Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 45 เธอคือเลาเสี่ยวเสียว
ชายหัวล้านเดินออกมาจากย่านที่อยู่อาศัยพร้อมกับกระเป๋าหลายใบบนหลัง เขาหยุดตรงปั๊มน้ำมันที่ถูกเผา
“สุดยอด! ฮีโร่ของฉันฉลาดชะมัด” เมื่อได้มองมันในระยะใกล้ๆเช่นนี้ ความชื่นชมของชายหัวล้านที่มีต่อชูฮันยิ่งเพิ่มขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด และเขาก็ยิ่งอารมณ์ดีมากๆขึนไปอีก อดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเอง
“แต่มันเกินความคาดหมายที่ศพนี่เป็นของเสี่ยวหยุนเฟย แม่ง! กล้าดียังไงมาขโมยอาหารฉันไป! ไปตายซะ! แกสมควรแล้ว! เฮ้ เฮ้ เฮ้ ฮีโร่ของฉันนี่ฉลาดชะมัด”
ชายหัวล้านพูดออกมาไม่หยุดขณะเดินไปด้วย
ข้างนอกเมืองอันเกอ…
G55 ก็มุ่งหน้าไปตามทาง ขณะที่ชูฮันยังสับสนว่าใครคือคนที่ไม่รู้จักคนนั้น มันไม่มีใครอยู่รอบๆตัวรถและเขากำลังมึนงงกับความภักดีของคนที่ไม่รู้จักผู้นั้น
อย่างไรก็ตามระบบการล่มสลายไม่ได้ตอบคำถามเขา ไม่ได้บอกแม้กระทั่งว่าคนๆนั้นเป็นเพศอะไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องชื่อเลย
หากแต่คนผู้นั้นน่าจะเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก เพราะระบบล่มสลายพูดว่า…คนที่ไม่รู้จัก แสดงว่าพวกเขายังไม่ได้พบกันในชาตินี้
ทั้งเหตุผลและตัวตนของคนผู้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถรู้ได้ ชูฮันจึงตัดสินใจปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะยังไงเขาก็คงไม่มีทางได้รู้มัน
ชูฮันหันหน้ากลับมามองไปที่เบาะข้างหลัง สิบแปดกำลังนอนหนุนตักของซางจิ่วตี้อยู่ ส่วนเฉินช่าวเย่กำลังผิวปากพร้อมกับขับรถอยู่ ทุกอย่างดูกลมกลืนกันอย่างเป็นธรรมชาติ
จู่ๆ ชูฮันก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา ทั้ง3คนนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจ
ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ห่างหายไปยาวนานมากแล้ว…
เขาไม่ต้องคอยกังวลว่าจะถูกแทงจากข้างหลังตลอดเวลา
การเก็บเกี่ยวกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเดินทางไปเมืองอันเกอในครั้งนี้ คือความภักดีของซางจิ่วตี้ที่ในที่สุดก็ถึง50%แล้ว
ความภักดี50% เป็นขอบเขตขั้นพื้นฐานที่สุด ความภักดีก็เพียงแค่ความหมายว่าคนอื่นๆรู้สึกดีกับเขา แต่มันก็ไม่มั่นคง ความภักดีสามารถลดลงไปถึงศูนย์ได้ทุกเมื่อถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้น
มันจะมีผลกระทบต่อความคิดของเขาก็ต่อเมื่อความภักดีมีค่ามากกว่า50% และทุกคนก็จะเชื่อคำพูดของชูฮันอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
เขาจะไม่ถูกทรยศเมื่อความภักดีขึ้นไปถึง90% ความคิดของทุกคนจะขึ้นอยู่กับชูฮัน เหมือนกับเฉินช่าวเย่ ถ้าชูฮันบอกว่าที่อยู่บนท้องฟ้าคือดาวอังคารแทนพระอาทิตย์ เฉินช่าวเย่ก็จะเชื่อมันทันทีอย่างไม่มีข้อสงสัย
สำหรับความจงรักภักดี100% หมายความว่าคนๆนั้นสามารถตายแทนชูฮันได้อย่างไม่ลังเล
ติ้ง—-
ชูฮันพลิกกริชที่เขาได้มาในระหว่างการปะทุของโลกาวินาศ
กริชนี่มีไว้เพื่อปกป้องตัวเขาจากมนุษย์ด้วยกันและเขาหวังว่าเขาจะไม่ต้องมีโอกาสได้ใช้มัน
“คุณอยากจะพูดอะไรรึเปล่า?” ชูฮันมองไปที่ซางจิ่วตี้ เพราะเธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไป
ซางจิ่วตี้พยักหน้ารับ รวบผมของสิบแปดขึ้นด้วยนิ้วของเธอ ท่าทางของเธอช่างอ่อนโยนราวกับเป็นแม่ของสิบแปดซะเอง แต่ชูฮันรู้ดีว่าซางจิ่วตี้อายุเพียง 21 ปีเท่านั้น เธอไม่มีทางเป็นแม่ของสิบแปดได้
“คุณรู้ชื่อเธอมั้ย?” ซางจิ่วตี้ยิ้มให้ชูฮัน…เธอหมายถึงสิบแปด
รอยยิ้มของซางจิ่วตี้ดูบริสุทธิ์และมาจากใจเธอจริงๆ ซึ่งต่างจากท่าทางที่ดูสงสัยและไม่เชื่อใจที่เธอเคยแสดงต่อชูฮันเมื่อก่อน
ชูฮันขมวดคิ้ว แสร้งทำเป็นสับสน “ไม่ใช่ว่าเธอชื่อสิบแปดเหรอไง? เธอเป็นคนบอกฉันเองนี่ ใช่มั้ย?”
