Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 533
ขณะเดียวกัน ห่างออกไปจากสนามรบซอมบี้ไม่กี่กิโลเมตร ทั้ง 30 คนที่ทำหน้าที่หลอกล่อศัตรูกำลังซุ่มตัวอยู่ตามพุ่มไม้ โดยห่างออกไป 500 เมตรมีร่องรอยที่พวกเขาจงใจทิ้งไว้อยู่ ทิศทางของการรบจะขึ้นอยู่ที่จุดเปลี่ยนจุดนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือทำให้การตัดสินใจของพวกลูผสมเกิดความสับสนและเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
“พวกมันกำลังมา” เหล่ยเซอกระสิบเสียงสั่น ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อและอารมณ์กดดันรุนแรงที่ไม่สามารถระงับได้อยู่ ในกรณีนี้ถ้าหากมันเกิดความผิดพลาด ทุกอย่างจะจบลงทันที ไม่เพียงแค่สำหรับพวกเขา 30 คนเท่านั้น แต่มันจะส่งผลอันตรายต่อทั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่าให้ตกอยู่ในสภาวะวิกฤต!
เฉินจีกวงและเจียวเหยียนเดินนำกลุ่มลูกผสมไปตามแผนล่อที่ทีมลาดตระเวนจัดเตรียมไว้ ทั้งคู่ใส่ชุดคลุมสีดำปกปิดตั้งทั้งตัวจนมองไม่เห็นอะไร นอกเหนือจากทั้งคู่แล้วลูกผสมตัวอื่นๆเปิดเผยรูปร่างและหน้าตาที่ไม่ปกปิดอย่างไม่ปิดบัง พวกมันเดินไปกินเนื้อมนุษย์ไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น พวกมันเป็นลูกผสมอยู่แล้วไม่มีภาพลักษณ์อะไรให้ต้องรักษา
กลิ่นเลือดเข้มข้นคลุ้งไปทั่วกลุ่มลูกผสม ในตอนนั้นเหล่ยเซอที่สังเกตการณ์ห่างออกไปอยู่ได้แต้ภาวนา แววตาของเขาจับจ้องมาที่กลุ่มลูกผสมด้วยความกลัว จำนวนของพวกมันมีมากกว่าสองร้อยอย่างที่คิด นี่มันคือกลุ่มลูกผสมสามร้อยตัวต่างหาก!
ซวยแล้ว!
เหล่ยรีบบังคับอารมณ์ตัวเองให้สงบลง ตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะรายงานข้อมูลให้ท่านชูฮันฟัง เขาจำเป็นต้องทำภารกิจตรงหน้าเขาให้สำเร็จ
หลังจากที่พวกลูกผสมได้เข้าสู่พื้นที่ที่แปลกแยกและแตกต่างโดยไม่รู้ตัว ลูกผสมส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่คิดอะไรและส่งเสียงพูดคุยบทสนาน่านังเกียจต่อไป พร้อมกับทำสีหน้าน่าเกลียดน่ากลัวไปตลอดทาง
หัวใจของเหล่ยเซอตกไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างกังวล
พวกมันไม่สนใจกับดักล่อของเขาด้วยซ้ำ!
แย่แล้ว!
จู่ๆพวกลูกผสมในกลุ่มก็หายใจถี่ หรือพวกเขาประเมิณความระมัดระวังของอีกฝ่ายสูงเกินไป? ถ้าอีกฝ่ายหากับดักที่เขาวางล่อไว้ไม่เจอแบบนี้ ยังงี้ภารกิจของเขาคือล้มเหลวใช่มั้ย?
และถ้ามันล้มเหลว กลุ่มพวกลูกผสมก็จะเดินหน้าไปทิศทางที่ซอมบี้อยู่ ที่ซึ่งอีกไม่นานจะเข้าสู่สงครามไล่ฆ่าวอมบี้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันจะเป็นการขัดแผนชูฮันทันที!
ไม่! เขาต้องห้ามให้พวกลูกผสมผ่านไปได้!
