Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 30 เพียงลูกเตะเดียว
หุบปาก???
หน้าของเจียชุนเจี๋ยเปลี่ยนจากขาวเป็นเขียวและจากนั้นก็เป็นสีดำ เขามองไปที่ชูฮันอย่างเย็นชา ความเกลียดชังพวยพุ่งอยู่ในอก ชูฮันกล้าดียังไงมาบอกให้เขาหุบปาก?
เขาเป็นคนที่หาตาข่ายเหล็ก เป็นคนทำอาหารให้ทุกคนกินซึ่งเค้าควรจะได้เงินเดือนด้วย เค้าไม่ได้กินมากเท่าเฉินช่าวเย่ด้วยซ้ำ! ชูฮันมีกำแพงปิดกั้นเขาไว้เช่นเดียวกับอีก3คนที่เหลือนั่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับอนุญาติให้ออกความคิดเห็นใดๆระหว่างการปรึกษาหารือกัน
แม่ง! ชูฮันมันก็เป็นแค่คนธรรมดาที่มีทักษะดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
เจียชุนเจี๋ยไม่ได้รู้เลยว่าชูฮันได้ตรวจสอบระบบล่มสลายและสามารถตรวจความจงรักภักดีของคนในกลุ่มได้อย่างชัดเจนโดยความภักดีของเจียชุนเจี๋ยยังเป็นศูนย์อยู่
เจียชุนเจี๋ยทำเพียงซ่อนอารมณ์ไว้พลันแสร้งยิ้มกลับไป “ใช่ ฉันไม่ควรไปรบกวนนาย”
“เราควรออกจากทางหลวง” มันมีความหวังและความทะเยอทะยานอยู่ในสายตาของชูฮัน เขาควรจะเป็นคนแรกที่ได้เจอถุงยังชีพด้วยเพราะเขาออกเดินทางล่วงหน้าคนอื่นๆมา2-3วัน
——-
เมืองอันเกอเป็นเมืองเล็กๆแต่กลับมีจำนวนประชากรมากกว่าแสนคน หากเมื่อเปรียบเทียบกับฐานประชากรขนาดใหญ่ของจีน มันก็ยังถือว่าเล็กอยู่
จำนวนประชากรนับแสนหมายถึงจะมีซอมบี้อยู่ราว 1800ตัว
เพื่อการประหยัดน้ำมัน กลุ่มของชูฮันจึงเลือกทิ้งรถอีก2คันไว้ แล้วพากันอัดทั้ง5คนมาไว้ในG55คันเดียว G55เป็นรถที่มีขนาดใหญ่มาก ส่วนอาหารที่ถูกวางไว้บนเบาะหลังได้ถูกจัดเก็บแล้วเรียบร้อย คนทั้ง5ทั้งจึงนั่งด้วยกันได้สบาย
ชูฮันขับรถเข้าเมืองไปอย่างช้าๆและเงียบๆ ร้านค้าที่ตั้งเรียงแถวอยู่ข้างถนนปิดสนิทและล้วนมีสภาพเละเทะ มีเพียงร้านหรือสองร้านเท่านั้นที่ยังเปิดอยู่หากแต่มันดูน่ากลัวมากๆ กระดูกและเลือดสีดำไหลท่วมเต็มร้านค้า แขนขากระจัดกระจายไปตามถนน เมืองทั้งเมืองนั้นเงียบสนิทให้ความรู้สึกน่ากลัวยิ่งนัก
มีกลิ่นเหม็นหืนลอยอยู่ในอากาศ
“ทำไมเราถึงมาที่นี่?” ซางจิ่วตี้ถามชูฮันอย่างงุนงง “เราสามารถหาอาหารและน้ำมันได้ที่นี่โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในเมือง”
ชูฮันไม่ได้สนใจอะไรอีก ด้วยเพราะเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขามาจากอนาคตและเขารู้ว่าจะมีถุงยังชีพส่งมาที่นี้
“เฮ้ย!” เจียชุนเจี๋ยยิ้มกัดฟัน “นี่เป็นการตัดสินใจโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีม นายไม่มีสิทธิบังคับให้เราตายถึงนายจะเป็นผู้นำก็ตาม มันจะต้องมีซอมบี้จำนวนมากอยู่ที่นี่แน่ๆ!”