ขณะเดียวกัน ชูฮันเองก็คาดไว้แล้วว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน พวกเธอเป็นพวกลักลอบขนอาวุธรึเปล่า?
เป็นไปได้…พวกเธอทั้งคู่มีปืนและพฤติกรรมของพวกเธอก็ดูเหมือนพวกโจรด้วย
พวกเธอดูเหมือนแก๊งลักลอบนำเข้า
ใช่แล้ว…ชูฮันคิดพลางพยักหน้ากับตัวเอง เพราะเขาจะมีข้อได้เปรียบอีกมากถ้ามันเป็นเรื่องจริง
ปกติแล้วคนพิเศษแบบซางจิ่วตี้จะต้องโด่งดังมากๆในยุคโลกาวินาศ หากชูฮันกลับไม่เคยได้ยินชื่อของทั้งสองคนนี้ตลอดระยะเวลาสิบปีของโลกาวินาศเลย ในชาติที่แล้วพวกเธอตายตั้งแต่ช่วงแรกๆหรือเปล่า…
“เมื่อก่อนฉันเคยสงสัยเกี่ยวกับตัวคุณ” ซางจิ่วตี้เริ่มพูด “ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนของคุณ คุณเป็นเพียงแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยหากแต่กลับมีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน คุณกลายเป็นซูเปอร์แมนระหว่างการฝึกหรือไง?”
“เฮ้ย เฮ้ย” ชูฮันเริ่มหัวเราะ ผู้หญิงคนนี้มันอะไรกัน? เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์และเขาก็คงได้หลับไปแล้วถ้าเธอไม่ได้บอกความจริงกับเขา
ซางจิ่วตี้ที่นั่งอยู่เบาะหลังไม่ได้สนใจท่าทางหมดความอดทนของชูฮัน
เธอลูบใบหน้าอ่อนโยนของสิบแปดอย่างเบามือและพูดขึ้นอย่างสับสน “คุณรู้อะไรมั้ย? เธอคือเลาเสี่ยวเสียว…”
เลาเสี่ยวเสียว
ชูฮันเพียงยิ้มอย่างนุ่มนวลกลับไป “ชื่อเธอน่ารักมาก พ่อแม่ของเธอต้องรักเธอมากแน่ๆ ”
ซางจิ่วตี้จ้องไปที่ชูฮันด้วยความสงสัยอย่างชัดเจน “คุณไม่รู้ชื่อของเธอจริงๆนะเหรอ?”
ชูฮันแสดงท่าทางแปลกๆพร้อมนิ่วหน้า “ฉันควรต้องรู้เหรอ?”
ความสับสนในแววตาของซางจิ่วตี้ฉายวาบขึ้นมาชั่วขณะหากเธอก็เพียงส่ายหัว “มันไม่สำคัญอะไรหรอก”
“เอ่อ งั้นฉันขอหลับสักงีบละกัน” ชูฮันหันหน้ากลับมา ปิดตาลงเพื่อหลับ
ชูฮันซ่อนความประหลาดใจในแววตาไว้ในมุมที่ซางจิ่วตี้มองไม่เห็น มือเขาสั่นไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นเร็วกว่า200 ตัวเขาชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาตกใจมากจนเกือบจะกระโดด แต่เขาโชคดีที่สามารถระงับอารมณ์ไว้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกซางจิ่วตี้สงสัยแน่นอนและมันจะมีคำถามอีกนับไม่ถ้วนตามมา
สิบแปดคือเลาเสี่ยวเสียว!
เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยเพราะมันช่างน่าประหลาดใจ!
อย่างที่เห็นว่าพวกเธอมีปืนและสิ่งที่ซางจิ่วตี้ใช้ก็เป็นมีดทหาร และพวกเธอดูตื่นเต้นดีใจกันมากตอนที่ได้ยินว่าพวกเรากำลังจะเดินทางไปฐานทัพทหาร
ชูฮันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเลาเสี่ยวเสียวแต่เขาบังเอิญไปเห็นรายชื่อของเจ้าหน้าที่พิเศษของทหาร รายชื่อนั่นเป็นความลับและคนที่อยู่ในรายชื่อนั่นก็เป็น5อันดับคนที่มีตำแหน่งสูงสุด เลาเสี่ยวเสียวอยู่ใน5อันดับนั้น แต่มันมีคำต่อท้ายชื่อของเธออยู่….สาปสูญ
เลาเสี่ยวเสียวในชาติที่แล้วไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นจนกระทั่งโลกาวินาศผ่านไป10ปี และทุกคนก็สันนิษฐานไปว่าเธอคงตายไปแล้วสาปสูญ…คำสองคำนี้มีความหมายคือตาย
หากแต่ทหารไม่ได้หยุดการค้นหาตัวเธอตลอดระยะเวลา10ปี
แสดงว่าเลาเสี่ยวเสียวมีความสำคัญกับทหารอย่างมาก
อยู่ๆภาพสถานการณ์ที่ปั๊มน้ำมันที่มีฝูงซอมบี้จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาในหัวเขา ถ้าเขาไม่ได้ผ่านไปที่นั่น เลาเสี่ยวเสียวและซางจิ่วตี้ในชาตินี้ก็คงตายไปแล้ว