Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 41 ฉันไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอดอยู่แล้ว
- Home
- Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย
- ตอนที่ 41 ฉันไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอดอยู่แล้ว
“ฉันไม่ได้ทำ! แกมันโกหก! แกมันเป็นเดรัจฉานในร่างคน ความจริงแกอยากจะฆ่าฉันใช่มั้ยละ!” ชายคนนั้นตะโกนขึ้นมา
เขากลัวว่าจะมีชะตากรรมเดียวกันกับชายคนนั้นที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ พวกเขาทั้งถูกเสี่ยวหยุนเฟยโกงและหลอกหลวง เขาพยายามจะฆ่าพวกเขาทีละคน!
เสี่ยวหยุนเฟยยิ้มเยาะพลางแสร้งทำแววตาสงสารชายที่เป็นบ้าคนนั่นพร้อมกับมองไปที่ชูฮัน “ดูสิ เขาเป็นบ้าไปแล้ว”
ชูฮันมีท่าทางแข็งกระด้างขึ้นมาทันที มันมีความเยาะเย้ยอยู่ในแววตาของเขา “เพียงแค่ฆ่าเขาใช่มั้ย?”
เพียงประโยคเดียวก็พลันทำให้ทั้งห้องเงียบสนิท
ชายคนนั้นนั่งลงบนพื้นอย่างหมดหวังพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า เขาเป็นบ้าไปแล้ว
“ใช่เลย!” เสี่ยวหยุนเฟยพยักหน้ารับอย่างดีใจพร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง “คุณไม่รู้ใช่มั้ยละว่าถ้าคนที่ถูกซอมบี้ข่วนหรือกัดจะติดเชื้อและคนๆนั้นจะกลายเป็นบ้า กินได้แม้กระทั่งเนื้อคนสดๆ มันต้องเป็นการกลายร่างของซอมบี้แน่ๆ ฉันเคยเห็นแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นมันต้องตาย! ให้ฉันเดินทางไปกับพววนายดีมั้ยเพราะฉันรู้อะไรเยอะแยะ?”
เสี่ยวหยุนเฟยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีสติปัญญาสูงด้วยเพราะเขาสามารถรู้ในสิ่งที่คนอื่นๆยังไม่รู้ได้ก่อน และตอนนี้เขาก็ยังคิดแบบนี้อยู่ เขาคิดว่าชูฮันและคนพวกนี้ไม่รู้ความลับเกี่ยวกับซอมบี้ และเพราะแบบนั้น พวกมันจะถูกเขาหลอกได้ง่ายๆ
เพราะชูฮันก็ดูบ้านนอกๆไม่น่าจะทันคน
เสี่ยวหยุนเฟยมองไปที่ชูฮันขณะหวังในใจว่าชูฮันต้องหลงเชื่อคำพูดของเขาแน่ๆ ชูฮันน่าจะกำลังคิดหนักอยู่ด้วยเพราะเขาได้มอบข้อมูลสำคัญให้กับทุกคน
เสียงหัวเราะของชูฮันดังขึ้นมา เขาไม่คิดว่าเขาจะได้มาเจอกับเสี่ยวหยุนเฟยที่อ่อนแอขนาดนี้ในชาติที่สองนี้ เสี่ยวหยุนเฟยในตอนนี้กับคนที่เขาเจอในชาติที่แล้วช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“แม่งเอ๊ย! โง่ชิบหาย!” สิบแปดสบถพลางจ้องไปที่เสี่ยวหยุนเฟย “พี่ชูรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
เสี่ยวหยุนเฟยเริ่มเดือด ไอ้เด็กบ้านี่อีกแล้ว เขาอยากจะฉีกร่างเด็กสาวคนนี้ออกเป็นชิ้นๆแล้วเอาส่วนที่เหลือที่เขากินไม่หมดไปให้ซอมบี้กินต่อ
ชูฮันสังเกตเห็นอารมณ์เดือดดาลของเสี่ยวหยุนเฟยหากแต่เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาเคยเจอกับอะไรมามากจนไม่ว่าอะไรก็ตามไม่อาจทำให้อารมณ์ของเขาแปรปรวนได้ เขาเพียงนั่งลงบนเตียงและหยิบอาหารในกระเป๋าออกมา แยกมันออกเป็นสองส่วนเพื่อเก็บไว้ส่วนหนึ่ง
“อ่ะนี่ คุณควรรับไป” เขาส่งอาหารไปให้ผู้ชายคนนั่น เสียงของเขาไร้ความรู้สึกใดๆ การกระทำของเขาเป็นเพียงอารมณ์ของชายที่ผ่านอะไรมามากมายและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น
พฤติกรรมของชูฮันทำให้ทุกคนในห้องประหลาดใจ โดยเฉพาะซางจิ่วตี้และสิบแปด
“นายจะไม่ฆ่าฉันเหรอ?” ชายคนนั้นแสดงท่าทางตื่นตัวขึ้นพลางถาม “นายเชื่อที่ฉันพูดมั้ย? ฉันไม่ได้ติดเชื้อนะ!”
