Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 27 จัดการตัวเองได้ดี
กู๋เสี่ยวตงไม่ได้ยินเสียงเตือนของใครทั้งนั้น เธอตกอยู่ในความบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่า แทบไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่อีกด้วยซ้ำ ยังคงเกาและถูหน้าของเธอลงกับพื้นอย่างรุนแรงราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ เห็นได้ชัดว่าสติปัญญาของเธอได้พังทลายไปแล้ว
ร่องรอยของความสงสารฉายขึ้นแวบหนึ่งบนแววตาของชูฮัน หากมันก็ถูกแทนที่ทันทีด้วยความว่างเปล่าดังเดิม
ในชาติที่แล้วเขาได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มานับไม่ถ้วน ทั้งความบ้าคลั่ง การร้องห่มร้องไห้ ความสิ้นหวัง…ทุกๆอย่างในโลกาวินาศทำให้มนุษย์รู้สึกสิ้นหวัง
มันไม่ทางที่จะช่วยกู๋เสี่ยวตงได้ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถึงแม้เธอจะไม่ได้ติดเชื้อก็ตาม อีกอย่าง จิตใจที่เปราะบางไม่เหมาะสมกับโลกแบบนี้หรอก เธอจะตายหรือไม่ก็กลายเป็นบ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
‘ถึงแม้ว่ามันจะทรมาน แต่ก็ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตซะ!’ ชูฮันถอนหายใจอยู่ข้างใน
ชูฮันดึงสติปัญญากลับมา หันไปมองยังเหล่าผู้รอดชีวิตที่เหลืออีกครั้ง
“มีใครที่โดนซอมบี้กัดหรือข่วนอีกมั้ย?” ชูฮันถาม ตาของเขาเปล่งแสงของความความดุดันและโหดร้ายออกมา
เพียงประโยคเดียวทำให้ทั้งห้องโถงเงียบสนิททันที…..
ไม่มีใครตอบเขา แววตาตะลึงงันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเหล่าผู้รอดชีวิตต่างจ้องกันมายังตรงกลางห้องโถงที่มีร่างของจางจือหวีนอนนิ่งอยู่ เลือดสีดำข้นหนาค่อยๆไหลออกมาจากศีรษะ ภาพที่อยู่ดีๆจางจือหวีก็กลายร่างเป็นซอมบี้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ก่อนหน้านี้ เขายังเป็นเพียงเพื่อนมนุษย์ที่ร่วมกันสาปแช่งชูฮันด้วยกัน หากภายในไม่กี่วินาทีต่อมาเขากลับกลายร่างเป็นซอมบี้!
กู๋เสี่ยวตงเริ่มเป็นบ้าขึ้นไปอีก ไร้ซึ่งเหตผลและสติ เธอเอาหัวของตัวเองกระแทกกับพื้นไม่หยุด
ความรู้สึกของการเผชิญหน้าเหล่าซอมบี้พร้อมกับเจอกับความเปลี่ยนแปลงของโลกกับความรู้สึกที่คนรอบข้างเริ่มกลายร่างเป็นซอมบี้นั้นต่างกัน ไม่มีใครทนรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ง่ายๆ
“แค่บอกมา” ชูฮันพูดอย่างใจเย็น แม้ว่าน้ำเสียงของเขานิ่งสงบราวกับกำลังส่งสัญญาณสงบก่อนพายุจะมาเยือน
“ในพวกคุณ…ใครติดเชื้อ?”
ขณะที่ชูฮันพูด เขายกขวานขึ้นเล็กน้อย ประกายแสงแห่งการสังหารวาบขึ้นบนปลายแหลมขวาน
“เปล่า ฉันไม่ได้ติดเชื้อ!” ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งส่ายหัวอย่างวิตก
“ฉันด้วย ซอมบี้ไม่ได้โดนตัวฉันเลย! ไม่แม้แต่ปลายผม!”
“ฉันไม่ได้ติดเชื้อ!”
เหล่าผู้รอดชีวิตต่างปฏิเสธการสัมผัสกับซอมบี้ทุกรูปแบบ ด้วยเพราะพวกเขารู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นดีถ้าหากยอมรับว่าติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม ชูฮันไม่ได้เชื่อพวกเขา
การโกหกและหลบซ่อนเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของคนที่ถูกกัดหรือข่วนจากซอมบี้ พวกเขาจะไม่บอกคนอื่นๆถึงแม้จะเป็นลูก เพื่อนหรือพ่อแม่ก็ตาม!
