Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 40 ฉันจะให้เงินแกเยอะๆเลย
“คุ้มกันแกจนกว่าเราจะไปถึงเมืองชือเหรอ?” ชูฮันทำท่าทึ่งใจ ปากของเขาโค้งขึ้นราวกับกำลังยิ้ม พร้อมพูดย้ำอีกครั้ง
“คุ้มกัน?”
“ใช่แล้ว!” มันมีความภูมิใจอย่างมากฉายชัดในแววตาของเสี่ยวหยุนเฟย เขาเชิดคางขึ้นขณะมองไปที่ชูฮันด้วยแววตาหยิ่งยโส “แกควรจะคุ้มครองฉันไปตลอดการเดินทาง รวมถึงดูแลเรื่องอาหารการกินและสุขอนามัยของฉันด้วย แน่นอนว่าฉันเป็นคนยุติธรรมพอ ฉันจะไม่ปฏิบัติกับแกไม่ดีถ้าแกทำในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะแนะนำตัวแกกับคนยศสูงๆที่ฐานทัพให้เมื่อเราไปถึงเมืองชือ อีกอย่าง ฉันจะให้รางวัลพิเศษกับแกด้วย แกควรจะรู้ไว้นะว่าฉันรวยมากๆ! สักหนึ่งหมื่นพอมั้ย?”
เสี่ยวหยุนเฟยพูดจบพลางยกยิ้มอย่างพออกพอใจ ชูฮันมันต้องติดกับเขาแน่ๆ เงินหนึ่งหมื่นไม่ใช่เงินน้อยๆเลย คนจนๆแบบมันต้องไม่เคยได้สัมผัสกับเงินมากขนาดนี้มาก่อนแน่นอน!
“เงิน?” ชูฮันคิดว่ามันช่างน่าตลกสิ้นดีขณะกำลังพยายามเจรจาปัญหานี้กับเสี่ยวหยุนเฟย การปะทะอย่างกะทันหันของโลกาวินาศทำให้คนมากมายประสาทหลุด
ชูฮันเพียงยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเป้พยายามควานหาแพ๊คอาหารสูง3ฟุตที่เขาได้มาจากร้านค้า
“น้อยไป?” เสี่ยวหยุนเฟยมองไปที่การกระทำของชูฮันด้วยสายตาดูแคลน “นักศึกษามหาวิทยาลัยแบบแกคิดว่าหนึ่งหมื่นมันไม่พองั้นเหรอ? ได้ ถ้างั้นฉันให้แกหนึ่งแสน?”
“เงิน…แบบนี้นะเหรอ?” ทันใดนั้น ชูฮันก็หยิบปึกเงินออกมาจากกระเป๋า
เขาตั้งใจจะเผามันทิ้งอยู่แล้ว เขาเคยแม้กระทั่งเรียกมันว่า ‘เหรียญแห่งความทรงจำ’ เงินในยุคศิวิไลซ์ไม่มีค่าอะไรในโลกาวินาศเช่นนี้ เพราะขนมปังบางๆ1แผ่นยังมีค่ามากกว่าเงินเสียอีก และในอนาคตจะมีสกุลเงินใหม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเงินที่ผู้คนมีกันอยู่ในตอนนี้จึงไม่ค่าอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ยังไม่พออีก?” เสี่ยวหยุนเฟยเริ่มรู้สึกอึมครึม พยายามจะแสดงอำนาจและศักดิ์ศรีของเขา
“แกจะเอาเงินไปทำอะไร? เอาเป็นว่า ฉันจะให้แกหนึ่งแสน แกไม่ควรขออะไรเพิ่มอีก!”
“จริงเหรอ?” ชูฮันมองไปที่เสี่ยวหยุนเฟยขณะที่โยนปึกเงินนั่นไปอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า
พึบ!
เงินปึกนั่นถูกโยนเข้าใส่หน้าเสี่ยวหยุนเฟย!
ผั้ว! พะ พะ—
เสียงเงินค่อยๆตกลงมาที่พื้น
ท่าทางของชูฮันดูนิ่งไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเขาจะทำอะไร เขาเพียงเหยียดแขนออกไปอย่างแม่นยำเพื่อโยนเงินใส่หน้าเสี่ยวหยุนเฟย เสี่ยวหยุนเฟยและทุกคนในห้องต่างตะลึงเงียบอยู่ในความตกใจไปชั่วขณะ
เสี่ยวหยุนเฟยลืมตาขึ้น ความโกรธพุ่งทะลักออกมาจากส่วนลึก “แกกล้า…. ”
เพี้ย!