“ฉันดูออก” ชูฮันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ซึ่งตรงกันข้ามกับความดีใจตื่นเต้นที่ชายคนนั้นแสดงออก ขณะเดียวกันชูฮันก็ทำให้เสี่ยวหยุนเฟยขายหน้าอีกครั้ง
เขารู้ว่าอะไรเป็นเรื่องจริงและเขาไม่จำเป็นต้องให้เสี่ยวหยุนเฟยมาคอยบอก อีกอย่าง เขารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องซอมบี้มากกว่าคนอื่นๆด้วยเพราะเขาใช้เวลาที่ผ่านมา10ปีในชาติที่แล้วต่อสู้กับพวกมันมาโดยตลอด
“ใช่! พี่ชูรู้ทุกอย่างเพราะฉะนั้นแกไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก!” เป็นสิบแปดอีกครั้งที่แย้งเสี่ยวหยุนเฟย เสี่ยวหยุนเฟยรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขากำลังถูกเหยียบย่ำ ความโกรธพุ่งทะลักขึ้นมาจากอก คนพวกนี้คอยพุ่งเป้าโจมตีเขาเสมอ! ถ้าเขามีปืนอยู่ในมือเขาก็ไม่ต้องการชูฮันหรอก เขาทั้งกลัวทั้งไม่พอใจแต่เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า
“คุณ…คุณพาเราไปด้วยได้มั้ย?” ชายทั้งสองคนมองไปที่ชูฮันทันที พวกเขาอยากจะมีอาหารให้กินเต็มอิ่มและได้รับการคุ้มครอง พวกเขาทนอยู่กับวันอันเลวร้ายแบบนี้ต่อไปไม่ไหว ถึงแม้พวกเขาจะลืมมันไปแล้วตั้งแต่พวกเขารู้สึกราวกับหนีมันพ้นแล้วตั้งแต่ที่ชูฮันยื่นอาหารให้พวกเขา
ชูฮันไม่สนใจสายตาเย็นชาขอเสี่ยวหยุนเฟยที่จ้องมา เขาเพียงหันไปหาชายทั้งสองคนอย่างเงียบๆและพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “ฉันจะไม่พาพวกคุณไปด้วยและคิดซะว่าอาหารที่ให้เป็นความช่วยเหลือจากคนที่เข้าใจถึงความหิวดี”
ต่อมาเขาก็พูดอีกประโยคขึ้นมาด้วยคำเตือนที่ชัดเจนในแววตา “อย่ากินมนุษย์คนอื่นอีก มิฉะนั้นพวกคุณจะเสียใจทีหลัง”
ชายทั้งสองหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้งรวมไปถึงเสี่ยวหยุนเฟยด้วย
การกินเนื้อคนเป็นตราบาปในใจอันใหญ่หลวง จิตใจพวกเขาเกือบจะพังสลาย อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ทำมันไปแล้ว นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
พวกเขาจะสามารถรู้สึกผิดกับความบ้าของตัวเองไปตลอดชีวิตหรือพวกเขาจะกลายเป็นคนชั่วเต็มตัวที่ยินดีจะกินเนื้อคนิอีก…
เสี่ยวหยุนเฟยเลือกข้อหลัง…
มองไปที่ชายสองคนที่กลัวจนหน้าตาซีดเซียว ชูฮันค่อยๆหรี่ตาลงพลางพูด “ตอนนี้ พวกนายไปได้แล้ว”
สิ่งที่ชูฮันพูดทำให้เสี่ยวหยุนเฟยมีความสุขมาก ชูฮันขอให้สองคนนั้นไป…ไม่ใช่เขา แสดงว่าเขาสามารถอยู่ต่อได้ มันเยี่ยมมากเพราะที่นี่มีทั้งอาหารและผู้หญิง มันเป็นสวรรค์ดีๆนี่เอง!
