Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 353
น้ำเสียงที่พูดแผ่วเบา ทว่ามันกลับกระตุ้นคลื่นนับพันให้ก่อตัวขึ้นมาได้!
ไม่…
“ปัญหาใหญ่แล้ว!”
“ฉันควรทำยังไงดี? พลโทตวนเจียงเหว่ย ถ้าเขารู้ว่าพี่ชายเขาถูกทำให้กลายเป็นอย่างนี้ แบบนี้ล่ะก็—-“
“หยุด” เป็นอีกครั้งที่ไก๋หนานขัดความตื่นเต้นของทุกคนขึ้นมาและชี้นิ้วไปที่ 3 คนที่พื้น “พา 3 คนนี้กลับไปรักษาเดี๋ยวนี้”
มีกลุ่มคนรีบเข้ามาแบกตัวทั้ง 3 คนไปทันที พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับชูฮันตรงๆ
ทุกคนต่างเดินหนีออกไป มีเพียงแค่ไก๋หนานและชูฮันที่ยังคงอยู่ ไก๋หนานพุ่งเข้าไปหาชูฮันและตะคอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “นายเจอปัญหาใหญ่หลวงแล้ว!”
ชูฮันพยักหน้าอย่างใสซื่อ
ตวนฮงเหว่ยที่นอนอยู่ที่พื้นนั้นมีสภาพบอบช้ำอย่างหนัก แน่นอนว่าตอนนี้ชูฮันตกอยู่ในวิกฤตใหญ่หลวงแล้ว ง่ายๆคือเขากำลังเจอกับความตาย
“ไปซะ!” หลังจากผ่านไปสักพัก ทันใดนั้นไก๋หนานก็ตัดสินใจได้ “ฉันไม่สามารถเชื่อนายได้ ฉันจะบอกตวนเจียงเหว่ยทุกอย่างที่ตวนฮงเหว่ยทำ และจะไม่บอกชื่อจริงของนายกับเขา ฉันไม่อยากให้เขารู้ว่านายคือใคร”
“ให้ฉันไปก่อนไหม?”
“เร็วๆ!” ไก๋หนานรู้สึกหดหู่ มันยากที่สร้างมิตรในเมื่อมันเรื่องราวมันใหญ่โตขนาดนี้แล้ว
“ถ้างั้น เราก็แยกกันตรงนี้ นายต้องไปทางขวา แต่ฉันต้องไปทางซ้าย!” ชูฮันยิ้มเผยให้เห็นฟันเรียงขาวสะอาด
ชูฮันรู้ว่าไก๋หนานกำลังกังวลอย่างมาก “ไม่ต้องบอกฉันว่านายกำลังจะไปไหน!”
ในใจของชูฮันกำลังหัวเราะอยู่ ทว่าสุดท้ายเขาก็ยังไม่ลืมที่จะอธิบาย “ฝากนายบอกเด็กซงเสี่ยวนั่นด้วยให้เขารอฉันอยู่ที่ค่ายตวน ฉันจะไปรับเขาที่นั่น”
“ยังไม่ไปอีก!” ไก๋หนานแทบจะวิ่งเข้าหาชูฮัน “นายยังกล้าไปค่ายตวนอีกเหรอ? นายอยากให้ฉันฆ่านายจริงๆใช่มั้ย!”
“มั่นใจเลย” ชูฮันรีบพูดประโยคสุดท้ายทิ้งท้าย “ถ้านายจะพูดอะไรกับซงเสี่ยว นายควรโกหกเขาแทนและปล่อยให้เขาได้คิดเอง เด็กคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉัน!”
หลังจากกล่าวอำลากับไก๋หนานแล้ว ชูฮันก็ออกตัววิ่งไปทางซ้ายของถนน ทว่าไม่นานจู่ชูฮันก็เปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าไปที่ถนนสายกลาง
“ไหนนายบอกว่าจะไปทางซ้าย?” หวังไครู้สึกชินชากับนิสัยของชูฮัน
รอยยิ้มที่ปรากฏบนหน้าชูฮันนั้นมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ “นายเชื่อเหรอไง? โง่ชะมัด”
เป็นอีกครั้งที่หวังไคโมโหเพราะชูฮัน มันได้แต่สาบานกับตัวเอง “คอยดูเถอะ!”
เมื่อทั้งชูฮันและไก๋หนานจากไป มันก็มีร่างที่โชกไปด้วยเลือดค่อยๆโผล่ออกมาจากป่าและเดินออกมาจากที่กลางถนน
“เฮ้ เฮ้ โอ๊ะ!” บี๋เทียนยิ้มกว้างขณะมองไปที่ลูกผสมที่ร่างแบ่งเป็นสองส่วนด้วยฝีมือชูฮัน หน้าของบี๋เทียนบ่งบอกถึงสภาวะที่ไม่ปกติและบ้าคลั่ง “การกินเนื้อคนจะทำให้กลายเป็นลูกผสม แล้วถ้ากินเนื้อลูกผสมล่ะ?”
