Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 12 สาวน้อย
มีรถจอดพังตามทางอยู่หลายคัน หนึ่งในนั้นช่างสะดุดตานัก มันเป็นรถซูเปอร์คาร์ราคาแพง หากแต่มีเลือดข้นสีดำปกคลุมเปื้อนรอบตัวรถ ทำให้มันดูเละเทะไปหมด
ต้นไม้สูงที่อยู่รอบๆบริเวณสั่นไหวไปมา เนื่องจากลมที่พัดมาทำให้ใบไม้ที่เหี่ยวแห้งร่วงโรยลงมากองอยู่จุดเดียวกัน มันเป็นชีวิตที่เหี่ยวเฉาในช่วง6ชั่วโมงของความมืดมิด มันเป็นช่วงฤดูร้อนหากอากาศกลับหนาวจัดแทน
ทุกอย่างเงียบสงบ ไร้วี่แววซอมบี้…
ชูฮันเงยหน้าขึ้น มองไปที่ตึกใกล้ๆเขา มันเป็นสถานีแวะพักซึ่งโดยปกติแล้วมันจะอยู่ติดกับโรงอาหาร อย่างไรก็ตาม ประตูโรงอาหารถูกปิดสนิทและมันมืดเกินกว่าจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนั้น
“แกเติมน้ำมันใส่รถไป ส่วนฉันจะเฝ้าระวังเอง” ชูฮันบอกกับเฉินช่าวเย่
“อา!” เฉินช่าวเย่หยิบหัวจ่ายน้ำมันขึ้นมากดไปที่หัวสองครั้ง “หัวหน้า มันไม่มีน้ำมัน”
หัวหน้า เป็นชื่อเล่นที่เขาตั้งให้ชูฮัน มันต้องมีหัวหน้าในกลุ่มผู้รอดชีวิต ถึงแม้ในกลุ่มจะมีกันอยู่เพียงสองคนก็ตาม
น้ำมันหมดแล้วหรือ? ชูันมองไปที่หัวจ่ายน้ำมันพลันรู้สึกสบสนว่าอาจมีมนุษย์คนอื่นอยู่ในจุดแวะพักนี้เช่นกัน
“ทุบถังน้ำมันและดูดน้ำมันออกมาด้วยถุงกระเป๋าเป้สะพายหลังสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง” ชูอันพูดเสร็จพลางเริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นมา ภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยอุปกรณ์ของท่อดูดอยู่อย่างครบครัน ซึ่งมันเหมาะสำหรับนักปีนเขา แต่ตอนนี้การใช้งานของมันนั้นได้ถูกประยุกต์ให้ใช้งานได้อย่างกว้างขวางในโลกาวินาศไปแล้ว
เฉินช่าวเย่เจอกระเป๋าอยู่ที่เบาะหลังและมันมีกระเป๋าอยู่อีกเป็นสิบๆใบ เขาสับถังน้ำมันด้วยขวาน และดูดน้ำมันขึ้นมาด้วยกระเป๋าเป้ จากนั้นก็จะนำน้ำมันที่ได้ไปใส่ในถังน้ำมันของ G55
เมื่อเฉินช่าวเย่สามารถเติมน้ำมันใส่รถได้ ทันใดนั้นก็มีซอมบี้คลานออกมาจากหัวมุมอย่างช้าๆ ใบหน้าของมันบุบไปครึ่งหนึ่งพร้อมกับขาที่หัก มันคลานมาด้วยมือสองข้าง เผยให้เห็นถึงผิวหนังสีเทาที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกต่างๆ เสียงคำรามอันน่ากลัวดังออกมาจากลำคอของมัน
เฉินช่าวเย่รู้สึกกลัวอย่างมาก ตัวเขาสั่นเทาจนทำให้น้ำมันหกลงไปใส่กระเป๋า
“เร็ว!” ชูฮันกล่าวเสียงเข้ม
“อีกแปป” เฉินช่าวเย่รีบเติมน้ำมันอย่างรวดเร็ว
ชูฮันไม่ได้หนีไปไหน หากเขากลับยืนรอให้ซอมบี้คลานเข้ามาใกล้เขาเอง
ซอมบี้ตัวนั้นคำรามอย่างรุนแรง จนไขมันที่เน่าเปื่อยและเส้นเลือดดำภายในเนื้อเกิดฉีกขาด
กระดูกข้อศอกโผล่ออกมาทำให้เกิดเสียงดังขูดไปกับพื้นขณะมันคลานมา มันพยายามที่จะคลานมาหาชูฮันด้วยความหิวโหยอย่างมาก
มันเข้ามาใกล้ชูฮันมากจนเขาสามารถได้กลิ่นขยะแขยงลอยมาในอากาศ
ชูฮันจับขวานในมืออย่างแน่น เขาวาดขวานออกไปตีเข้าที่หัวของซอมบี้อย่างรุนแรง มันตายคาที่ทันที
