Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 444
“นายมีดาบที่ดี!” หลี่ชวนมีความอิจฉา
ซูเซียงหลงหันมามองจากนั้นก็ออกตัวพุ่งเข้าไปร่วมต่อสู้กับหลี่ชวน หากยังคงมีความสงสัยค้างอยู่ในอก “พวกนายกล้ากันเกินไป คนแค่สิบคนกล้าจะฆ่าซอมบี้ระยะ 2?”
“ง่ายๆ!” หลี่ชวนมีสีหน้าภาคภูมิ “ซอมบี้ระยะ 2 ในบริเวณนี้ก็เปรียบเสมือนกับนก พวกมันถูกรบกวนได้ง่าย ถ้ารู้วิธีจัดการมันมันก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบ ง่ายจะตาย!”
“ง่ายกะผี!” ซูเซียงหลงมึนงง พลางถามต่อทันที “โกงกันรึเปล่า? นี้ล้อกันเล่นเหรอไง?”
“ฟังนะ!” หลี่ชวนโจมตีใส่ซอมบี้ไปพร้อมกับพูดกับซูเซียงหลงไปด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “ซอมบี้ระยะ 2 ไม่มีการมองเห็น ไม่มีสติปัญญา ไม่มีความคิด ไม่มีความพลังมากมายอะไรขนาดนั้น พวกมันอาศัยแค่เสียงและกลิ่นเป็นปัจจัยหลัก อย่าไปตกหลุมมัน มันเป็นการเสียผลประโยชน์ของเราเปล่าๆในฐานะสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่า!”
การหาจุดบกพร่องของซอมบี้และโจมตีมันคือวิธีการต่อสู้ที่ชูฮันทำมาตลอดและภายใต้การชี้แนะของชูฮัน เหล่าคนที่รอดชีวิตมาจากสงครามเมืองตงก็ได้สลักวิธีการต่อสู้แบบนี้เข้าไปถึงรากกระดูกตัวเองแล้ว
ซูเซียงหลงรู้สึกราวกับได้เปิดประตูโลกใหม่ การต่อสู้แบบนี้ล้ำหน้าและแปลกใหม่เกินไป เพราะงั้นเขาเลยถามอีกครั้ง “นี่เป็นกลยุทธ์ของใคร? สุดยอดมาก!”
“เฮ้ นายคิดว่าใครล่ะ?! แน่นอนว่า—-” หลี่ชวนและขวานของเขาสับเข้าที่หัวซอมบี้ จากนั้นก็ปาดเลือดสีดำที่เลอะหน้าออก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิ “หัวหน้าชูฮัน ไม่สิ แผนการรบของท่านชูฮัน!”
“พลเอกชูฮัน?! ฉันไม่รู้เลย? เขาสอนพวกนายตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาไม่ได้อยู่ในรถตลอดตั้งแต่แรกเหรอไง?” ซูเซียงหลงยิงคำถามติดต่อกันสี่คำถาม
หลี่ชวนที่ถูกถาม หันกลับมามองหน้าซูเซียงหลงอย่างประหลาดใจ “การต่อสู้ที่สงครามเมืองแห่งความตายไง ข่าวมันแพร่กระจายไปทั่วทั้งซางจิง นายไม่รู้เหรอไง?”
“ฉัน? ฉันไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสงครามเมืองตง แต่มันจะดีมากถ้านายช่วยบอกฉัน” ซูเซียงหลงเริ่มสนใจ
“มันซับซ้อนเกินกว่าจะพูดได้” หลี่ชวนทีสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้ “นายแค่ต้องจำไว้ว่าพวกเราทุกคนเรียนรู้กลยุทธ์มาจากตอนนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เรียนรู้ มันคือการสูญเสีย!” จู่ซูเซียงหลงก็ตะโกนขึ้นมา จากนั้นเขาก็ถามอีกครั้ง “กลยุทธ์การฆ่าที่กำลังอยู่นี้ก็ถูกสอนตอนนั้นเหมือนกันงั้นเหรอ?”
