Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 413
อยู่ในห้องนี้?
ชูฮันสูดลมหายใจเข้าและกวาดสายตามองรอบๆ ภายในบ้านนี่แออัดและเล็กมากจนสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในการมองครั้งเดียว นอกเหนือจากศพคนในบ้านมันไม่มีพื้นที่เหลือให้ใครอยู่ในบ้านได้อีกแล้ว
“เหอะ! แกไม่มีทางหาเจอ” เติ้งเวยป๋อมองชูฮันอย่างยั่วเย้า มุมปากที่แตกยิ้มอย่างกวนอารมณ์ “พลเอก วิวัฒนาการระยะ 3 มาสิ ขอร้องฉัน แล้วฉันจะบอกที่แก—-“
“ปัง!”
อย่างไม่ลังเล มีกำปั้นกระแทกเข้าที่หน้าของเติ้งเวยป๋อ ชูฮันมีแววตาเย็นยะเยือก เมื่อครั้งแรกที่เขามาบ้านหลังนี้เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือด เขาเพียงแค่คิดว่าเติ้งเวยป๋ออาจจะฆ่าคน มันไม่มีอะไรให้พูดมากด้วยเพราะการฆ่าคนในโลกาวินาศไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ใครไม่เคยทำ? แต่ตอนนี้ถ้าสังเกตดีๆจะสัมผัสได้ว่ากลิ่นเลือดมันอบอวลแค่อยู่ในตัวบ้านเท่านั้นและมันมาจากจุดๆเดียว!
“มึง ขอให้แม่มึงตายห่า! ไอ้สั*—“
“ปัง!” อีกหมัดกระแทกเข้า มือของชูฮันสั่นเล็กน้อยขณะจ้องไปที่หน้าของเติ้งเวยป๋อที่บวมช้ำ สายตาของชูฮันจับจ้องไปที่แผ่นกระดานไม้ที่พื้นห้อง เขาจำได้ว่าตอนที่เขามาครั้งที่แล้วเติ้งเวยป๋อนั่งไขว้ขาอยู่บนแผ่นกระดานไม้นี่ไม่ขยับ แม้แต่ตอนที่เขากำลังจะกลับเติ้งเวยป๋อก็ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมาจากตรงนั้น
มีอะไรซ่อนอยู่ภายในแผ่นกระดานไม้กันแน่?
ทันใดนั้นชูฮันก็ไม่กล้าที่จะมองแผ่นกระดานไม้นั่นต่อ เขาหันหน้าไปมองหน้าที่บวมเฉ่งของเติ้งเวยป๋อที่ถูกเขาอัดจนฟันร่วงไปหลายซี่แล้ว จากนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “แกร่วมมือกับลูกผสมและยังกินเนื้อมนุษย์สดๆ เป็นไปไม่ได้แล้วที่ชีวิตนี้แกจะได้เป็นพรสวรรค์ นี่เป็นทางที่แกเลือกเอง”
กริ๊ง! ทันใดนั้นก็มีกริชถูกโยนลงไปตรงหน้าเติ้งเวยป๋อ โดยไม่สนใจตาที่เบิกกว้างด้วยความช็อคของเติ้งเวยป๋อ น้ำเสียงของชูฮันเย็นชาและไร้ความเมตตา “จัดการตัวเองซะ”
“เดี๋ยว! อะไรน่ะ? พรสวรรค์?” เติ้งเวยป๋อช็อคพร้อมกับจ้องตาชูฮันอย่างสับสน “พรสวรรค์ แบบเฉินช่าวเย่ เฉินช่าวเย่ใช่มั้ย?”
“ไม่! ไม่นะ!” เติ้งเวยป๋อมองไปรอบๆอย่างวิตกกังวลและเมื่อเห็นศพมนุษย์รอบๆตัวก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว “ฉันกินไปแค่คำเดียวเท่านั้น แค่คำเดียว ไม่! ฉันจะไม่กลายเป็นลูกผสม! พรสวรรค์สิ! ฉันต้องเป็นพรสวรค์ ฮ่าฮ่าฮ่า! ใช่!”