และในขณะที่กลุ่มลาดตระเวนที่ซุ่มอยู่ตัวแข็ง ฝ่ามือเหงื่อแตกพลั่ก
“ช้าก่อน!” จู่ๆก็มีเสียงจากกลุ่มลูกผสมดังขึ้น
เหล่าสมาชิกทีมลาดตระเวนต่างจับสายตาไปที่ลูกผสมตัวสองตัวที่แตกต่างไปจากตัวอื่นในกลุ่มซึ่งมีผ้าคลุมหน้าอยู่และเป็นตัวที่ออกคำสั่ง
หลังจากเสียงคำสั่งของเฉินจีกวง ลูกผสมทุกตัวก็หยุดเป็นครั้งแรกอย่างทันที จากนั้นก็หันกลับมามองลูกผสมระยะ 6 ผู้ทรงพลังที่เป็นคนออกคำสั่ง
“ท่านเฉินจีกวง?” ลูกผสมตัวหนึ่ง หน้าซีดเซียว ฟันแหลมคมที่มีเศษเนื้อและเลือดติดอยู่ตามฟันพูดขึ้น “ท่านให้เราหยุดทำไมครับ?”
“ไอ้โง่!” เฉินจีกวงไม่ปิดบังความรังเกลียดที่มี จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงและวิเคราะห์ร่องรอยบนพื้นอย่างถี่ถ้วน
“เธอคิดว่าไง?” เฉินจีกวงมองอย่างระมัดระวัง ภายใต้หน้าที่ถูกปกปิดเอาไว้ คิ้วกำลังขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“อะไรน่ะ?!” ลูกผสมตัวอื่นแสดงสีหน้าไม่เชื่อ “มันจะเป็นไปได้ยังไง ซอมบี้มีฉนวนตรวจจับความร้อนจากร่างกายมนุษย์”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?” เจียวเหยียนค่อยๆเชิดคางขึ้น “แกคิดว่าชูฮันมันจะโง่เหมือนแกรึไง? มันมีความสามารถขนาดที่ทำให้ท่านมู๋เย๋หาตัวไม่เจอและยังสามารถรับมือกับฝูงซอมบี้ 20,000 ตัวได้!”
“นี่…” เจ้าลูกผสมตัวนั้นยังคงคิดไม่ออก
“แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น มันและกลุ่มของมันจะต้องซ่อนตัวอยู่ในภูเขานี้แน่ๆ” เฉินจีกวงสรุป “มันอาจลากยาวถึง 1-2 วัน แต่มันยังมีซอมบี้ระยะ 5 ถึงสองร้อยตัวอยู่ ถ้ามันอยากหนีก็หนีไป นอกจากว่ามันจะไม่ต้องการกลับไปเมืองอันลูแล้ว”
“จริง” เจียวเหยียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเต็มที่ “นี่แหละความสามารถของผู้ติดตามของท่านมู๋เย๋ คนละเรื่องกับพวกลูกผสมป่าเถื่อนไร้ระดับ”
การดูถูกและเหยียดหยามอย่างโจ่งแจ้งทำให้เหล่าลูกผสมทั้งหลายไม่พอใจ แต่ไม่มีใครกล้าจะพูดอะไรขึ้นมาสักคำ มันไม่ใช่แค่เพียงลูกผสมระยะ 5 เท่านั้นแต่ยังเป็นผู้ติดตามของท่านมู๋เย๋อีกด้วย พวกมันไม่สามารถทำอะไรได้
“แต่ไอ้ชูฮันคนนี้เป็นคนที่รอบคอบมาก แม้แต่ขณะหลบหนีฝูงซอมบี้ มันยังกลบร่องรอยของตัวเองได้ดี” เฉินจีกวงยิ้มและพูดต่อ “เราจะเอาไงต่อตอนนี้? ฝูงซอมบี้และกลุ่มของชูฮันแตกออกไปเป็นสองทาง เราอยู่ห่างจากพวกซอมบี้เกินไปที่จะติดต่อกับพวกมันได้และสั่งให้มันกลับมา”