“ไม่ ไม่” หลี่ชวนมองซูเซียงหลงด้วยสายตาลึกลับ “ท่านชูฮันพึ่งออกคำสั่งไม่ใช่รึไง? นายไม่ได้ยินเหรอ?”
ซูเซียงหลงตะลึง สายตาพลันว่างเปล่า “นายหมายถึง ก่อนหน้านี้นายก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร คำสั่งของพลเอกชูฮันที่ทั้งกระชับและรวบรัดก่อนหน้านี้ พวกนายสามารถเข้าใจสิ่งที่พลเอกหมายถึงได้ทันทีเลยเหรอ? แถมไม่ลังเลที่จะลงมือทำเลยสักนิด?”
ชูฮันพึ่งออกคำสั่งไปแค่สองคำสั่งเท่านั้น อันแรกคือรวมทีมและอีกอันคือรวมตัวกันเพื่อฆ่า
อันที่จริง ทั้งสองคำสั่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ทุกคนก็กำลังทำอยู่ในขณะนี้ แค่ว่าคำพูดของชูฮันนั้นน้อยนิดและมันไม่มีคำอธิบายหรืออะไรให้วิเคราะห์ เป็นไปได้อย่างไรที่คนธรรมดาไม่แม้แต่ลังเลที่จะลงมือต่อสู้ทันที ทุกคนลงมือปฏิบัติทันทีอย่างไม่ลังเล ไม่มีการสงสัยหรือลังเลเลยสักนิดว่าตัวเองจะเป็นจะตายหรือไม่?
“ใช่ มันทำไม?” หลี่ชวนมีสายตาดิ่งลึก ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้น “ทหารวิวัฒนาการควรมีกัปตันคุมทีม แต่ฉันคิดว่าจิตใจของนายไม่ยืดหยุ่นเท่าไหร่และมีปัญหาเยอะเกินไป อีกทั้งดูจะขี้เกียจ นายไม่สามารถเป็นกัปตันได้ ดังนั้นฉันจะทำเอง!”
เฮ้!
ซูเซียงหลงหันหน้ากลับมามองหลี่ชวนพร้อมกับจัดการซอมบี้ข้างๆ เขาไม่เคยต่อสู้หรือข้องแวะกับชูฮันมาก่อน เขาเลยไม่รู้กฏระเบียบของชูฮัน
สถานการณ์ที่ซูเซียงหลงกำลังเผชิญอยู่นั่นก็กำลังเกิดขึ้นกับทหารวิวัฒนาการที่ประจำอยู่ในทุกทีมเช่นกัน มันเป็นครั้งแรกสำหรับเหล่าทหารวิวัฒนาการที่เจอกับวิธีการแปลกๆและกลยุทธ์ในการรบแบบนี้ การที่คนธรรมดาหลายคนกล้าที่จะพุ่งเข้าไปสู้กับซอมบี้ระยะ 2 อย่างไม่เกรงกลัว ปล่อยให้พวกเขายืนอึ้งพร้อมกับอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับพลเอกชูฮัน…ราวกับว่าคนพวกนี้ไม่ได้มองว่าซอมบี้คือศัตรูที่น่ากลัวอะไรเลย!
เปรียบเทียบกับการฝึกซ้อมหนักหน่วงอันตรายและกลยุทธ์ที่ใช้ต่อสู้กับซอมบี้ของกองทัพแล้ว วิธีของชูฮันนั้นน่าทึ่งอย่างมากจนเหมือนกับการเปิดโลกใบใหม่แก่พวกเขา ผู้ช่วยสองคนมีหน้าที่คอยดึงดูดความสนใจของซอมบี้ ก่อกวนพวกมัน ส่วนคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งสองฝั่งก็จะคอยโจมตีเข้าที่ข้างลำตัวพร้อมกันๆ ทำให้ซอมบี้ที่มองไม่เห็นไม่สามารถรับรู้ได้ว่าต้องโจมตีกลับไปทางไหน จากนั้นมือปืนก็จะเป็นฝ่ายปิดงาน
ใช้คำว่า โกง น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด!