“แก!” ทันใดนั้นเจียชุนเจี๋ยตะโกนขึ้นพลางชี้ไปที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง “แกถูกซอมบี้ข่วนไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็น”
“โกหก! แกมันเป็นแค่ไอ้อ้วนที่ชอบตอแหล!” ตาของชายวัยกลางคนแดงก่ำ เขาตะโกนขึ้นอย่างดัง
“แกนั่นแหละที่พยายามหลอกทุกคน!” ตาของเจียชุ่นเจี๋ยเองก็แดงก่ำไปด้วยความโกรธเช่นกัน เขาจ้องไปยังฝูงชน พยายามระงับความกลัวของเขาลงก่อนจะพูดขึ้น “ฉันเห็นว่าแกติดเชื้อ!”
“ไอ้***! ฉันจะฆ่าแก!” ชายวัยกลางคนคำรามด้วยความบ้าคลั่ง เขาเหวี่ยงกำปั้นใส่เจียชุนเจี๋ย
ทั้งสองคนชกต่อย สู้กันไปมา ไม่มีความเมตตาใดๆเผยให้เห็น พวกเขาเพียงต้องการจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย เหล่าผู้รอดชีวิตที่อยู่รอบๆไม่กล้าที่จะเข้าไปขัด พวกเขาทำเพียงจ้องคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัวเองอย่างระแวง ต่างคนต่างรักษาระยะห่าง
*ค่อก ค่อก!* ทันใดนั้น กู๋เสี่ยวตงถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดออกมาพร้อมกับตัวชักกระตุกล้มลงไปนอนคว่ำกับพื้น
ชูฮันย่นปากพลางคิด ไวรัสของซอมบี้ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปแล้ว กู๋เสี่ยวตงกำลังจะกลายร่าง…
เจียชุนเจี่ยและชายวัยกลางคนหยุดสู้กัน พร้อมๆกับที่ทุกคนจ้องไปยังกู๋เสี่ยวตงที่นอนคว่ำอยู่กับพื้น พวกเขามองดูเงียบๆขณะที่ร่างของกู๋เสี่ยวตงชักกระตุกพร้อมกับเลือดสีแดงทะลักออกมาจากปากเธอราวกับก็อกน้ำ
ความตื่นตระหนกก่อตัวขึ้นในหัวใจของทุกคน
* พัฟ! * เลือดไหลทะลักออกมาอีกครั้งจากปากของกู๋เสี่ยวตง เสียงแหบแห้งคำรามราวกับสัตว์ป่าดังสะท้อนออกมาจากลำคอของเธอ
เสียงคำรามอันน่ากลัวนั่นทำให้ฝูงชนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ราวกับนาฬิกาปลุก
“คำขอโทษจากใจจริงของฉัน” ชูฮันยกขวานขึ้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง
* เพละ! *
น้ำหนักมหาศาลของขวานฟาดลงมาบนกระโหลกของกู๋เสี่ยวตง ร่างของเธอเกือบจะขาดออกครึ่ง กู๋เสี่ยวตงผู้น่าสงสารไม่สามารถป้องกันตัวได้ ร่างของเธอกระตุกอยู่สองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป
ซางจิ่วตี้หันหน้าหนีพยายามจะระงับความอยากอ้วก
เฉินช่าวเย่ถอนหายใจหนักๆ ตาของเขาแข็งกร้าว เหตุการณ์นี้ยิ่งเติมเชื้อเพลิงความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดให้เขา!
สิบแปดดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ความคิด ตาของเธอจ้องไปยังเลือดสีดำที่ไหลออกมาจากศพของกู๋เสี่ยวตง
“พวกคุณควรจัดการกับตัวเองถ้าถูกกัดหรือข่วน ฉันจะไม่ขโมยทางเลือกของพวกคุณ” ชูฮันเดินออกไปหลังจากพูดจบพร้อมกับเลือดท่วมขวานในมือ
เฉินช่าวเย่ สิบแปดและซางจิ่วตี้ ไร้คำพูดใดๆนอกจากเดินตามชูฮันไป
“รอฉันด้วย!” เจียชุนเจี๋ยตะโกนขึ้น เขาวิ่งตามพวกนั้นไปพลางอ้อนวอนขอร้องอย่างสิ้นหวัง “ได้โปรด…ฉันอยากตามพวกคุณไปด้วย ฉันไม่ได้ติดเชื้อจริงๆ ตรวจดูได้เลย”
ชูฮันเหลือบไปมองเจียชุนเจี๋ยพลางถามสั้นๆ “นายทำอาหารได้ใช่มั้ย?”
