Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 42 ฉันจะเอาแกไปป้อนให้ซอมบี้กิน
“ฉันพูดว่า…ฉันจะไม่ปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่”
ชูฮันยกมุมปากขึ้นยิ้ม แววตาของเขาเปลี่ยนไป ความกระหายเลือดฉายชัดขึ้นในแววตา “ฉันจะตัดแกออกเป็นชิ้นๆและเอาไปให้ซอมบี้กิน”
มันไม่ใช่แค่ความคิดหรือแผนเท่านั้น แต่เขาจะทำมันจริงๆ
ประสบการณ์ที่ผ่านมาในชาติที่แล้วของเขามันยากมากที่จะลืมได้ ไม่ใช่แค่เสี่ยวหยุนเฟยแต่มันรวมถึงคนอื่นๆด้วย เขาจะไม่ยอมให้ปล่อยศัตรูรอดไปได้ เขาจะตามหาพวกมันทีละคนและแก้แค้นกับความทรมานที่พวกมันเคยทำกับเขาไว้กลับไปเป็น100เท่า!
คนพวกนี้ทั้งโหดร้ายและป่าเถื่อน เพราะฉะนั้นมันจะดีกว่าถ้าเขาฆ่าพวกมันซะตั้งแต่ตอนที่ยังมีโอกาสอยู่!
เขาไม่สามารถปล่อยให้เสี่ยวหยุนเฟยมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้อีกในโลกนี้ เขาโชคดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับเสี่ยวหยุนเฟยที่นี้ เพราะถึงไม่ว่ายังไงเขาก็จะหาทางฆ่าเสี่ยวหยุนเฟยให้ได้อยู่ดีต่อให้ไม่ได้มาเจอกันที่นี้ก็ตาม
ตึง!
เสี่ยวหยุนเฟยกลัวจัด เขาพยายามจะนั่งลงบนพื้นและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ชูฮันพูดที่ว่า…จะสับเขาเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปป้อนให้ซอมบี้กิน?
เสี่ยวหยุนเฟยตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก พยายามจะคิดหาทางออก เขาเคยเป็นคนชนชั้นสูง
มีเงินมากมายและมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี เขามีความสัมพันธ์กับคนมากมาย! ทำไมเขาถึงมีจุดจบแบบนี้? เขาควรจะอยู่ในฐานทัพทหารที่เมืองชือ เขาควรจะได้ใช้ทรัพยากรที่คนอื่นๆไม่รู้ว่ามีอยู่อย่างเต็มที่ กินอาหารจำนวนมากเท่าไหร่ก็ได้ มีอำนาจที่จะได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ เขาควรจะได้มีชีวิตที่ดี
แม่ง… ทำไมเขาถึงเข้ามาในโรงแรมนี้? ทุกอย่างมันเป็นความผิดของไอ้โง่นั่น มันไม่ควรวิ่งเข้ามาในโรงแรมนี้! เ*ย! เขาควรกินเนื้อมนุษย์มากกว่านี้เพื่อคลายความโกรธลง!
เสี่ยวหยุนเฟยเริ่มโกรธจัดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มค่อยๆเสียการควบคุมตัวเอง
คำพูดของชูฮันทำให้ชายสองคนที่เคยไม่พอใจในตอนแรกตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก พวกเขามองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ชูฮันเลวร้ายซะยิ่งกว่าเสี่ยวหยุนเฟยที่เสแสร้งเป็นคนใจดีเสียอีก ความกดดันที่มีมากเกินไปที่จะรับไหว เขาต้องมีประสบการณ์นองเลือดมากโชกโชนแน่ๆ!
“พวกนายควรจะไปได้ยัง?” ชูฮันถามพลางจ้องที่ชายทั้งสองที่ยังคงยืนนิ่งงันอยู่
“ใช่แล้ว! เรากำลังจะไป! เดี๋ยวนี้เลย!”