“ไม่สำคัญว่าจะมีฝูงซอมบี้หรือไม่ เราต้องตามล่าไอ้ชูฮัน” เฉินจีกวงออกคำสั่งทันที “สำหรับฝูงซอมบี้ ฉันจะรวมพวกมันเข้าด้วยกันเองถ้าหาใครไม่เจอ ตราบใดที่ชูฮันและคนของัมนยังไม่โผล่หน้าออกมา ไม่ช้าก็เร็วพวกมันจะได้เจอกับซอมบี้เอง”
กลุ่มลูกผสมผลันหันเหความสนใจมาที่เบาะแสลวงที่ถูกทีมลาดตระเวนจัดทำขึ้นมา
รอจนกระทั่งกลุ่มลูกผสมหายไปจากระยะสายตาเป็นเวลากว่าห้านาที ทีมลาดตระเวนหรือทีมหลอกล่อจึงเริ่มผ่อนคลายขึ้นและถอนหายใจ เหล่ยเซอที่กลัวไปหมดจนตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาไม่คิดเลยว่ากลุ่มลูกผสมจะเป็นกองกำลังที่ผสมปนเปและแตกแยกกันแบบนี้ พวกมันไม่มีการทำงานร่วมมือกันเป็นระเบียบ ไม่มีความคิดของการประสานงานใดๆ ซึ่งนี่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับกองทัพเขี้ยวหมาป่าของพวกเขา
“เห้อ หัวหน้า มีเพียงแค่ลูกผสมสองตัวเท่านั้นที่เจอร่องรอยที่พวกเราทิ้งไว้ ส่วนลูกผสมที่เหลือนั้นก็โง่เหลือเกิน” สมาชิกคนหนึ่งของทีมลาดตระเวนที่หวาดกลัวกลุ่มลูกผสมอย่างมากพูดขึ้น “พวกมันแทบหาร่องรอยที่พวกเราจงใจทิ้งไว้ไม่เจอ”
“โง่ก็ดีแล้ว” เหล่ยเซอเองก็กลัวเช่นกัน “ยิ่งพวกมันโง่เท่าไหร่ โอกาสที่พวกเราจะได้ชนะก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
“นั่นก็จริง แต่กัปตันครับ ร่องรอยที่เหลือ พวกเราควรทำให้มันชัดเจนขึ้นมั้ยครับ?” บางคเสนอขึ้นมา
“ไม่” เหล่ยเซอส่ายหัว “ถึงแม้มันจะเป็นพวกลูผสมทั่วไปที่เอามารวมตัวกัน แต่ยังไงพวกมันก็มีลูกผสมระดับสูงอยู่สองตัวที่มีความระวังตัวสูงมาก เพราะฉะนั้นสถานการณ์มันต่างไปอย่างที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง ร่องรอยอันต่อไปของเราจะต้องลึกลับยิ่งกว่าเดิม ไม่งั้นพวกมันจะคิดได้ว่าพวกเราจงใจทิ้งร่องรอยเอาไว้”
“ก็จริง” สมาชิกคนอื่นพนักหน้าอย่างเห็นด้วย “และเมื่อได้ฟังจากที่พวกมันพูด ดูเหมือนว่าท่านชูฮันจะเป็นเป้าหมายของพวกมันโดยเฉพาะ และร่องรอยที่พวกเราทำไว้ก็โจ่งแจ้งและดูน่าสงสัยเกินไป”
“อืม” เหล่ยเซอขบคิดอยู่ในหัว “ไปที่จุดต่อไป!”
ทีมหลอกล่อออกมาจากพุ่มไม้ที่ซุ่มตัวอยู่และเริ่มออกวิ่งตีวงรอบนอกของกลุ่มลูกผสม โดยการใช้ข้อได้เปรียบด้านความเร็ว ประกอบกับที่พวกลูกผสมไม่ได้สัมผัสถึงตัวตนของพวกเราเพราะพวกมันเอาแต่กินขณะเดินไปด้วย นี่พวกมันมาเพื่อสงครามหรือมาสนุกๆกันแน่?