Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 440
มือของชูฮันที่ถือปืนไว้จู่ๆก็สั่นขึ้นมา เขาขยับริมฝีปากทำท่าจะพูดอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็พูดออกมา “ฉันชอบกินขนมปังเนื้อ”
อะไรน่ะ?
ติงเซวมองไปที่เฉินช่าวเย่ด้วยความตกใจ รู้สึกสับสนอย่างมาก…นี่มันเป็นคำตอบของคำถามเธอตรงไหน?
เฉินช่าวเย่กังวลอย่างมากจนตัวสั่นเพราะจู่ๆติงเซวก็ถามเขาขึ้นมา มันทำให้เฉินช่าวเย่ทำอะไรไม่ถูก
ฝูงซอมบี้พุ่งทะลักเข้ามาจนเต็มล้นถนน คนที่เชื่องช้าก็ถูกฝูงซอมบี้ที่พัดเข้ามากลืนกินหายไปไม่เหลือแม้กระทั่งกระดูก เช่นเดียวกับซอมบี้บางตัวที่ก็ถูกฆ่าตาย ทุกอย่างเละเทะเต็มไปด้วยเนื้อและเลือด
ผู้คนวิ่งถอยหนีกันอย่างสิ้นหวัง ท่ามกลางความโกลาหลที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มีคนเหลือชีวิตรอดกี่คนและกี่คนที่ถูกซอมบี้ฆ่า
เฉินเสี้ยนกาวมองไปที่กลุ่มทหารสองร้อยนายจากซางจิงที่กำลังแตกตื่นและอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่ “ใครที่มีปืนก็ยิงปืนสิ ส่วนใครไม่มีก็ไปที่รถหยิบอาวุธที่ด้านหลังรถออกมา อย่าเบียดอัดเข้าไปในรถ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ตายกันหมด!”
“แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้ามาออกคำสั่งกับพวกฉัน?!”
“ลงไปซะ รถนี้เป็นทรัพย์สินของซางจิง ให้พวกเราขึ้นไปเดี๋ยวนี้!”
คำพูดของเฉินเสี้ยนกาวกลับกลายเป็นสร้างความไม่พอใจให้แก่เหล่าทหารและยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นไปกว่าเดิมอีกจนเผยส่วนที่ชั่วร้ายที่สุดของมนุษย์ที่แฝงอยู่ตามธรรมชาติออกมา
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น จากนั้นรถที่เฉินเสี้ยนกาวอยู่ก็สั่นไปมาอย่างแรงจนแทบทรงตัวไม่อยู่ มือปืนที่เฝ้าอยู่บนหลังคารถทนไม่ไหวจนผลัดตกลงมา
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงยิงปืนรัวดังขึ้น
“ระเบิดยางรถของพวกมัน! ดูสิว่าพวกมันยังจะหนีเอาตัวรอดไปได้อีกมั้ย?”
“ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก ให้พวกเราขึ้นไปเดี๋ยวนี้!”
ปืนที่มีไม่เอาไปใช่ฆ่าซอมบี้แต่กลับเอามายิงระเบิดยางรถที่คนของเฉินเสี้ยนกาวอยู่แทน!
เฉินเสี้ยนกาวจ้องไปที่กลุ่มทหารตรงหน้าอย่างโกรธจัด ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้คนพวกนี้ยังจะมาระเบิดยางรถอีกเนี่ยนะ ท่ามกลางรถจี๊ปที่มี 20 คัน พวกเขา 80 คนเบียดกันอยุ่ภายในรถแค่ 4 คัน และให้รถที่เหลือกับทหารพวกนั้นแต่พวกนั้นยังไม่พอใจเพราะหาทางหนีไม่ได้เลยมาระเบิดยางรถพวกเขา นอกจากจะไม่ฟังคำแนะนำในการเอาตัวรอดที่เขาบอกไปแล้ว ยังจะลากพวกเขาให้ไปตายด้วยอีกเนี่ยนะ?
พวกมันใช่คนรึเปล่า?!