———-
2 วันต่อมา ไก๋หนานและกลุ่มของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในฐานของผู้รอดชีวิต ในที่สุดทุกคนก็เดินทางมาถึงฐานที่อุดมสมบูรณ์ ทุกคนมารวมตัวกันตรงกลางของฐานซึ่งเป็นศูนย์กลางของสถานที่ที่ตั้งของบ้านพักและที่ทำงานของตวนเจียงเหว่ย
“สวัสดี เดินทางยากลำบากหน่อยใช่มั้ย?” ตวนเจียงเหว่ยออกมาต้อนรับทุกคนด้วยตัวเองที่ห้องโถง
ด้วยวัย 22 ปี ตวนฮงเหว่ยในสายตาของคนภายนอกอาจดูธรรมดาไม่มีพิษมีภัยอะไรนอกจากแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ทว่าเบื้องหน้าเขากลับเต็มไปด้วยเหล่าทหารและวิวัฒนาการที่นั่งเงียบสงบ ไม่มีใครกล้าขยับตัวทั้งนั้น เพราะพวกเขารู้ว่าสำหรับคนคนหนึ่งที่สร้างฐานขึ้นมาจากไม่มีอะไรเลยจนกลายเป็นฐานอันดับที่ 10 ของจีนได้ภายในเวลาเพียง 5 เดือนนั่นต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่รูปลักษณ์ภายนอกแสดงออกอย่างแน่นอน
ท่ามกลางกลุ่มคน มีเพียงแค่หลูชูซเวเท่านั้นที่เปลี่ยนพฤติกรรมไปทันทีที่เข้าไปในห้องโถง มันมีรอยยิ้มกว้างฉายชัดบนหน้าเธอราวกับว่าได้กลับคืนสู่บ้าน
“รายงานครับ” ไก๋หนานแสดงความเคารพทางทหารต่อตวนเจียงเหว่ย จากนั้นก็รายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางรวมถึงเรื่องของตวนฮงเหว่ยด้วย เขาไม่ปิดบังอะไรเลย ทว่าเมื่อมาถึงเรื่องของชูฮัน ไก๋หนานก็มีอาการชะงักไปเล็กน้อย “เขาเชื่อหวังไค วิวัฒนาการระยะ 3”
หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ทั้งโถงก็ตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างกลั้นหายใจรอให้ตวนเจียงเหว่ยปะทุความโกรธออกมา มีเพียงแค่หลูชูซเวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังดื่มชาอย่างผ่อนคลาย
“อย่าดื่ม!” วิวัฒนาการคนหนึ่งกระซิบหลูชูซเว เขามีสีหน้ากระวนกระวาย “เธอดูสถานการณ์ด้วย!”
ตวนเจียงเหว่ยที่เงียบไปพักใหญ่จู่ๆก็หันหน้ามาหาหลูชูซเว ทำให้วิวัฒนาการคนนั้นถึงกับชะงักค้าง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
“ใช่เรื่องจริงมั้ย?” ไม่มีใครคิดว่าตวนเจียงเหว่ยจะเอ่ยปากถามหลูชูซเว
ไก๋หนานรู้สึกกลัวพลางรีบหันไปจ้องหลูชูซเวที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันทันที นี่ผู้หญิงคนนี้กับตวนเจียงเหว่ยรู้จักกันงั้นเหรอ?
“มันเป็นเรื่องจริง” หลูชูซเวตอบ จากนั้นเธอกลับไปมีท่าทีผ่อนคลายต่อเหมือนเดิม
ตวนเจียงเหว่ยไม่สนใจ เขาเพียงยิ้มเศร้าๆออกมา “แล้วพี่ชายของฉันล่ะ? ฉันอยากเจอเขา”
“ผมเอาตัวเขาไปไว้ที่ห้องๆหนึ่ง สภาพเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ไก๋หนานพูดอย่างระมัดระวังคำ
“ให้ใครก็ได้พาตัวเขามา” ตวนเจียงเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพกับไก๋หนาน
ไก๋หนานอึ้ง “ให้พามาที่นี้เหรอครับ?”
มันดีสำหรับคนเจ็บจริงๆงั้นเหรอ? สถานการณ์ของตวนฮงเหว่ยตอนนี้มันย่ำแย่มาก เด็กๆอาจหวาดกลัวจนเป็นลมได้ถ้าได้เห็นตวนฮงเหว่ยเข้า
“ถูกต้อง” ตวนเจียงเหว่ยยังคงยิ้มอยู่ “พาเขามาที่นี่”
10 นาทีต่อมา ร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของตวนฮงเหว่ยก็ปรากฏขึ้น หน้าตาของเขาดูย่ำแย่และดูแทบไม่ได้ เขาถูกพามาที่กลางห้องโถง ห้องโถงเดิมที่เคยสะอาดเอี๋ยมอ๋องกลายเป็นสกปรกทันทีด้วยเพราะเลือดของตวนฮงเหว่ย
ทุกคนต่างหวาดกลัวเมื่อเห็นตวนฮงเหว่ยที่มีสภาพแบบนี้
หัวใจของไก๋หนานเต้นรัว เรื่องของชูฮันเขาก็กังวลมากพออยู่แล้ว แถมหลูชูซเวยังดูเหมือนกับจะรู้จักตวนเจียงเหว่ยดีอยู่แล้ว แล้วเรื่องที่เขาเป็นคนไล่ให้ชูฮันไปอีก
เขาไม่น่าบุ่มบ่ามเลย!
ไก๋หนานอยากตบหน้าตัวเอง