Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 408
“ไม่อนุมัติ” ผู้บัญชาการมู๋ตอบชูฮันอย่างเด็ดขาด จากนั้นน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอีกครั้ง “ชูฮัน กองทัพกำลังลำบาก นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ในนามของค่ายซางจิง ฉันสัญญาว่ามันจะไม่มีการเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไปอีกในอนาคต เอาล่ะ เลาหมิงเรื่องต่อไป”
แม้คำพูดของผู้บัญชาการมู๋อาจดูเหมือนคัดค้านชูฮัน หากชูฮันกลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะที่สีหน้าของหลายๆคนซีดเทาด้วยความโกรธ การรับประกันในนามค่ายซางจิง ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าชูฮันจะทำอะไรหรือคนพวกนี้จะลงนามจดหมายขับไล่เขาอีกกี่ครั้งเขาก็ไม่มีทางถูกทำอะไร มันก็เหมือนกับการตอบรับคำร้องของชูฮันทางอ้อม เพียงแค่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น พวกเขาเข้าใจกันโดยปริยาย
ชูฮันนั่งลงด้วยรอยยิ้มและเลิกคิ้วใส่สายตาคู่หนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเจ้าของใบหน้ามีสีหน้าฟ้าอมเขียว ยังอยากจะเล่นมั้ย? แกเล่นต่อสิ ยิ่งแกเล่นใหญ่มากเท่าไหร่ แกก็ยิ่งโดนเอาคืนมากเท่านั้น!
ตวนเจียงเหว่ยที่อยู่ถัดไปยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ เขาให้ความรู้สึกที่ไม่มีวันเป็นศัตรูกันแก่ชูฮัน และก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะอยู่หรือตายเมื่อไหร่
ฉางกวนหลงที่นั่งห่างออกไปหันกลับไปมองชูฮันและรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็ยากที่จะเข้าใจ ถึงแม้ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้จะยังเด็กและภาคภูมิใจตัวเองแต่เขาก็รู้การใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองมาต่อรองและยังนั่งอยู่ที่นี้โดยไม่สนใจอะไรทั้งๆที่ไม่รับรู้กฏระเบียบอะไรเลย มันค่อนข้างน่าสนใจกับการรับมือกับคนแบบนี้
เลาหมิงมองไปที่หน้าของคนมากมายในห้องประชุม และพยายามอดกลั้นความอยากหัวเราะอย่างถึงมากที่สุดของเขาเอาไว้ และแสร้งทำเป็นจริงจัง “เรื่องที่สอง จีนได้ประเมิณและรวบรวมข้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับเสาหิน…เหอเฟิง”
เหอเฟิงรีบลุกขึ้นยืนทันทีพลางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “กรุณาเปิดเอกสารตรงหน้าของท่านไปที่หน้าที่ 5”
พรึบ! พรึบ! พรึบ!
เสียงกระดาษพลิกดังระงมทั้งห้อง ชูฮันพยักหน้ารับอยู่ในใจ คนที่คนออกการประชุมนี้เป็นคนมีระดับสูงและรอบคอบอย่างมาก! ในขณะเดียวกัน เขาก็สังเกตเห็นสถานะที่ไม่ธรรมดาของเหอเฟิง แม้แต่เขี้ยวมังกรก็ยังนั่งอยู่ตรงตำแหน่งหัวหน้าทีมหลงยา แต่เหอเฟิงที่ดูไม่มีอะไรนอกจากเจ้าหน้าที่่ตัวเล็กๆของเลาหมิง…
หลบซ่อนได้ลึกล้ำมาก!