เสี่ยวหยุนเฟยไม่ได้คิดจะปิดบังความสุขของเขา เขานั่งลงบนเตียงทันทีอย่างไม่มีมารยาท ทำท่าทางราวกับว่าเตียงช่างนุ่มซะเหลือเกิน แววตาของเขาเริ่มคิดถึงสมาชิกในกลุ่มอย่างหยาบคาย ราวกับกำลังคิดถึงมูลค่าของสินค้า
เด็กผู้หญิงคนนั่นเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุด เธอต้องเป็นเด็กที่ถูกทิ้งจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ เขาควรจะหาโอกาสฆ่าเธอทิ้งซะ
ไอ้อ้วนนั่นมันโง่เง่าแต่มันก็เชื่อฟังแต่ชูฮัน มันถูกหลอกง่ายจะตาย เขาสามารถหลอกหรือฆ่าไอ้อ้วนนั่นได้ง่ายๆ สำหรับผู้หญิง…เสี่ยวหยุนเฟยมีแววตาสกปรก ตาของเขาจ้องเขม็งที่ร่างกายของซางจิ่วตี้ ขาเรียวยาวของเธอมันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
แม่ง! เขาไม่ได้ลิ้มรสผู้หญิงมานานแล้ว!
สำหรับชูฮันจะไม่เหลือค่าอะไรอีกเมื่อพวกเขาไปถึงเมืองชือ พอถึงตอนนั้นเขาจะทรมานมันให้สาสมกับที่มันกล้ามาตบเขา!
ชายทั้งสองคนมองไปที่ท่าทางของเสี่ยวหยุนเฟย ความไม่พอใจฉายชัดในแววตาของพวกเขา ทำไมเสี่ยวหยุนเฟยถึงอยู่ได้แต่พวกเขาอยู่ไม่ได้?
“พี่ชู ได้โปรดให้ฉันอยู่ต่อเถอะฉันพร้อมทำทุกอย่างให้!”
“ฉันขอร้องให้ฉันอยู่ต่อเถอะ ได้โปรดช่วยฉันด้วย!”
“ไม่” ชูฮันเด็ดขาดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาที่จะไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้ไปกับเขาเนื่องจากคนพวกนี้เป็นพวกกินเนื้อมนุษย์
“แล้วเขาล่ะ?” หนึ่งในนั้นชี้ไปที่เสี่ยวหยุนเฟยอย่างโกรธ “ทำไมเขาถึงอยู่ได้?”
“เฮอะ!” เสี่ยวหยุนเฟยหัวเราะเยาะพลางพูด “ฉันก็เป็นขยะเหมือนกับพวกแกนั่นแหละ” หากแต่คำพูดต่อมาชูฮันทำให้หน้าของเสี่ยวหยุนเฟยเปลี่ยนไปอย่างไว
“เขาเหรอ! ฉันไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอด” ชูฮันยิ้มพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสัย มันดูราวกับเสี่ยวหยุนเฟยกลายเป็นคนตายไปแล้ว
เ*ย! เสี่ยวหยุนเฟยยืนขึ้น ตาของเขาแดงก่ำ ลูกตาของเขาแดงก่ำไปด้วยเลือดเต็มไปด้วยความโกรธของเขา
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?” เขาตะโกน “คุณจะพาฉันไปไม่ใช่เหรอ?”
“เมื่อไหร่กันที่ฉันบอกว่าจะพาคุณไปด้วย?” ชูฮันกำลังอารมณ์ดีมากพลางมองไปที่เสี่ยวหยุนเฟยที่กำลังทำหน้าตาตลก
“เอ่อ คุณกำลังถามฉันว่าเมื่อกี้ฉันพูดอะไรไปใช่มั้ย? โอเค ฉันจะย้ำอีกครั้ง ฉันพูดว่า…”