Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 46 เมืองแห่งความตาย
ชูฮันแอบสังเกตดูซางจิ่วตี้ผ่านทางกระจกมองหลังอย่างระมัดระวัง เธอเอนกายพิงเบาะนั่ง ตาเริ่มหรี่ปรือลงคล้ายจะหลับ เธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์และดูขี้เกียจในเวลาเดียวกันหากแต่เธอก็มีนิสัยเจ้ากี้เจ้าการและดูเป็นคนนิ่งสงบเช่นกัน จู่ๆชูฮันก็รู้สึกว่าเธอดูเหมือนแมวขึ้นมา
ไม่แปลกใจเลย!
ไม่แปลกใจว่าทำไมความภักดีของเธอถึงได้ต่ำนัก เธอน่าจะเป็นพี่สาวของเลาเสี่ยวเสียว การล้างสมองอย่างยาวนานจากทหารทำให้เธอซื่อสัตย์ต่อแค่ประเทศชาติของเธอเท่านั้น มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้หญิงประเภทนี้ที่จะแสดงอารมณ์ต่อผู้อื่น มันยากอยู่แล้วที่จะเรียกร้องความรู้สึกดีๆจากเธอ ไม่ต้องพูดถึงความจงรักภักดี
ดังนั้นการที่ชูฮันสามารถสร้างความจงรักภักดีได้ถึง50%จากซางจิ่วตี้นั่นถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
หลังจากจ้องดูซางจิ่วตี้ ชูฮันก็เบนสายตาไปมองที่เลาเสี่ยวเสียวผู้ซึ่งหลับตั้งแต่เริ่มเดินทาง ท่าทางกำลังหลับสบาย แถมยังนอนละเมออีก ซึ่งมันได้สร้างความอบอุ่นแก่หัวใจของทุกคนในยามลำบากเช่นนี้ เธอดูราวกับแสงอาทิตย์ที่ฉายส่องความอบอุ่นให้กับทุกคน
ชูฮันไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะได้พบกับเลาเสี่ยวเสียวโดยบังเอิญแบบนี้ เขาเพียงแค่คิดว่าเด็กคนนี้ดูน่าสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ และตอนนี้เธอภักดีต่อเขา ดังนั้นเขาน่าฝึกเธอให้กลายมาเป็นมือขวาของเขาได้
ทั้งตัวตนที่แท้จริงของเด็กสาวและความภักดีที่มีต่อชูฮันถึง60% ล้วนเป็นที่เรื่องน่าตกใจเหลือเกิน!
พวกเขาจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตอีกต่อไปถ้าพวกเขาเดินเข้าไปยังฐานทัพทหารฐานใดก็ตามพร้อมกับเลาเสี่ยวเสียว
ผู้หญิงทั้งสองคนที่ตายในชาติที่แล้ว ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาในชาตินี้ไปอย่างสมบูรณ์
การปรากฏตัวของพวกเขาทำให้ชูฮันตกอยู่ในภวังค์ความคิด
ชูฮันคิดว่าเขาเป็นผู้พยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารู้ว่ามูลค่าของสิ่งที่เขารู้นั้นมีค่ามากกว่าที่เขาคิดไว้ มันไม่ใช่แค่เพื่อการดำรงอยู่ของเขาเท่านั้น
“คุณพูดว่า…” เสียงของชูฮันดังขึ้นมาขณะมองไปยังซางจิ่วตี้ที่นั่งอยู่เบาะหลัง “คุณบอกว่าคุณต้องไปที่เมืองตงเพื่อไปรับใครสักคนใช่มั้ย?”
“คุณหลับอยู่ไม่ใช่เหรอ?” ซางจิ่วตี้มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆหากก็ตอบกลับมา “ใช่ เราจะไปหาคนรู้จัก”
คนรู้จัก?
ชูฮันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อได้ฟัง คนรู้จักที่ว่าสามารถทำให้ซางจิ่วตี้เมินเฉยต่อความปลอดภัยของเลาเสี่ยวเสียวได้เพราะต้องการไปรับคนๆนั้นมา…คนๆนั้นอาจจะเป็นรุ่นพี่ของเลาเสี่ยวเสียวรึเปล่า?