จู่ๆเติ้งเวยป๋อก็หยิบกริชบนพื้นขึ้นมา กระเด้งตัวขึ้นและตะคอกใส่ชูฮัน “มึงตายซะ! ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนหน้านี้! กูกินเนื้อมนุษย์สดๆไปแล้ว ทำไมก่อนหน้านี้มึงถึงไม่พูด นี่มันเป็นความผิดของมึง!”
ในแววตาของชูฮันไม่มีอารมณ์อะไรแสดงออกเลย เขาไม่รู้ว่าเติ้งเวยป๋อได้กินเนื้อมนุษย์เข้าไปแล้วด้วยซ้ำเขาก็แค่พูดเดาไป แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว
“ปัง!”
ชูฮันเตะเท้าเข้าใส่เติ้งเวยป๋อ ในสายตาของชูฮันการเคลื่อนไหวของเติ้งเวยป๋อไม่มีอันตรายใดๆต่อเขาเลย ไม่ต้องพูดถึงเติ้งเวยป๋อที่อยู่ห่างจากเขาไปหนึ่งเมตรต่อให้อยู่ข้างตัวเขาแต่ด้วยความเร็วแบบนี้มันไม่เป็นภัยต่อเขาอยู่แล้ว
เขาแค่ ผิดหวังอย่างมาก!
เติ้งเวยป๋อที่ปลิวไปตามแรงเตะของชูฮันกระเด็นไปกระแทกเข้ากับแผ่นกระดานไม้อย่างแรงจนมันเปิดออก และในตอนนั้นเองภาพที่อยู่ข้างใต้แผ่นกระดานที่ปิดไว้ก็ถูกเปิดเผยออก
ชูฮันได้เห็นภาพนั้นภายในพริบตาเดียว หลังจากนั้นเขาก็หยุดชะงักหัวใจเต้นระรัวอย่างรุนแรงราวกับจะระเบิดออกมา แม้แต่หวังไคที่อยู่ในมุมก็ยังกลัวจนขนหัวลุก
คนคนนี้ถูกตัดแขนขาออก ร่างซูบผอมจนเหลือแต่โครง มีเลือดไหลท่วมพร้อมกลิ่นคาวคละคลุ้ง หน้าตาก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ลิ้นถูกตัดออก หน้าตาย่ำแย่ มีผมสีดำสนิท!
ภาพที่น่าสยดสยองนี้ให้ความรู้สึกอ่อนแอและความเศร้าโศก คนคนนี้คือฟางหลงและเขาตายแล้ว
เขาถูกทรมานอย่างโหดร้ายโดยมนุษย์กันเอง! โดนทรมานจนตาย!
“ค่อก! ค่อก!” เติ้งเวยป๋อที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นสำลักด้วยความเจ็บ ตอนนี้ซี่โครงเขาน่าจะหักไปหลายซี่ได้แล้ว
เมื่อมองไปที่อดีตเพื่อนร่วมห้องที่ถูกทรมานจนตายและอีกคนที่กลายเป็นขาดมนุษยธรรม ทันใดนั้นจู่ๆชูฮันก็รู้สึกหมดแรง แผนการแรกของเขาคือตามหาพ่อแม่ และค่อยมาซางจิงเพื่อช่วยเพื่อนสองคนทีหลังเพราะมันใช้เวลาสองปีหลังการปะทุกว่าจะเกิดสงครามขึ้น แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะตาลปัตรกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้
แล้วฟานฮงเหวียนล่ะ?
ทันใดนั้นชูฮันก็ตื่นตัว ฟานฮงเหวียนจะยังเป็นเหมือนกับเหอซางมั้ย?
ชูฮันไม่สนใจจะดูเติ้งเวยป๋ออีก เขาหมุนตัวเดินออกไปจากบ้านและมองออกไปที่ท้องฟ้าสีเทาด้านนอก เขารู้สึกหัวใจเหมือนถูกกดทับ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับโลกนี้กัน!
“หัวหน้า?” เฉินช่าวเย่ร้องขึ้นมาทันที
ชูฮันเหลือบมองเฉินช่าวเย่ สายตากวาดมองไปที่ไหล่ของเฉินช่าวเย่ “มือไม่หักเหรอ?”
“โอ้ ไม่เป็นไร!” เฉินช่าวเย่ตอบ
พ้ะ!