เหอเฟิงพูดขึ้นช้าๆ “เชื่อว่าทุกคนก็คุ้นเคยกับเสาหินพวกนี้ดีอยู่แล้ว มันจะมีคนที่มีชื่อเสียงติดอยู่ในอันดับรายชื่อรวมถึงพลเอกชูฮัน ที่ในตอนนี้เป็นวิวัฒนาการระยะ 4 ที่อยู่ตรงหน้าเรา นอกเหนือจากความแข็งแกร่ง มันยังมีคนที่มีชื่อเสียงบนรายชื่ออีกหลายคนที่กองทัพกำลังตามหาตัวอยู่”
“จริง” มีบางคนพยักหน้าเล็กน้อย “ป่ายหวีเนอเองก็หายตัวไปเหมือนกัน ตามรายงานเธอจะปรากฏตัวก็ต่อเมื่อ——“
“ป่ายหวีเนอไม่ได้อยู่ในรายชื่อ” จู่ๆผู้บัญชาการมู๋ก็ขัดจังหวะคำพูดของผู้ชายคนนั้นขึ้นมา “เธอไม่ได้อยู่ในหมวดที่เราสามารถพูดคุยได้ เหอเฟิงเชิญพูดต่อ”
ชูฮันยังคงมีแววตานิ่งเฉย ก่อนหน้านี้ชื่อของป่ายหวีเนอก็ปรากฏบนรายชื่ออยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่รู็ว่าชื่อของเธออยู่ที่อันดับไหน?
จากนั้นเหอเฟิงก็พูดต่อ “คนที่อยู่ในรายชื่อส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เคยพบในการประชุมของพวกเรามาแล้ว แต่มันไม่มีอะไรเมื่อเรามีดาวรุ่ง เชิญดูที่บรรทัดที่ 23 คนคนนี้ชื่อว่าบูชา ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่เจียงหนาน ความนิยมของเธอได้เพิ่มขึ้นสูงภายในเวลา 2 เดือน แถมยังมีฉายาที่คนแต่งตั้งกันให้ด้วย เธอเป็นบุคคลอันตรายที่เราต้องให้ความสนใจอย่างมาก…”
ต่อมาชูฮันก็ไม่สามารถทนฟังต่อได้อีก เขารู้สึกราวกับโดนทุบหัว
บูชา!
เมื่อดูข้อมูลของบูชาที่ทางกองทัพรวบรวมเก็บมาได้ ชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมา สุดท้ายแล้วเธอก็ยังเลือกเดินเส้นทางเดิมเหมือนชาติที่แล้วและกลายเป็นฆาตรกรแม่มดงู
“ต่อไป ประเด็นเกี่ยวกับซอมบี้และลูกผสมรอบๆค่ายซางจิง”
การประชุมยังคงดำเนินต่อไปและในตอนนั้นเองจู่ๆเหอเฟิงก็เหลือบมองมาที่ชูฮัน จากนั้นก็รีบเปิดหัวข้อ “กรุณาเปิดไปที่หน้า 10 นี่เป็นรายงานการปฏิบัติภารกิจของทีมหลงยาและฮูหยา”
หือ?$%^#$%
ไม่นานมันก็มีเสียงประหลาดใจของผู้คนดังขึ้น “อัตราการสำเร็จภารกิจของทีมหลงยาอยู่ที่ 100%!”
“น่าเกรงขามมาก ถึงคุ้มค่ากับการเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดในจีน” บางคนพูดด้วยน้ำเสียงประจบ
“อืม แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับทีมฮูหยา? ทำไมถึงล้มเหลวตั้งหลายครั้ง?”
เหอเฟิงพยักหน้า “2ภารกิจของจุนจื่อและจุ้ยชูคือการกวาดล้างฝูงซอมบี้ที่ข่มขู่ชีวิตของเหล่าผู้รอดชีวิต และพวกลูกผสมที่จู่ๆก็ปรากฏตัวรอบๆค่ายซางจิงตั้งแต่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา”
“ดังนั้นปัญหาของฝูงซอมบี้และพวกลูกผสมก็ยังไม่ถูกแก้ปัญหา?” มีคนบางรีบถามขึ้นอย่างกังวล “นั่นมันไม่ใช่เรื่องอันตรายเหรอไง? มันยังมีผู้รอดชีวิตอีกจำนวนมากที่กำลังมุ่งหน้ามาซางจิง ถ้าเรายังไม่ได้ขัดการเรื่องนี้ ผู้คนจะต้องตกอยู่ในอันตราย!”