ชูฮันยกยิ้มมุมปากพลางคิดหาวิธีเพิ่มความภักดีของคนเหล่านี้ ไม่สนใจว่าตัวตนของพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม!
เขาอาจจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจต่อทุกฐานทัพทหารได้จากการสนับสนุนของคนเหล่านี้…
———-
พวกเขามีสิ่งของจำเป็นมากมายอยู่บนรถ ปืนไรเฟิลทั้งหมด4กระบอกและปืนพก และยังมีปืนสำรองอยู่อีกถึงแม้แต่คนละจะมีปืนครบแล้วก็ตาม ปืน3กระบอกติดตั้งที่เก็บเสียงไว้เรียบร้อย กระสุนมีไม่มาก หากแต่ก็มีพอจนกว่าจะหาถุงยังชีพใบต่อไปเจอ ส่วนเรื่องอาหาร เอาเป็นว่าเฉินช่าวเย่ยังคงกินได้อย่างสบายๆอย่างไม่หยุดหย่อน…แปลว่าชีวิตพวกเขาดีมาก
สามวันต่อมา
G55จอดอยู่ตรงทางเข้าของเมืองตง ถนนทอดยาวจนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งทั้งสองฝั่งของถนนนั้นทั้งสูงและดูเยือกเย็น ฉากแปลกๆเบื้องหน้าให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินเข้าสู่นรก มันดูถ่ายทอดข้อความได้อย่างชัดเจน ….ยินดีต้อนรับสู่นรกและยินดีต้อนรับสู่แดนแห่งความตาย
มันมีป้ายโฆษณาที่กล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่เมืองตง” นักแสดงหญิงในภาพสวยมาก เธอมีฟันขาวสว่างที่คงทำให้ผู้คนถามถึงถ้าพวกเขายังแปรงฟันกันได้อยู่เหมือนเมื่อก่อน
ชูฮันยืนอยู่ข้างๆG55 มีความคิดมากและความกังวลอยู่บนใบหน้าของเขา เขาไม่ได้มาเมืองนี้ในชาติที่แล้วแต่เขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเมืองนี้ ถึงแม้ว่าข่าวนั้นอาจจะฟังดูเกินจริง หากแต่บางอย่างก็เป็นเรื่องจริง
เขาได้ยินว่าคนที่เข้าไปในเมืองตง ถ้าไม่ถูกกินก็จะกลายเป็นซอมบี้ซะเอง
มันเป็นเมืองแห่งความตาย ที่ๆคุณสามารถเข้าไปได้เพียงอย่างเดียว…ไม่มีทางออก
เมื่อชาติที่แล้ว ชูฮันไม่ค่อยแน่ใจด้วยเพราะมันเป็นความทรงจำที่ยาวนานมาแล้ว แต่ที่เขาจำได้ก็คือ เหล่าผู้รอดชีวิตจากมหาวิทยาลัยหมิงชิวได้แบ่งกันออกเป็น2ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งรีบมุ่งหน้าไปเมืองชือ และชูฮันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนอีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ดีกว่า พวกเขาไม่ได้กังวลอะไรมากเกี่ยวกับโลกาวินาศเลยเลือกที่จะปักหลักอยู่ที่เมืองตงและปล้นเสบียงอาหารแทน
อย่างไรก็ตาม ชูฮันไม่ได้พบกับพวกนั้นอีกตั้งแต่ที่พวกเขาหายตัวไปเมื่อ10 ปีที่แล้ว
พวกนั้นตายหรือเปล่า?
เกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้นในชาติที่แล้วกันแน่?
“ตรวจสอบอุปกรณ์ของพวกคุณให้เรียบร้อย” ชูฮันซ่อนความสับสนของเขาไว้ขณะสั่งกลุ่มของเขาด้วยท่าทางสงบนิ่ง
พวกเขาจำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนที่จะเข้าไปในเมือง ด้วยเพราะเมืองตงนั่นไม่เหมือนกับเมืองอันเกอ มันเป็นเมืองที่มีประชากรถึง3ล้านคน!