ชูฮันตอบกลับอย่างใจเย็น “นายสามารถไปได้นะ อีกอย่างไม่มีใครบังคับให้นายตาย”
“ไป?” เจียชุนเจี๋ยถามกลับด้วยสายตาเย็นชา “เรามีรถเพียงคันเดียวและนายอยากให้ฉันออกไปคนเดียวและถูกซอมบี้กัดอยู่ที่นี่เหรอไง?”
“ก็นายไม่ใช่เหรอที่เลือกที่จะตามเรามาตั้งแต่แรก” ชูฮันมองที่กระจกมองหลัง จ้องไปที่ผู้หญิงสองคนและเฉินช่าวเย่ “เราจะหาโรงแรมและพักแรมอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะจัดการซอมบี้ได้ แล้วเราจะหารถและอาหาร พอถึงตอนนั้นแล้วพวกคุณเลือกได้ว่าจะอยู่หรือไป” เขาพูดกับซางจิ่วตี้ สิบแปดและเจียชุนเจี๋ย
ความภักดีของเฉินช่าวเย่ขึ้นไปถึง90%แล้วมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจากไป อีกอย่างที่ชูฮันมาที่นี่ก็เพียงเพราะว่ามันมีถุงยังชีพ
“เราจะไม่ไปไหน” สิบแปดจ้องไปที่เจียชุนเจี๋ย ใบหน้าอ่อนโยนของเด็กหญิงตัวเล็กๆยืนยันอย่างหนักแน่น “ฉันจะตามพี่ไปจนกว่าพี่จะไปถึงเมืองชือ”
ซางจิ่วตี้ทำเพียงละสายตาออกมาจากภาพบรรยากาศน่ากลัวข้างนอกนั่นพลางหันมาตอบ “ตามนั้น”
เจียชุนเจี๋ยรู้สึกหายใจไม่ออกด้วยเพราะเขาไม่ได้มีความรู้สึกดีให้ชูฮัน หากเขาต้องการความช่วยเหลือของชูฮันเพื่อให้ไปถึงเมืองชือ มันอันตรายอย่างมากถ้าเขาต้องเดินทางไปคนเดียว
“เฮ้ย น้องชู ฉันก็แค่กลัวเท่านั้นเอง!” เจียชุนเจี๋ยเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “ฉันก็แค่กลัวว่าทุกคนจะเจอกับอันตรายและฉันยังอยากไปกับน้องต่อนะ”
“แล้วแต่นาย” ชูฮันไม่สนใจเกี่ยวกับทางเลือกของเจียชุนเจี๋ย เขาจะยังเป็นพ่อครัวต่อไปหรือจะจากไปก็ได้
หลังจากหนีพ้นกองทัพของซอมบี้มาได้ด้วยความระมัดระวังแล้ว ชูฮันและกลุ่มของเขาก็ได้พบกับโรงแรมที่ผุพังแห่งหนึ่ง มีแผ่นหินปูนพลิกคว่ำอยู่ตรงหน้าประตูที่มีตัวอักษรเขียนว่า “เฉิงกวัง” มันมีเหล่าซอมบี้ที่สวมชุดเครื่องแบบของโรงแรมอยู่เมื่อพวกเขาเปิดประตูเข้าไป มีซากปรักหักพังอยู่ในมุมๆหนึ่งพร้อมกับซอมบี้หญิงตัวหนึ่งกำลังเลียซี่โครงของร่างคนที่นอนอยู่บนซากปรักหักพัง
มันมีแมลงและตัวหนอนเกาะอยู่บนกระดูกและซอมบี้หญิงตัวนั้นพยายามที่จะจับพวกหนอนน่าเกียจพวกนั่นใส่ปาก ต่างจากซอมบี้ตัวอื่นๆที่มีท้องโป่ง พวกมันทนหิวมาเป็นเวลานาน
“แหวะ—” เฉินช่าวเย่ส่งเสียงออกมาราวกับจะอ้วก เขารีบหมุนตัวหนีภาพน่ารังเกียจนั่นทันที
“ลงไป” ชูฮันจอดรถตรงลานจอดรถที่เงียบสงัดซึ่งอยู่ข้างหลังโรงแรม เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพอุบาทว์ตาที่ได้เห็นในระยะใกล้เมื่อสักครู่ เขาเคยชินกับภาพเช่นนี้ดี
“เราจะพักอยู่ที่นี่เหรอ?” เจียชุนเจี๋ยรู้สึกรับไม่ได้กับสถานที่ที่น่าขยะแขยงแบบนี้ “ฉันว่าเราควรหาที่ที่ดีกว่านี้ ถึงแม้มันจะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่มันก็น่าจะมีพวกโรงแรม3ดาวหรือ2ดาวอยู่บ้าง เมื่อตอนที่เราจนเราอาจจะไม่มีทางเลือก แต่ตอนนี้เราไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแต่นายยังจะเลือกพักที่ที่น่าขยะแขยงแบบนี้อยู่อีกเหรอ!”