เสียงตบเข้าที่หน้า!
เสียงตบที่ดังชัดเจนก้องทั่วห้องกระทบเข้ากับหน้าของเสี่ยวหยุนเฟยอย่างแม่นยำ!
ชูฮันรีบหันตัวหนีเพื่อเช็คระบบล่มสลาย วันนี้เขาได้ทำอะไรไปตั้งมากมายหลายอย่างแต่ปรากฏว่าความภักดีของซางจิ่วตี้ก็ยังคงเดิมที่50% เขากำลังคิดว่าจะต้มน้ำให้เธอเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น หากแต่การได้พบกับเสี่ยวหยุนเฟยมันอยู่เหนือความคาดหมายของเขา เขาจำได้ดีว่าเสี่ยวหยุนเฟยคือใครเช่นเดียวกับที่เขาเคยถูกชายผู้นี้ทรมานมาหลายต่อหลายต่อครั้งในชาติที่แล้วของเขา!
ภายในโรงแรมนั่นเงียบสนิท ทุกคนมองไปที่ชูฮันด้วยสายตาประหลาดใจ
โดยเฉพาะซางจิ่วตี้ ชูฮันที่เธอรู้จักไม่ใช่คนใจร้อน เสี่ยวหยุนเฟยเป็นคนที่แย่มากแต่มันเกินความคาดหมายของเธอที่ชูฮันจะตบใครก็ได้อย่างสบายๆแบบนี้
สิบแปดหรือเลาเสี่ยวเสียว…อดไม่ได้ที่จะปรบมือ มันเป็นตบที่ดี!
เฉินช่าวเย่ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมาด้วยเพราะเขาพร้อมที่จะเชื่อทุกอย่างที่ชูฮันบอกอยู่แล้ว
การตบของชูฮันทำให้เสี่ยวหยุนเฟยเกิดอาการนิ่งงัน เขารู้สึกเวียนหัว มันมีเสียงอื้อดังก้องค้างอยู่ในหูอย่างแรง จนเขาคิดว่าเขาอาจจะหูหนวกไปแล้ว!
เลือดอุ่นๆไหลออกมาจากหูของเสี่ยวหยุนเฟยพร้อมกับคอของเขาแดงก่ำ เขาสะบัดหัวเพื่อเรียกสติพลางป้ายเลือดที่กระเด็นเปรอะกำแพงขึ้นมา
มองที่ชายตรงหน้าที่ดูเป็นคนรุนแรงนัก ความตื่นตระหนกและความไม่พอใจไหลทะลักขึ้นมาจากอกของเสี่ยวหยุนเฟย
นี่มันยังเป็นผู้ชายคนที่เขารู้จักอยู่รึเปล่า? ชูฮันตบหน้าเขา? ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาสามารถส่งชูฮันเข้าคุกได้ตลอดชีวิตแต่ตอนนี้เขากลัวที่จะต่อต้าน เพราะเขาคิดว่าชูฮันอาจะฆ่าเขาได้ทันที เหมือนกับที่เขาเคยทำมาก่อนหน้านี้!
มันช่างน่าขันยิ่งนัก!
พรรคพวกของเสี่ยวหยุนเฟยรีบถอยตัวกันโดยไว พวกเขาแทบอยากจะคุกเข่าลงขอร้อง ไม่ต้องไปพูดถึงการช่วยพูดให้เสี่ยวหยุนเฟย ผู้ชายคนนั่นหมดประโยชน์แล้ว พวกเขาควรจะไปกับคนอื่นแทน
ชูฮันยิ้มยิงฟันพลางเดินเข้าไปหาเสี่ยวหยุนเฟยและเพื่อนร่วมกลุ่มที่อีก2คนนั่น เขาเดินเข้าไปช้าๆ จังหวะเดินของเขาทำให้เกิดเสียง ต้ะ ต้ะ ทุกครั้งที่เท้าเหยียบลงบนพื้น
จู่ๆปากของชูฮันก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มพลางถามคำถามที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องเมื่อกี้เลยสักนิด
“เกิดอะไรขึ้นกับศพในห้อง 201?” หน้าของเสี่ยวหยุนเฟยพลันเปลี่ยนเป็นซีดขาวหากมันก็รีบเปลี่ยนเป็นความเศร้าแทนที่อย่างไว เขาพยายามแสร้งว่าโศกเศร้าเสียใจ “ผู้ชายคนนั้นถูกซอมบี้กัด พวกเราจำเป็นต้องฆ่าเขาเพื่อความปลอดภัยของคนในกลุ่ม”
เสี่ยวหยุนเฟยกล่าวอย่างเศร้าๆ เพราะในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่สำเร็จดังนั้นเขาจะลองใช้ไม้อ่อนแทน!