ชูฮันที่ยังคงอยู่ในรถจี๊ปเอามือเช็ดขวานไปเรื่อยๆพลางมองไปที่เหตุการณ์ด้านนอก ถ้าผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงรู้ว่าทหารที่ตัวเองส่งมาเป็นแบบนี้คงจะตะลึง ทหารทำตัวเป็นศัตรูกับผู้คนซะเอง? นอกเหนือจากกลุ่มทหารที่มีหลี่บี๋เฟิงเป็นคนนำต่อสู้ ไม่มีใครอื่นคิดจะต่อสู้กับฝูงซอมบี้เลย
รถจี๊ป 4 คันหยุดชะงักพร้อมๆกัน พวกเขามองไปที่ยางรถ…
“สละรถทิ้ง!” เฉินเสี้ยนกาวออกคำสั่ง “ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังรถและหยิบอาวุธมาสู้กับซอมบี้ซะ!”
พวกเขาสูญเสียพาหนะสำหรับการเดินทางไปแล้ว มันจึงเหลือแต่การหนี ทุกคนรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากและทันใดนั้นเฉินเสี้ยนกาวก็สังเกตเห็นว่ารถของชูฮันไม่ได้ขยับไปไหนเลย แถมยังมีหลิวยู่ติงยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกรถพร้อมกับศพซอมบี้ที่นอนรายล้อมอยู่ที่เท้า
ตราบใดที่ชูฮันยังอยู่ที่นี้ มันก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!
ผู้คนรีบลงมาจากรถและพยามซ่อนตัวโดยใช้ตัวรถเป็นกำบังพร้อมกำอาวุธในมือกันแน่น ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้พวกเขากำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับฝูงซอมบี้อยู่ละก็ พวกเขาอยากจะพุ่งเข้าไปจัดการกับไอ้พวกทหารจากซางจิงซะเดี๋ยวนี้
ความเร็วของฝูงซอมบี้รวดเร็วอย่างมาก พวกมันใช้ปากกว้างใหญ่และเคี้ยวแหลมคมกัดทำลายทุกอย่าง ทั้งถนนเละเทะไปหมดและถูกกลืนกินด้วยฝูงซอมบี้สีดำจนมองอะไรไม่เห็น
“ฆ่ามันให้ตาย!”
เฉินเสี้ยนกาวตะโกนกู่ก้องออกคำสั่งโดยอาศัยรถเป็นที่กำบัง ทุกคนต่างยื่นอาวุธออกมาเตรียมต่อสู้
และในขณะที่ทุกคนเริ่มเผชิญหน้ากับซอมบี้ กลุ่มทหารเล็กๆที่ยืนเร่ร่อนบนถนนก็ไม่รู้จะต้องไปตรงไหน พวกเขาจึงวิ่งเข้าไปเบียดอัดรวมตัวกับกลุ่มของเฉินเสี้ยนกาวทั้งๆที่ยังคงใส่ชุดเครื่องแบบทหารซางจิง ในมือทุกคนถือปืน สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
ทหารกลุ่มเล็กๆนี้เป็นกลุ่มแรกในทหาร 200 นายที่ต่อสู้ พวกเขาวิ่งเข้ามาหลังจากได้เห็นพวกพ้องของตัวเองยิงรถของกลุ่มเฉินเสี้ยนกาวจนต้องสละรถ ไม่ใช่ว่าทหารทั้ง 200 นายจะไร้ประโยชน์และเป็นขยะกันซะหมด มันยังมีกลุ่มทหารที่ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงส่งมา เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและจริงแท้ที่สุดสำหรับชูฮัน
ความยุ่งเหยิงของทหารกลุ่มนี้ก็คือพวกเขาไม่มีผู้นำ เมื่อตอนที่ฝูงซอมบี้ปะทุออกมา พวกเขามีประสิทธิภาพและความสามารถที่จะต่อสู้ได้อย่างดุดันทว่าไม่มีใครเป็นผู้นำออกคำสั่งพวกเขา และในตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินการสั่งการของเฉินเสี้ยนกาวพวกเขาจึงเข้าร่วมทันที พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเสียหน้าหรืออะไร พวกเขาต้องการมีชีวิตรอดและการสั่งการของเฉินเสี้ยนกาวก็ดูเป็นประโยชน์จริงๆ
เฉินช่าวเย่ที่ยืนคุ้มกันติงเซวอยู่จู่ๆก็มีทหารวิ่งเข้ามาหาเขา คนคนนั้นคือซูเซียงหลง เขาเป็นชายหนุ่ม ด้านหลังแบกดาบขนาดใหญ่มา ขณะที่ปืนในมือยังคงกราดยิงใส่ซอมบี้ตรงหน้าไปด้วย พร้อมกับพูดเปิดประโยคที่แสดงความไม่พอใจต่อเฉินช่าวเย่ออกมา “เฉินช่าวเย่ ทำไมท่านไม่ยิง?”