ชูฮันจับขวานแน่นขณะจอดรถพลางมองไปที่เจียชุนเจี๋ยอย่างไร้อารมณ์ “เหมือนเดิม…นายสามารถจากไปได้ถ้าไม่เห็นด้วย”
มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สมควรและมันไม่ใช่ธุระอะไรที่ต้องทำให้ตัวเองพอใจที่ได้พักในโรงแรมที่ตอนยุครุ่งเรืองปกติไม่เคยได้มีโอกาสได้พัก แต่มันเป็นเพราะมันเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดด้วยเพราะจำนวนลูกค้าที่น้อยซึ่งก็หมายความว่าจำนวนซอมบี้ที่น้อยเช่นกัน
แน่นอนว่าชูฮันไม่ได้มีหน้าหรือความอดทนมากพอที่จะมาอธิบายให้คนที่มีความภักดีเท่ากับศูนย์ฟัง
เฉินช่าวเย่ ซางจิ่วตี้และสิบแปดทำเพียงเงียบและเดินตามชูฮันมาพร้อมกับหยิบอาวุธของแต่ละคนไปด้วย
“เ*ย!” เจียชุนเจี๋ยด่าชูฮันลับหลัง “ไอ้ควาย!”
พวกเขาเดินมาอย่างเงียบๆเข้าใกล้ทางเข้าของโรงแรมขึ้นเรื่อยๆ
โรงแรมนั้นมีขนาดเล็กมากด้วยมีเพียง2ชั้นเท่านั้น มันมีกลิ่นเหม็นหืนฉุนที่พวกเขาคาดว่าน่าจะเป็นกลิ่นของซอมบี้ ซอมบี้หลายตัวกระจายกันอยู่ตรงห้องโถงชั้นล่างเช่นเดียวกับประตูหลังและบันไดที่ชูฮันและกลุ่มของเขากำลังเดินอยู่ เขาเดินขึ้นบันไดเงียบๆพยายามไม่ดึงดูดความสนใจจากพวกซอมบี้
“เราจะไม่ฆ่าพวกมันเหรอ?” เฉินช่าวเย่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ชูฮันส่ายหน้าปฏิเสธพลางบอกให้ทุกคนเงียบๆด้วยการยกนิ้วชี้มาแตะปากขณะที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนชั้นสอง
มีทางเดินมืดมิดอยู่บนชั้นสองพร้อมกับพรมสีแดงเข้มกว้าง2เมตรปูเหยียดยาวไปทั่วทั้งชั้น พวกเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสีแดงของพรมที่เห็นมันเป็นสีของมันจริงๆหรือเป็นสีของเลือดกันแน่ มันไม่มีซอมบี้อยู่บริเวณรอบๆหากกลิ่นเหม็นหืนก็ยังคงเข้มข้นอยู่ดี ประตูไม้ที่ปิดอยู่ตั้งห่างจากกัน1เมตรเรียงรายอยู่ตามโถงทางเดิน
แสงสลัวที่ลอดผ่านมาทางหน้าต่างทำให้โถงทางเดินยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก
เสียงฝีเท้าของชูฮันเงียบลง เขาจะหยุดชั่วครู่เพื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดเมื่อเขาเดินผ่านแต่ละห้องไม่ว่าจะเป็นทั้งกลิ่นหรือเสียง
เจียชุนเจี๋ยที่อยู่ด้านหลังสบประมาทการกระทำของชูฮัน เขาคิดว่าที่นี่ไม่น่าจะมีอะไรให้น่าตกใจได้ และการยืนและหยุดแต่ละประตูเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี
ทันใดนั้นชูฮันก็หยุดอยู่ตรงประตูขรุขระบานหนึ่งขณะที่จับขวานไว้ในมือพร้อมกับยกขาที่ทรงพลังของเขาขึ้นมาและส่งแรงถีบออกไปข้างหน้า…
ปัง!
เตะเข้าประตู!