หนองจากหัวของมันทะลักออกมากระเด็นไปโดนที่ขากางเกงของชูฮัน เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆและยังคงกดดันเฉินช่าวเย่ต่อไป เฉินช่าวเย่เกือบจะอ้วกออกมาตรงนั้นเมื่อเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาไม่แม้จะถามชูฮันว่าทำไมถึงเลือกต่อสู้กับซอมบี้เมื่อมันเข้ามาใกล้ตัวแล้วเท่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งเดียวที่ชูฮันจะตอบเขาก็คือ เร็วๆ…
———-
บนชั้นสองของสถานีแวะพัก ชายคนหนึ่งชื่อว่า เหย่เทียนหลง กำลังซ่อนตัวอยู่หลังผ้าม่าน ด้วยผิวสีเข้มและกล้ามเนื้อที่ขึ้นรูปชัดเจนทำให้เขาเป็นชายร่างกายสูงใหญ่และท่าทางแข็งแรง
ขณะนั้น เขาได้ถือวิทยุสื่อสารไว้ในมือข้างซ้ายและขวานดับเพลิงอยู่ในมือข้างขวา พลางมองไปที่ชูฮันและเฉินช่าวเย่จากระยะไกล
ซืออออ —- (เสียงวิทยุ)
มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร
“หัวหน้า?”
“อยู่ที่นั่นแหละ” เหย่เทียนหลงหันหลังกลับกวาดสายตามองไปที่กลุ่มคน ที่รวมถึงเด็กและคนแก่ ผู้ชายและผู้หญิงอยู่
“มีผู้รอดชีวิตสองคน” เหย่เทียนหลงดูเหมือนจะขอความเห็นชอบจากพวกเขา
“พาพวกเขาเข้ามา!” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา ชื่อของเธอคือ ลูว่าน เธอเป็นคนสวย สวยกว่าดาราเสียอีก มีความกังวลเล็กน้อยปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอ
เหย่เทียนหลงพยักหน้ารับพลางยิ้ม “แน่นอน”
———–
กระเป๋าเป้ที่มีท่อดูดกำลังเติมน้ำมันใส่รถอยู่อย่างช้าๆ ขณะที่เฉินช่าวเย่กำลังเติมน้ำมันอยู่นั่น ชูฮันได้ฆ่าซอมบี้ไปแล้ว5ตัว โดยไม่ทราบเลยว่าพวกมันมาจากไหนกันแน่
ในตอนนี้เขามีทั้งหมด 108 คะแนน หากความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขากลับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เขารู้สึกไม่ต่างจากเดิมเลยสักนิด
ต้ะต้ะต้ะ!
ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาได้ทำลายความคิดของชูฮันลง เขารีบยกขวานขึ้นทันที ตาของเขามองจ้องไปทางที่มาของเสียงราวกับเหยี่ยว
หากพริบตาต่อมา ชูฮันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะมีเด็กสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ซึ่งเด็กคนนี้ดูน่าจะอยู่ราว 12 ขวบเท่านั้น เธออยู่ในชุดกระโปรงฟู่ฟองน่ารัก หัวของเธอกลมคล้ายกับลูกบอล ใบหน้าของเธอสะอาดเกลี้ยงเกลาด้วยผิวขาวนุ่มละเอียด เสียงที่เกิดขึ้นดังมาจากรองเท้าหนังเล็กๆของเธอนั่นเอง
“พี่ชายคนโต และพี่ชายคนอ้วน พวกพี่มาจากทีไหน? สาวน้อยลืมตาละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ของเธอขึ้นพลางถาม
การได้ยินคำว่า ‘พี่ชายคนอ้วน’ ทำใบหน้าที่แข็งกระด้างของชูฮันลดลงเล็กน้อย เขาเหลือบไปมองใบหน้าที่แสดงความตกใจของเฉินช่าวเย่ จากนั้นก็เบนสายตาไปสังเกตที่สาวน้อยคนนั้นอย่างเงียบๆ
สำหรับเด็กสาวอายุ 12 ปี เธอมีความอดทนดีมาก สามารถพูดได้ว่าสาวน้อยคนนี้ดูจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากโลกาวินาศเลย ทำไมเธอถึงสามารถวิ่งออกมาท่ามกลางสถานการณ์ที่มีซอมบี้มากมายอยู่เช่นนี้ได้? เธอเป็นบ้าหรือเหม่อลอยอยู่หรือไงกัน?