หลังจากชูฮันออกคำสั่งครั้งที่สองออกไป เขาก็กระโดดออกมาจากป้องปราการที่สร้างขึ้นจากซากศพซอมบี้ ชูฮันวิ่งออกมาพร้อมกับจัดการซอมบี้ที่สวนระหว่างทางไปด้วย เขาวิ่งไปที่ศพของมนุษย์และฟาดฟันทำลายศพมนุษย์ที่อยู่ที่พื้น
กลิ่นเลือดและเนื้อที่กระจายตัวได้ปลุกสัมผัสของซอมบี้อีกครั้งและล่อให้มันวิ่งตามชูฮันมา
หลิวยู่ติงวิ่งตามชูฮันมาอย่างเหงื่อแตกพลั่กด้วยความเหนื่อย เขาไม่เคยผ่านประสบการณ์ที่เหลือเชื่อและน่าตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่มีซอมบี้ตัวไหนเข้ามาทำอะไรเขาและชูฮันได้เลย
“ดูไปที่วงล้อมสิ” ชูฮันเพยิดหน้าให้หลิวยู่ติงมองตามพร้อมกับยิ้มออกมา “การเข้าใจกันของคนพวกนี้ไม่เลวเลย ฉันคิดว่ามันจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่คลื่นซอมบี้ลูกแรกซะอีก!”
หลิวยู่ติงนิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง คนพวกนี้เกือบหมดเป็นแค่คนธรรมดา ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่กลัวฝูงซอมบี้หลายพันตัว แต่พวกเขายังทำกับซอมบี้เหมือนเป็นเหยื่อที่พวกเขาต้องล่าซะอีก ทั้งคลื่นซอมบี้คลื่นแรกและคลื่นที่สองพวกเขาฆ่าซอมบี้ไปมากมายด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลยสักคน
นี้คือการแสดงความสามารถที่แท้จริง แสดงให้เห็นถึงกลยุทธและการสั่งการที่แท้จริงว่าต้องทำอย่างไร แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของคำสั่งปฏิบัติของผู้บัญชาการรบ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนพวกนี้ที่ถึงแม้จะเป็นคนธรรมดาแต่กลับเก่งกล้ายิ่งกว่าทหารของซางจิง!
หลิวยู่ติงเกิดการพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “แล้วซอมบี้ระยะ 3 ล่ะ?”
คนหนึ่งร้อยคนพวกนี้อาจสามารถรับมือกับซอมบี้ระยะ 2 ได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฆ่าซอมบี้ระยะ 3 ได้ด้วยวิธีการเช่นก่อนหน้านี้!
“ฉันไม่รู้ว่า—–” หลิวยู่ติงยังไม่ทันจะพูดจบ
“ปัง!”
เกิดเสียงดังขึ้น มีควันสีขาวลอยออกมาจากปากกระบอกปืนไรเฟิลในมือเฉินช่าวเย่ที่ยืนอยู่บนหลังคารถห่างออกไป
ซอมบี้ระยะ3 ตัวใหญ่ที่เกือบจะงับหัวเฉินเสี้ยนกาวถูกยิงเข้าที่หัว เลือดสีดำของมันพุ่งกระจายราวกับน้ำพุจนเปรอะเปื้อนไปทั่วยบริเวณ
ปฏิกิริยาของเฉินเสี้ยนกาวรวดเร็วและเจาะจงมาก เขารีบก้มเก็บคริสตัลขึ้นมาทันที หลังจากนั้นเฉินช่าวเย่ที่อยู่บนหลังคาก็เริ่มยิงปืนใส่เหล่าซอมบี้ระยะ 3
หลิวยู่ติงหุบปากเงียบทันที…เขาเข้าใจแล้ว