“ใช่ ใช่ ใช่!” เจียชุนเจี๋ยพยักหน้ารับทันที “ฉันยังรู้เรื่องการเงินและการจัดจำหน่ายด้วย!”
ชูฮันเอียงหัวเล็กน้อย “เอาล่ะ นายสามารถตามเรามาได้”
“อ่า! ขอบคุณมาก! ขอบคุณ” เจียชุนเจี๋ยดีใจอย่างมากจนน้ำตาไหลออกมาด้วยความปรื้มปริ่ม เขาซึ้งใจจนอยากจะเรียกชูฮันว่า ‘พ่อ’
ชูฮันไม่ได้หันไปมอง หากก้าวเดินออกไปด้วยท่าทางเต็มไปด้วยอำนาจ เขาไม่สนใจใครทั้งนั้น…
————
G55อันสง่างามเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปตามถนนทางหลวงตามหลังมาด้วยรถอีกสองคัน
มันผ่านมาแล้ว 7 วันนับตั้งแต่โลกาวินาศได้เริ่มขึ้น โลกได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าโลกาวินาศจะเกิดขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้น มันได้ทำลายกฏเกณฑ์ทุกอย่างบนโลกโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยได้อันตธานหายไป พระอาทิตย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีก ท้องฟ้าไม่ได้เป็นสีฟ้าอีกต่อไปมันไร้ซึ่งก้อนเมฆ
หากมันแทนที่ด้วยหมอกสีแดงจางๆปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยสีเทาหมองคล้ำตลอดเวลา หมอกที่เกิดขึ้นยังบดบังวิสัยทัศน์ราวกับหมอกควันจากมลภาวะ
ยานพาหนะที่ถูกทิ้งรกร้างจอดกระจายอยู่บนทางหลวง ถนนที่เคยกว้างขวางในตอนนี้กลับยากที่จะขับผ่านไป ในตอนแรกเริ่ม รถหรือซากปรักหักพังเป็นเพียงอุปสรรคเดียวต่อการเดินทางของพวกเขา หากตอนนี้พวกเขาได้เผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ป่าและกลุ่มซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้การเดินทางของพวกล่าช้าลงอย่างมาก
“หยุดพักผ่อนกันก่อน” ชุฮันสั่งผ่านวิทยุ
พวกเขาจอดรถไว้ข้างถนน หน้าต่างที่แตกของG55ถูกแทนที่ด้วยตาข่ายเหล็ก ถึงแม้ตาข่ายเหล็กจะไม่สามารถกั้นความหนาวเย็นหรือลมได้ หากมันก็ช่วยป้องกันพวกเขาจากการโจมตีของซอมบี้ได้ในขณะจอดรถ
เจียชุนเจี๋ยเป็นคนเจอตาข่ายเหล็กนี่ ทันทีที่เขาเจอมันเขาก็นำมันมาติดเข้ากับกรอบหน้าต่างของG55
ช่วงหลังๆมานี้ เขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขาทำอาหารจานร้อนสำหรับทุกคนในช่วง2-3วันที่ผ่านมา อีกทั้งเขายังมีความกล้าหาญ ไร้ซึ่งความลังเลเมื่อต้องฆ่าซอมบี้
“พี่ชู!” สิบแปดวิ่งตรงมาหาชูฮันทันทีหลังจากลงมาจากรถ รอยยิ้มไร้เดียงสาของเธอมอบความอบอุ่นแก่โลกอันมืดมนนี้ หากแต่คำพูดต่อไปของเธอทำให้ชูฮันถึงกับพูดไม่ออก
“เจ้าอ้วนเฉินเจอกับแม่นางทั้ง5หรือยัง?” (หมายถึงการช่วยตัวเอง)