“ภารกิจล้มเหลว แต่มันไม่มีอันตรายเรื่องฝูงซอมบี้และพวกลูกผสมรอบๆให้ต้องกังวลอีก” เหอเฟิงพูดเสียงแผ่ว เขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา “เพราะพลเอกชูฮันได้จัดการทุกอย่างระหว่างการเดินทางมาสู่ซางจิง”
!@#$$%%^&$@&((^
หลายคนในห้องประชุมอ้าปากค้างขณะจ้องไปที่ชูฮันที่นั่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิมของเขา
ชูฮันเพียงแค่พยักหน้ารับ “ก็ผมฆ่าพวกมันเอง มีคุณงามความดีหรือรางวัลอะไรให้ผมมั้ย?”
ทุกคนรีบหันหน้าหนีทันที แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ชูฮันพูด
“ดี ดำเนินการต่อ” ผู้บัญชาการมู๋ดึงการประชุมกลับมาที่หัวข้อเดิมได้ทันถูกจังหวะ ขณะแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว ในตอนนี้ทุกคนหวาดกลัวและวิตกกับการพูดของชูฮัน แค่เพียงชูฮันทำท่าจะพูดทุกคนก็หวาดวิตกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจที่ได้เห็นอะไรแบบนี้
“กรุณาดูที่แผนที่ด้านล่าง” เป็นครั้งแรกที่เหอเฟิงใช้น้ำเสียงที่จริงจังขนาดนี้ เขาเดินไปที่แผนที่ที่ติดอยู่บนผนังของห้องประชุม “นี่คือจังหวัดที่อยู่ใกล้หนานตู้ ที่ซึ่งทีมลาดตระเวนของเราพบปรากฏการณ์ผิดปกติ”
สายตาของทุกคนจดจ่อไปที่แผนที่ ชูฮันเงยหน้าขึ้นลงมองสลับไปมาระหว่างตอนนี้กับอดีต ท่าทางของเขาแตกต่างจากคนรอบๆที่ทั้งจริงจังและตึงเครียด เขามีแค่ความสงสัยใคร่รู้
“ดูกันที่จุดนี้” เหอเฟิงชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ “มันมีขนาดเท่ากับเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยผู้รอดชีวิตทั่วไปที่ไม่ใช่ชนเผ่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นจนถึงตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 2000 คน คนพวกนี้มาจากเมืองรอบๆเดินทางมาเรื่อยๆหลังจากการปะทุเกิดขึ้น สู้กับฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ที่ทรมานจากความหิวโหย ทว่าเมื่อไม่กี่เดือนจู่ๆจำนวนซอมบี้ก็ดิ่งลงฮวบและสะพานแห่งหนึ่งที่ถูกทำลายก็ได้รับการซ่อมแซมภายในเวลาข้ามคืน”
ขณะที่เหอเฟิงกล่าวข้อมูลให้ฟัง หลายคนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ
“พวกเรากำลังอยู่ระหว่างกระบวนการ” เหอเฟิงยังคงพูดต่อ นิ้วของเขาค่อยๆ ขยับเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปอีกจุด “นี่เป็นอีกเมืองหนึ่งที่คล้ายคลึงกับเมืองก่อนหน้านี้ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมันมีที่พักของลูกผสมอยู่ มันถูกโจมตีภายในเวลาชั่วข้ามคืนจากพลังที่ไม่รู้จัก และสองวันต่อมาจำนวนซอมบี้ในเมืองก็เหลือเพียงแค่ 1 ใน 4 “
“มีค่ายขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆมั้ย” จู่ๆก็มีคนโพล่งถามขึ้นมา
“ไม่ครับ” เหอเฟิงส่ายหัวจากนั้นก็ชี้ไปที่อีกจุดบนแผนที่ “ดูตรงนี้”