ชายที่เหลืออีก2คนแสดงท่าทางประหลาดใจเมื่อได้เห็นการกระทำของเสี่ยวหยุนเฟย
“ฉันเห็นรอยกัดบนแขนของเขา” ชูฮันยิ้มขึ้นเล็กน้อยยามมองไปที่ทั้ง3คน เขาไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขากำลังจะพูดเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร “ใครเป็นคนกินเขา? เนื้อคนสดๆอร่อยมั้ยละ? เวลามันไม่ได้ปรุงให้สุกแล้วกินดิบๆมันจะรสชาติคาวมากๆ”
เฮือก!
คำพูดของชูฮันทำให้ทั้ง3คนแน่นิ่งทันทีพร้อมกับท่าทางพวกเขาที่เปลี่ยนไปอย่างไว หนึ่งในนั้นอดไม่ได้ที่จะอ้วกออกมา
แหวะ–
มันมีเศษชิ้นเนื้อสดผสมออกมากับอ้วกของชายคนนั้น เศษเนื้อมีสีแดงและยังดิบอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเคี้ยวมันไม่ละเอียดเท่าไหร่เพราะรีบกินเกินไป
เฉินช่าวเย่รู้สึกแย่อย่างมาก เขาได้ยินสิ่งที่ชูฮันพูดอย่างชัดเจนทุกอย่าง ชูฮันบอกว่าพวกนั้นกินเนื้อคนสดๆ เขาจึงมองไปที่อ้วกบนพื้น “อาหารที่เราให้พวกนายกินมีแต่ข้าวเท่านั้น และมันไม่มีเนื้อสัตว์เลย พวกนาย…พวกนายกินเนื้อคนจริงๆงั้นเหรอ?”
ซางจิ่วตี้รีบเอามือขึ้นมาปิดปากไว้ด้วยเธอรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอ้วกออกมา ศพที่อยู่ในห้อง201 ไม่ได้ถูกกัดโดยซอมบี้ แต่เป็นไอ้พวกโรคจิตพวกนี้ที่ต้องการกินเนื้อคน!
เลาเสี่ยวเสียวตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว ด้วยเพราะเธอยังเด็กเกินไปกับความจริงอันโหดร้ายเช่นนี้
ตาของเสี่ยวหยุนเฟยส่องประกายวาบ ทันใดนั้นเขาหมุนตัวกลับหันไปเตะชายที่กำลังอ้วกอยู่ทันที ทำให้ชายคนนั้นล้มลง
“ไอ้เศษขยะ! แกกล้ากินเนื้อคนได้ยังไง! แกมีจิตสำนึกบ้างรึเปล่า?”
ชายคนนั้นหันหน้ากลับมาและยังคงอ้วกต่อไป ตอนนี้ตัวเขาจมอยู่กับกองอ้วกของตัวเอง เขามองไปที่ เสี่ยวหยุนเฟยขณะลุกขึ้นด้วยสายตาเย็นชา
เขาชี้ไปที่เสี่ยวหยุนเฟยและตะโกนออกมา “แกก็กินมันเหมือนกัน และแกกินมากกว่าพวกเราตั้งเยอะด้วยซ้ำ!”
ตาของเสี่ยวหยุนเฟยแข็งกร้าวขณะจ้องไปที่ชายคนนั้น ทันใดนั้นเขาก็หมุนตัวกลับมาพูดกับชูฮัน “มันต้องติดเชื้อแน่ๆ มันไม่ได้เพียงแต่กินเนื้อคนแต่ยังมาบอกว่าฉันก็กินเหมือนกัน มันไม่ควรอยู่ที่นี้เพราะพวกเราอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ถ้ามันกลายร่างเป็นซอมบี้ เราควรฆ่ามันซะ ” เสี่ยวหยุนเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
เขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อชูฮันแล้วตั้งแต่เขารู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นหัวหน้าในตอนนี้…