“เธอไม่กลัวซอมบี้หรือ?” ชูฮันชี้ไปที่ซอมบี้ที่นอนตายอยู่บนพื้น
“ไม่!” เด็กหญิงตัวเล็กๆ ส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา เธอชี้ไปที่ห้องน้ำที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆใกล้ๆนี้ “มีพี่ชายคนโตที่คอยดูแลฉันอยู่ตลอด เขาจะปกป้องฉันทันทีเมื่อมีอันตรายเข้ามา”
ชูฮันหันไปและเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ชายคนนั้นได้กวาดสายตาตรวจสอบชูฮัน จากนั้นเขาก็ล่าถอยกลับไป ดูเหมือนเขาจะเป็นคนคอยคุ้มครองเด็กสาวนี่
พลันเด็กสาวก็เงยหน้าขึ้นมา “นอกจากนี้ พี่ชายหลงยังบอกอีกว่าซอมบี้เป็นพวกเชื่องช้า พวกมันไม่สามารถจับฉันได้ทัน อีกอย่าง ฉันเห็นว่าคุณทรงพลังมาก คุณสามารถฆ่าซอมบี้ได้หลายตัว ฉันเลยไม่กลัวซอมบี้!”
ขณะเด็กสาวกำลังพูดคุยอย่างไร้เดียงสาอยู่นั้น ทันใดนั้นเอง ชายที่ดูแข็งแกร่งและร่างกายสูงใหญ่ก็วิ่งพุ่งออกมาอุ้มเด็กสาวขึ้นมาทันที เขาตีไปที่ก้นของสาวน้อยด้วยความโกรธอย่างมาก เขายกมือขึ้นสูงแต่แรงของมันกลับไม่ได้มากอะไร
“พี่บอกแล้วไงว่าห้ามวิ่งไปทั่ว แล้วถ้าเธอถูกซอมบี้กัดขึ้นมาล่ะ?” คนที่พูดอย่างบ้าคลั่ง
“ฮืออ!” เด็กสาวร้องไห้ออกมาหากเธอก็หยุดอย่างอย่างรวดเร็ว เธอทำเพียงครางใส่ร่างของชายผู้นั้น เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าเสียงของเธอจะดึงดูดซอมบี้มา
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ชูฮันและเฉินช่าวเย่ต้องมองมา
เฉินช่าวเย่พูด “คุณไม่ควรตีผู้หญิงแบบนี้ เธอยังเด็กอยู่!”
“ฉันแค่เป็นห่วง!” ชายร่างกายสูงใหญ่ดูแข็งแรงเกาศีรษะของเขาด้วยความละอาย “ดีใจที่ได้พบคุณ ชื่อของฉันคือเหย่เทียนหลง พวกคุณมาจากไหนกัน? โลกเป็นยังไงบ้าง? มีผู้รอดชีวิตบ้างมั้ย?”
มีคำถามที่ดูจริงจังหลายข้อ มองไปที่ดวงตาที่ดูจริงใจของเหย่เทียนหลง เฉินช่าวเย่รู้สึกประทับใจกับเหย่เทียนหลงและตอบไปว่า “เรามาจากเมืองหมิงชิว มีผู้รอดชีวิตหลายคนแต่เราหนีมาได้ มันมีซอมบี้อยู่ทั่วทุกที่! เออ ใช่ ฉันชื่อเฉินช่าวเย่นะ และนี้หัวหน้าของฉัน ชูฮัน”
เหย่เทียนหลงพยักหน้ารับพลางมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง เขาเชื้อเชิญแขกด้วยความเต็มใจ “เข้ามาข้างในสิ ข้างนอกมันอันตราย”
“เยี่ยมเลย!” เฉินช่าวเย่พยักหน้าพลางตอบรับและเดินตามเหย่เทียนหลงไป
ชูฮันเดินตามมาพร้อมกับรอยยิ้มรางๆที่แทบมองไม่เห็น ขวานยังอยู่ในมือของเขาเหมือนเดิม
เด็กหญิงตัวเล็กในอ้อมกอดของเหย่เทียนหลงนอนแนบตัวลงบนไหล่ของเขา ตาของเธอมองมาที่ชูฮันที่กำลังเดินตามหลังมา สาวน้อยหมุนหน้ากลับมาและมันมีความรังเกียจปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