั้น แต่นี้มันเป็นไปไม่ได้ ฉันรับประกันได้เลยว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต”
พอได้ยินแบบนั้นชูฮันก็นิ่วหน้าขณะที่เกาช้าวฮุ่ยอยากมุดตัวหนีเพราะถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นสมาชิกของตระกูลลึกลับ อีกฝ่ายก็คงจะตรวจจับการมีตัวตนของเขาได้ไปแล้ว
ทั้งๆที่ชูฮันส่งคนไปคอยสังเกตการณ์เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการวางแผนแต่พวกมันกลับไม่ยอมปล่อยเจตนาที่แท้จริงให้ชูฮันได้รู้
”ไอ้ผู้บัญชาการของพวกมันชื่อว่าอะไร?”ชูฮันถามอย่างเจาะจงเป็นพิเศษ
”เสี่ยวเซียว”เกาช้าวฮุ่ยตอบอย่างทันที
”!!!”
ชูฮันที่ได้ยินชื่อนี้ก็ตกใจจนตัวแข็งค้างไปเลย…
คือเขาเองนะเหรอ?
เสี่ยวเซียวเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในปีสุดท้ายของโลกาวินาศเขาเป็นพรสวรรค์ที่ทรงพลังอย่างที่สุด แถมความสามารถของเขานั้นเป็นความสามารถที่หายากเป็นพิเศษ
มันก็คือ…ความทรงจำ
หรือพูดอีกแบบก็คือ…เขาไม่เคยลืม!
เพียงแต่ว่าในด้านพละกำลังของเสี่ยวเซียวนั้นต่ำมากดังนั้นรอบตัวของเสี่ยวเซียวจึงจะมีพวกอันธพาลที่เก่งกาจอยู่ข้างกายเสมอ เสี่ยวเซียวเริ่มต้นความสามารถของตัวเองจากการเป็นหนอนหนังสือทันทีหลังจากเรียนรู้และทำความเข้าใจกับพรสวรรค์ของตัวเองแล้ว เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างมาก เขาเริ่มจากการอ่านและทำความเข้าใจหนังสือเกี่ยวกับทางทหารของต่างประเทศทั้งหมดที่ตัวเองมี
ในขณะเดียวกันความสามารถพิเศษที่หาได้ยากนี้ก็ทำให้เขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นในด้านการรบที่หลากหลาย บ่อยครั้งที่เขาเพียงมองเห็นสถานที่เพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถหาข้อสงสัยทั้งหลาบได้ภายในเวลาแสนสั้น
สิ่งที่ทำให้ชูฮันอิจฉาความสามารถของเสี่ยวเซียวไม่ใช่แค่เพราะความสามารถแต่เป็นความรอบคอบของอีกฝ่าย
อย่างที่เห็นว่าอีกฝ่ายจงใจพูดต่อหน้าเกาช้าวฮุ่ยว่าเขี้ยวหมาป่าน่าจะเหลือกำลังคนไม่มากชูฮันเกรงว่าอีกฝ่ายรับรู้ถึงการมีตัวตนของเกาช้าวฮุ่ยอยู่แล้วและแสร้งทำเป็นตาบอดเพื่อจะล่อชูฮันลงมาสู่เกม
ถ้าไม่ใช่เพราะชูฮันรู้จักเสี่ยวเซียวมานานและรับรู้ถึงนิสัยของอีกฝ่ายดีเขาคงจะถูกหลอกตามแผนเสี่ยวเซียวและประมาทกองกำลังห้าร้อยคนนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงไปแล้ว
ต้องบอกว่าครั้งนี้พวกเขาเจอตอเข้าจริงๆแล้ว!
ชูฮันกำลังครวญครางอยู่ในใจเขาไม่คิดเลยว่ากองกำลังต่างชาติเข้าร่วมในเทศกาลการต่อสู้ไม่รู้จบนี้ด้วย
เป็นคนของตระกูลไหนกัน?
รอธไชลด์?