ทำไมถึงถามคำถามกับเขาอีกแล้ว!
“วิวัฒนาการมุ่งหน้าขึ้นไปสู้! มันมีซอมบี้ระยะสูงมากเกินไป มายิงปืนแบบนี้มันเสียเปล่า” เฉินช่าวเย่พูดอย่างจริงจัง “แล้วส่งปืนให้คนธรรมดาแทน ให้คนของเฉินเสี้ยนกาวยิงปืนต้านซอมบี้ไว้! ส่วนวิวัฒนาการเข้าไปต่อสู้!”
กลุ่มทหารกลุ่มเล็กๆนี้ประหลาดใจไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็ส่งปืนและกระสุนให้คนของเฉินเสี้ยนกาวและพุ่งตัวออกไปต่อสู้กับซอมบี้โดยไม่มีอาวุธ
เฉินเสี้ยนกาวและคนอื่นๆต่างตะลึงไปชั่วขณะ หากไม่นานพวกเขาก็รู้สึกซาบซึ้ง
ซูเซียงหลงที่ยืนถัดจากเฉินช่าวเย่หันหน้ากลับไปมองอย่างตกใจขณะที่ปืนในมือยังคงกราดยิงอยู่ เขาจ้องหน้าเฉินช่าวเย่ “ท่านเฉิน ที่ท่านสั่งมันสมเหตุสมผลสุดๆ!”
เฉินช่าวเย่เลียริมฝีปากพลางเหลือบตาจ้องไปที่รถของชูฮัน…หัวหน้าของเขายังคงไม่เคลื่อนไหว
ชูฮันที่อยู่ในรถจี๊ปเอามือลูบคางพลางขบคิด สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คนที่เขาสามารถนำมาเป็นคนของตัวเองได้ท่ามกลางทหาร 200 นายนั้นในที่สุดก็เปิดเผยตัวออกมา
“ผู้บัญชาการมู๋ขี้งกชะมัด!” เสียงของหวังไค้ดังขึ้นในหัวชูฮัน “ฉันพึ่งนับเสร็จ มันมีแค่ 20 คนเท่านั้นเองที่ใช้งานได้ จากทั้งหมด 200 คน มีเพียงแค่ 20 เท่านั้นที่มีประโยชน์จริงๆ?”
ชูฮันพยักหน้า “แม่ง! ถ้ารู้แบบนี้ฉันน่าจะเพิ่มปริมาณวัสดุไปอีกเท่าตัวเพราะต้องให้คนเป็นร้อยที่ไร้ประโยชน์กินใช้แบบเสียเปล่า!”
ท่ามกลางความโกลาหล ติงเซวก็คว้าปืนมาจากมือซูเซียงหลง “เอาปืนให้ฉัน!”
จากนั้นเธอก็กระโดดไปที่ด้านหลังของตัวรถ กระแทกปืนเล็งไปที่ฝูงซอมบี้และเริ่มกราดยิง
ซูเซียงหลงที่ตอนแรกอยากจะเอ่ยถาม ‘เธอยิงปืนเป็นเหรอไง?’ ต้องรีบเปลี่ยนคำถามแทบไม่ทัน “เธอไม่เอาปืนของท่านเฉิน แต่กลับเอาปืนของฉัน? แล้วท่านเฉิน…ท่านจะไม่ยิงเหรอไง?”