คน3ล้านคนแปลว่าประมาณ80%ของจำนวนนี้ หรือ2.4ล้านคนได้กลายร่างเป็นซอมบี้ไปแล้ว มันจะอันตรายมากๆถ้าหากอยู่ดีๆก็มีฝูงซอมบี้รวมตัวกันขึ้นมา
ไม่มีใครรู้ว่าภายในเมืองมีอะไรซ่อนอยู่ มันอาจจะมีซอมบี้กระจัดกระจายอยู่ไปทั่วเมืองหรือพวกมันอาจจะรวมตัวกัน? มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่กี่คนกัน?
มันเป็นเรื่องลึกลับ…เมืองมักเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกาวินาศ
แม้ชูฮันจะรู้สึกว่ามันสมควรจะเรียกว่าเมืองโบราณมากกว่า
แต่ละคนรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง เฉินช่าวเย่จัดเตรียมอาหารอยู่ตรงท้ายรถ ขณะที่ซางจิ่วตี้กำลังตรวจสอบปืนและกระสุนอยู่ ส่วนสิบแปดกำลังกินเจลลี่พลางมองไปรอบๆ
ชูฮันตรวจสอบระบบล่มสลายและพบว่าคะแนนของเขาขึ้นไปถึง400แล้ว เขาสามารถเลือกความสามารถพิเศษเพื่อเอามาเรียนรู้ก่อนได้ในเร็วๆนี้ แต่เขายังไม่สามารถเลือกอะไรได้ในตอนช่วงเวลาสำคัญแบบนี้
คะแนนนั้นมีจำกัดแต่ความสามารถพิเศษนั้นมีมากมาย จำนวนคะแนนสำหรับแต่ละความสามารถพิเศษนั้นต้องการแตกต่างกัน
มองไปที่เฉินช่าวเย่ที่กำลังติดอาวุธอยู่และโดนซางจิ่วตี้ตำหนิเรื่องท่าทางแปลกๆของเขาอยู่ ชูฮันนิ่วหน้าขมวดคิ้วหนัก เฉินช่าวเย่ไม่รู้วิธีการใช้ปืนและเขาดูไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันช่างห่างไกลจาก ‘มือปืนพระเจ้า’ ในความทรงจำของชูฮันนัก มีมือปืนอยู่ในกลุ่มเขาหากแต่มันยังไม่มีความจำเป็นมากเท่าไหร่ในช่วงแรกเริ่มแบบนี้ แต่ความสำคัญของมือปืนที่ดีจะเริ่มเห็นได้ชัดในตอนหลัง เมื่อซอมบี้เริ่มวิวัฒนาการครั้งที่สองหรือสามแล้ว!
ชูฮันหันมาสนใจระบบอีกครั้งเมื่อมองเห็นความสามารถพิเศษอันหนึ่ง… ‘ความแม่นยำ’
แต่คะแนนที่ต้องการนั้นสูงกว่าความสามารถพิเศษอื่นๆอยู่มาก เขาต้องมีถึง 800 คะแนนเพื่อเรียนรู้มัน และก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องมีอีกกี่คะแนนเพื่อยกระดับความสามารถ
ความแม่นยำไม่ใช่เพียงใช้ได้แต่กับการเล็งปืน แต่มันใช้ได้กับอาวุธทุกชนิด ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ชูฮันชอบมัน มันจะช่วยประหยัดพลังงานเขาได้มากถ้าการยิงปืนแต่ละครั้งนั้นแม่นยำ
เขาไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฉินช่าวเย่ได้ มันเป็นเรื่องที่ดีเสมอที่จะมีแผนสำรองเอาไว้
800คะแนนนั่นทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก!
“หัวหน้า” เฉินช่าวเย่เดินมาถาม “เราจะเข้าไปในเมืองมั้ย?”
ชูฮันมองไปที่ทางเข้าเมืองที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่พลางรีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “ไปกัน”