ชูฮันส่ายหัวสะบัดความคิดสับสนวุ่นวายออกไปจากหัวตัวเองและพูดกับเกาช้าวฮุ่ย “คอยสังเกตการณ์ต่อไป”
”แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงดีครับ?”เสี่ยวเคินเรียกความสนใจของชูฮันกลับมา ตัวเสี่ยวเคินเองก็มีความกังวลอยู่เหมือนกัน สายตามองไปยังเส้นทางที่ไกลออกไป “เราเข้าใกล้เป้าหมายของเรามากขึ้นเรื่อยๆทุกขณะ ตอนนี้เราจะฆ่าหรือจะถอยดีล่ะครับ?” ”รอฟังจากเกาช้าวฮุ่ย”สายตาของชูฮันกำลังปิดบังบางอย่าง “คอยรักษาระยะห่างกับศัตรูเอาไว้”
”ครับ”เสี่ยวเคินไม่พูดอะไรอีกหากเริ่มทำการลดความเร็วของทีมลงทันที
หลังจากผ่านการลดความเร็วลงไปได้ห้านาทีร่างของเกาช้าวฮุ่ยก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับข่าวใหญ่ที่นำกลับมาด้วย
”กองกำลังข้างหน้าแบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มที่มีทีมยิงปืนและมีทีมจู่โจมบางส่วนร่วมด้วยทั้งหมดสามร้อยคน พวกมันทั้งหมดเป็นวิวัฒนาการระดับสูง พวกมันมุ่งหน้าไปยังทิศทางซ้ายของทีมนักฆ่าขนนก” เกาช้าวฮุ่ยอธิบาย “อีกด้านของทั้งสามทีมยังไม่มีใครผ่านไปทางนั้นเลย ส่วนเสี่ยวเซียวพาคนของมันที่เหลือสองร้อยคนไปยังจุดเดิมที่เป็นสนามรบเดิมของเรากับลูกผสมและก็ไม่ได้ไปไหนต่ออีก พวกมันดูเหมือนจะประจำการรออยู่ที่นั่น…”
เมื่อได้ยินกลยุทธ์แปลกๆของฝ่ายตรงข้ามชูฮันก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าทันที “เท่ากับว่าตอนนี้ทีมนักฆ่าขนนกกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่เป็นวิวัฒนาการระยะสูงสามร้อยคน ขณะที่อีกสามทีมอยู่อีกเส้นทางหนึ่งนั่น ส่วนกองกำลังอีกสองร้อยคนก็ไปประจำการที่ทางแยกซึ่งเป็นสนามรบเดิม”
พอได้ยินการวิเคราะห์ของชูฮันทุกคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม แผนเดิมของพวกเขาคือลอบสังหารอีกฝ่ายก่อน แต่กลับกันพวกเขากลับถูกอีกฝ่ายใช้แผนการกระจายกำลังของเขี้ยวหมาป่ามาย้อนศรพวกเขาแทน
”แม่งเอ๊ย!”เสี่ยวเคินกำหมัดแน่น
แววตาของชูฮันคร่ำเครียดมือกำแน่น สายตาจ้องไปข้างหน้าเขม็ง “พี่น้องทุกคน ครั้งนี้เราไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย ไม่มีกลยุทธ์ มีเพียงแค่การปะทะตรง!”
พรึบ!
แววตาของของทุกคนในกุ้งเสือดำมุ่งมั่นและแน่วแน่ต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ”เกาช้าวฮุ่ย”ชูฮันเรียก “เรียกทีมความลับของพระเจ้า หลงยา และฮูหยากลับมา ตอนนี้มันเปล่าประโยชน์ที่จะพูดอะไรแล้ว บอกให้พวกเขารีบตามไปช่วยทีมนักฆ่าขนนกโดยเร็วที่สุด”
”แล้วนายล่ะ?”เกาช้าวฮุ่ยตกใจไม่น้อย “ฝ่ายตรงข้ามมีคนสองร้อยคนที่มีฝีมือทั้งนั้น แล้วนายมีแค่ทีมกุ้งเสือดำแค่สิบกว่าคน!”
เกาช้าวฮุ่ยไม่มีเวลาที่จะพิจารณาปัญหาและหาทางออกเมื่อได้เห็นแววตาล้ำลึกของชูฮัน ทันทีที่ชูฮันหมุนตัวและจากไปเกาช้าวฮุ่ยก็พูดบางอย่างก่อนจะจากไปในเวลาเดียวกันพร้อมกับพูดบางอย่างที่ชูฮันซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 สามารถได้ยิน “มั่นใจได้ แม้ว่าครั้งนี้เราอาจจะแพ้ แต่ฉันจะช่วยให้นายรอด”
หัวใจของชูฮันแกว่งเล็กน้อยเขายิ้มขมขื่นให้กับตัวเอง แน่นอนเขารู้ดีว่าเกาช้าวฮุ่ยจะไม่มีทางปล่อยให้เขาตาย
อย่างไรก็ตามในสงครามครั้งนี้เขาไม่สามารถรับประกันความเป็นความตายให้กับทหารของเขาได้อีก การต่อสู้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า แถมศัตรูที่กำลังจะต้องเผชิญต่อไปนี้ยังเป็นกองกำลังมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงจำนวนห้าร้อยคน…แม้แต่ชูฮันก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอ่อนแอและสิ้นหวัง
เจอใครไม่เจอแต่ดันมาเจอเสี่ยวเซียว!
”เสี่ยวเคิน”ชูฮันเอ่ยเสียงนิ่ง หากสายตาเต็มไปด้วยความแค้น “พาคนของเราไป 20 คนไปล่อกลุ่มสองร้อยคนให้ออกไปจากเส้นทางนี้โดยเร็วที่สุด!”
ขอโทษแต่ในสงครามครั้งนี้มันจะต้องมีคนที่เสียสละ…