ชายทั้งสองคนรีบวิ่งออกไปพร้อมกับอาหารที่ชูฮันให้ไว้ พวกเขาไม่อยากจะอยู่ในโรงแรมนี้ต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว เพราะชูฮันเป็นปีศาจดีๆนี่เอง ซางจิ่วตี้ขมวดคิ้วแน่น ฟังจากบทสนทนาระหว่างชูฮันและเสี่ยวหยุนเฟย เธอสรุปได้ว่าพวกเขารู้จักกันมาก่อน ชูฮันน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแต่เขาเรียนรู้ทักษะการต่อสู้พวกนี้มาจากไหนกัน? ไม่ว่าจะทั้งทักษะหรือความเฉลียวฉลาด หรือความคุ้นเคยกับปืนของเขา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คนลักษณะและอายุแบบเขาควรจะมี
ภายในห้องไม่ได้แออัดจนแน่นอีกต่อไป ไม่ใครเปิดปากขึ้นพูด บรรยากาศในห้องให้ความรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก
เสี่ยวหยุนเฟยยังคงนั่งนิ่งอยู่บนพื้นห้อง ตกใจอย่างมากกับสิ่งทีชูฮันพูด มีเพียงตาของเขาเท่านั้นที่ขยับอยู่ เขาจะไม่ยอมนั่งนิ่งอยู่ที่นี้รอความตาย ไม่มีทาง! เขาไม่ยอม!
ชูฮัน…เขาจะจำชื่อนี้ไว้ เขาจะตามหามันให้เจอเมื่อเขาหนีออกไปได้และไปถึงเมืองชือ เขาจะจับมันมาทรมานด้วยวิธีที่โหดร้ายทีสุดที่เขารู้! เขาจะตัดเนื้อมันออกมากินทีละชิ้น ราดไวน์ลงบนลูกตาของมัน เขาจะข่มขืนผู้หญิงของมันแล้วก็โยนลงไปกลางถนน เขาจะขังพ่อแม่มันไว้ข้างนอกประตู เหมือนกับหมา!
ทันใดนั้น เขาคลานลงบนพื้นพร้อมกับจับขวานในมือไว้ด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาได้ตัดคนออกเป็นชิ้นๆหลายๆครั้งไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก ความตื่นเต้นทำให้เลือดในกายเขาไหลพล่านยามที่ขวานตัดผ่านเนื้อคน มันทำให้เขาเกิดความกระหายอยากกินขึ้นมา
“อ๊ากกก—-” เสี่ยวหยุนเฟยตะโกนขึ้นมา วิ่งพุ่งออกมาพร้อมกับขวานในมือ
เขาเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครคิดได้ว่าเขาจะทำแบบนี้ ผู้หญิงร้อนแรงคนนั่น…ซางจิ่วตี้อยู่ใกล้เขามากที่สุด เขาจะจับเธอมาเป็นตัวประกัน จากนั้นเขาจะได้บังคับให้ชูฮันมอบอาหารทั้งหมดมาให้แล้วเขาก็จะหนีออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
เขาน่าจะพาซางจิ่วตี้มาสนุกด้วยกันระหว่างทางไปเมืองชือ!
แผนการของเขาช่างสมบูรณ์แบบ…แต่ความเป็นจริงช่างโหดร้ายยิ่งนัก
ชูฮันอ่านแผนการของเสี่ยวหยุนเฟยออกทั้งหมด เขาทำเพียงนั่งสบายๆรอเวลาที่เสี่ยวหยุนเฟยหยิบขวานขึ้นมาและวิ่งเข้าไปหาซางจิ่วตี้…
ปึง!
ขวานแหลมคมพร้อมกับความรุนแรงของมันฟันลงมาขวางทางเสี่ยวหยุนเฟยอย่างรวดเร็ว ขวานนั้นทั้งหนักและใหญ่มากกว่าขวานทั่วไปถึง2เท่า มันมีรอยเลือดสีดำและน้ำเหนียวๆเหม็นเน่าติดอยู่ ดูไม่ออกว่าเป็นเลือดของซอมบี้หรือของคนกันแน่
ชูฮันถือขวานไว้ด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับเอียงศีรษะพูด
“อย่าเปลืองพลังงานไปเปล่าๆเลยจะดีกว่า”
จากนั้น…
ปัง!
ชูฮันเพียงขยับข้อมือเบาๆ ก็ทำให้ขวานที่เขาถือไว้ตัดข้อมือเสี่ยวหยุนเฟยออกอย่างง่ายๆ!
ขวานนั้นมีน้ำหนักมาก ชูฮันเพียงแค่แกว่งขวานเบาๆหากแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้ด้วยเพราะชูฮันมีความแข็งแรงระดับ1
ปึง!