ปืนพกธรรมดาถูกยัดใส่มือเฉินช่าวเย่ทันที ตามมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ของชูฮัน “มีคนอยู่ในบ้าน นายจัดการซะ แต่ไม่ต้องบอกผลลัพธ์ให้ฉันรู้”
เฉินช่าวเย่มองปืนที่ชูฮันส่งมาให้ ไม่ต้องบอกผลลัพธ์แต่ส่งปืนมาให้ หัวหน้าหมายความว่ายังไง?
ชูฮันไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของเฉินช่าวเย่และเดินหนีไปทันที
ตอนนี้ฝูงชน ณ จุดเกิดเหตุได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ทหารที่ยืนประกบอยู่ทั้งสองฝั่งเมื่อเห็นชูฮันที่กำลังเดินเข้ามาก็ตื่นเต้นและรีบแสดงท่าวันทยาหัตถ์พร้อมตะโกน ‘พลเอก’ ดังอย่างพร้อมเพรียง หากชูฮันกลับไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะอยู่ที่นี้ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว
“ปัง!” มีเสียงปืนดังตามหลังมา
มันไม่ได้ดังสนั่นด้วยเพราะตรงนี้มีเสียงดังวุ่นวาย มันเป็นแค่เสียงปืนพกทั่วไปแต่ชูฮันที่เป็นถึงวิวัฒนาการระยะ 4 สามารถได้ยินมันชัดเจน เขาก้าวเท้าก้าวใหญ่เดินต่ออย่างไม่คิดจะหันหลังกลับ
หมวกทหารได้ปิดบังหน้าเขาไปกว่าครึ่งมันปิดดวงตาดำสนิทและสายตาที่เย็นชาของเขาไว้ ต่อให้เติ้งเวยป๋อจะกินเนื้อมนุษย์และถึงแม้เติ้งเวยป๋อจะร่วมมือกับลูกผสม ชูฮันก็มีหนทางเป็นล้านที่จะปล่อยให้เติ้งเวยป๋อมีชีวิตรอดต่อไป เขายังหาเหตุผลได้อีกเป็นหมื่นที่จะไม่ฆ่าเพื่อนทิ้ง
แต่เมื่อเขาได้เห็นร่างของฟางหลง ชูฮันก็รู้ได้ทันทีว่าความคิดก่อนหน้านี้ของเขาเป็นเรื่องตลก!
“หยุดตรงนั้น นี้มันเกิดอะไรขึ้นที่นี้!” ทันใดนั้นมันก็เสียงดังมาจากข้างหน้าชูฮัน เจ้าหน้าที่ที่แต่งตัวอย่างเรียบร้อยรีบมุ่งหน้าและทันใดนั้นเขาก็ได้สบตากับชูฮัน “ใช่! นี่คือพลเอกชูฮันใช่หรือไม่? ท่านเข้ามาในพื้นที่ผู้ลี้ภัยนี้ได้ยังไง?”
คนคนนี้คือร้อยเอกเหมิงไซ กัปตันของพื้นที่ผู้ลี้ภัยในค่ายซางจิง เขาอายุ 30 ปีและมีอำนาจไม่น้อยเลยทีเดียว
ชูฮันเพียงเหลือบตามองเหมิงไซด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เหมิงไซเข้ามาขัดขวางชูฮันไม่ให้เดิน ใบหน้าของเหมิงไซดูวิตกกังวลหากสายตากลับแสดงออกถึงเจตนาที่ไม่ดี “ท่านพลเอกชูฮัน ถึงแม้ท่านจะเป็นพลเอก แต่กฏหมายและข้อบังคับภายในพื้นที่ผู้ลี้ภัยอยู่ภายใต้การควบคุมของผม ผมได้ยินคนพูดกันว่ามีลูกผสมอยู่ที่นี้? เพื่อที่จะสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้และเพื่อป้องกันไม่ให้พลเอกชูฮันถูกเข้าใจผิดว่าร่วมมือกับลูกผสม กรุณาไปดูการสืบสวนด้วยกันกับผม”
“โอ้ย ท่าน!” ปัง!
ชูฮันชกหน้าเหมิงไซทันทีจนหมิงไซกระเด็นปลิวไกลออกไปห้าเมตรและกระแทกเข้ากับผนังกำแพงด้านหลัง
คนกำลังอารมณ์ไม่ดี!
ตรวจสอบมึงสิ เข้าใจผิดมึงสิ!