เสียงขวานที่เสี่ยวหยุนเฟยถือไว้ในมือข้างซ้ายหล่นลงกระทบพื้น
อาการปวดอย่างฉับพลันจากข้อมือลามไปทั่วทั้งแขน หน้าผากชื้นไปด้วยเหงื่อ
“อ๊ากกก—–อ๊ากกกก !!”
เสี่ยวหยุนเฟยล้มกลิ้งลงไปกับพื้นพยายามกุมข้อมือของตัวเอง รู้สึกราวกับกระดูกหัก หากไม่ใช่ เพราะความจริงมันถูกทุบละเอียดจนเป็นเศษเล็กเศษน้อย!
ซางจิ่วตี้ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสนใจกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า เธอเชื่อว่าเสี่ยวหยุนเฟยจะไม่สามารถแม้แต่แตะต้องตัวเธอได้เพราะชูฮันอยู่ตรงนี้
เธอรีบเก็บข้าวของทันทีที่เริ่มหายไข้ พวกเขาอยู่ที่นี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว มันดีกว่าที่จะรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด เพราะพวกเขาเจอถุงยังชีพและหาอาหารกันได้แล้ว
สิบแปดและเฉินช่าวเย่กำลังพูดคุยกันอยู่พร้อมกับกินอาหารไปด้วย ราวกับไม่รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ พวกเขาก็เหมือนกับซางจิ่วตี้ที่ไม่ได้สนใจอะไรเสี่ยวหยุนเฟย เพราะเขาไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาอีกตั้งแต่ชูฮันอยู่ตรงนี้
“ไปกันเถอะ” ซางจิ่วตี้เก็บของที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ลืมอะไร
ชูฮันมองซางจิ่วตี้พลางพูด “ความจริงเราอยู่ที่นี้ต่ออีกคืนก็ได้นะถ้าเธอยังมีไข้อยู่”
“ไม่ต้อง” ซางจิ่วตี้ไม่ให้โอกาสชูฮันได้พูดอะไรอีก เธอเพียงโยนกระเป๋าใบใหญ่ไปให้เฉินช่าวเย่พลางยิ้มให้ชูฮัน “ฉันสบายดี ฉันรู้ว่านายกำลังรีบไปตามหาพ่อแม่ของนายอยู่”
“ขอบคุณที่เข้าใจ” ชูฮันพยักหน้ารับ หมุนตัวกลับมาหิ้วเสี่ยวหยุนเฟยขึ้น ราวกับกำลังยกถุงกระสอบทราย
เสี่ยวหยุนเฟยยังคงแหกปากตะโกนร้องพร้อมกับกลิ้งไปมา เหงื่อไหลโชกเต็มหน้าผาก เตะอากาศและบิดตัวไปมาอย่างเจ็บปวด ถึงแม้เขาจะถูกชูฮันหิ้วตัวขึ้นมาลอยอยู่แล้วก็ตามแต่เขาก็ยังไม่สามารถจะแตะต้องตัวชูฮันได้ด้วยซ้ำ
ทุกคนออกจากโรงแรมไป ชูฮันหยิบเสี่ยวหยุนเฟยขึ้นมาด้วย เฉินช่าวเย่ไปเติมน้ำมันใส่G55 และไปจอดรอตรงใกล้ๆกับทางออกของเมือง พวกเขาตัดสินที่จะเจอกันตรงหัวมุม และรอชูฮันมาก่อน จากนั้นพวกเขาถึงค่อยออกเดินทาง
ชูฮันใช้มือข้างซ้ายหิ้วเสี่ยวหยุนเฟยไว้พร้อมกับถือขวานไว้ด้วยมือขวา ตอนนี้เขาอยู่นอกอาคารที่พักอาศัยที่มีซอมบี้มากมายเดินวนไปมาอยู่รอบๆ พวกมันคำรามดังสนั่นทันทีที่มองเห็นพวกเขาจากที่ไกล
เขารู้ว่าพวกยังมีผู้รอดชีวิตบางส่วนอยู่ในเมืองนี้ หากเขาไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้นทีจะช่วยทุกคนที่เจอ แต่เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้รอดชีวิตเท่าที่ทำได้
เพราะเรามันก็เหมือนๆกัน!