Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 590 ทีมความลับของพระเจ้ายังไม่มาอีก?
หลังจากส่งทีมนักฆ่าขนนกเข้าไป 15 คน หนึ่งชั่วโมงต่อมา อีกทีมที่มีคนประมาณ 20 คนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกของประตูทางเข้าค่ายเจียนอี๋
คนกลุ่มที่สองไม่ปริปากพูดใดๆเลย พวกเขาเพียงแค่ยืนเงียบๆอยู่ข้างนอกเพื่อสังเกตการณ์รอบๆ นี่คือทีมกุ้งเสือดำที่เพิ่มสมาชิกอีก 5 คนของทีมนักฆ่าขนนกเข้ามาด้วย พวกเขาต้องการใช้วิธีกลมกลืนเข้าไปในค่าย
เสี่ยวเคินไม่พูดอะไร ส่วนคนอื่นๆก็เบนสายตาไปมองแสร้งทำเป็นดูอย่างระมัดระวัง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตกอยู่ในสายตาของนายทหารอาวุโสคนเดิมที่ยืนเฝ้ายามอยู่
“พวกคุณคือ?” นายทหารอาวุโสเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างมาก เขาไม่ถามตรงๆแต่ปบ่อยช่องว่างให้อีกฝ่ายตอบแทน
“ที่นี้ใช่ค่ายเขี้ยวหมาป่ามั้ย?” เสี่ยวเคินเป็นคนที่นิ่งและผ่อนคลาย
ในขณะที่นายทหารอาวุโสกำลังคิดอยู่ จู่ๆสถานการณ์มันก็เปลี่ยนไป!
“เปิดประตู” ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนที่กำลังวิ่งมาจากที่ไกลตะโกนมา “พวกเราคือหน่วยลาดตระเวนของเจียนอี๋ นี่เป็นเรื่องฉุกเฉิน เปิดประตูเร็ว!”
“อะไรน่ะ?” นยทหารอาวุโสตกใจมาก และก็จำได้ว่าคนกลุ่มที่กำลังสิ่งมาคือทหารของค่ายเจียนอี๋จริงๆ เขารีบเปิดประตูทันที
กลุ่มคนที่รีบเข้ามาไม่มีแม้แต่เวลาจะพูดทักทาย ส่วนเสี่ยวเคินและคนอื่นๆที่ยืนเงียบอยู่ที่ประตู คนกลุ่มนั้นแค่เหลือบมองและวิ่งผ่านไป เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้น่าจะไปบังเอิญเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาจึงรีบวิ่งกลับมารายงานผู้บังคับบัญชาตัวเอง
ส่วนเสี่ยวเคินก็ใช้โอกาสนี้พูดขึ้นมา “นี่ใช่ค่ายเขี้ยวหมาป่าจริงๆเหรอ? คนของเจียนอี๋? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย ไปกันเถอะ!”
คำพูดของเสี่ยวเคินตกอยู่ในสายตาของนายทหารทุกคน
“เร็วเข้า! หยุดพวกนั้นไว้!” นายทหารอาวุโสรีบออกคำสั่งทันที เขาเดินลงมาจากจุดประจำการของตัวเองและรีบตามเสี่ยวเคินและคนอื่นๆ “พวกคุณ ฟ้ามีนใกล้จะมืดแล้ว พวกคุณอยากจะพักที่ค่ายเจียนอี๋ของเราก่อนมั้ย?”
“ตลก?” เสี่ยวเคินเงยหน้ามองขึ้นฟ้าและยิ้มเยาะออกมา
“ไม่ ฉันหมายถึง ถ้าจะเดินทางตอนนี้ ค่ายเขี้ยวหมาป่ายังห่างไกลจากตรงนี้ไม่ใช่น้อย ถึงแม้พวกคุณทุกคนจะเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่และเดินทางได้โดยไม่ต้องหยุดพักแต่กว่าจะถึงมันก้คงพรุ่งนี้เช้า” นายทหารอาวุโสรีบหาทางออกและพยายามโน้มน้าว “พวกคุณมั่นใจได้เลย ที่นี้อยู่ในอาณาเขตของเมืองอันลู อยู่ใต้อำนาจของพลเอกชูฮัน ค่ายของเราอยู่ในขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของท่านพลเอกชูฮัน”
“โอ้” เสี่ยวเคินแสร้งทำเป็นสีหน้าตกใจราวกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ “เพราะงั้น ความจริงก็คือ ค่ายเจียนอี๋และค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่ในความสัมพันธ์ค่ายพี่น้องกัน?”
“ใช่เลย” นายทหารอาวุโสรีบฉวยโอกาส “ทั้งสองค่ายของเราก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน พวกเรามักไปมาหาสู่กันตลอด พวกเรายินดีต้อนรับมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มาเมืองอันลูทุกคน ในฐานะค่ายน้อง พวกคุณจะต้องเดินทางผ่านเราก่อนไปถึงค่ายเขี้ยวหมาป่า แน่นอนว่าเราจะสร้างความบันเทิงให้ระหว่างพวกคุณพักผ่อนที่นี้”
ไอเดียของนายทหารอาวุโสนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นเขาจะฉกคนที่เข้ามาอย่างเข้าใจผิดเอาไว้ และบอกว่าอยากจะไปเมือไหร่ก็ได้ทั้งนั้น แต่ความจริงมันยากที่จะออกไปได้ พวกเขาจะต้องกลายเป็นรากฐานที่มั่นคงของค่ายแห่งนี้!
“ไม่เลวเลย ถ้างั้นฉันต้องขอรบกวนหน่อยแล้วล่ะ” ในที่สุดเสี่ยวเคินก็แสดงท่าทางผ่อนคลายและยิ้มออกมา เขาตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ “พวกคุณเดินทางบนถนนกันมาเป็นเดือน ร่างกายสกปรกพอแล้ว”
“เฮ้ พวกแก! เตรียมน้ำร้อนไว้ให้ทุกคนได้อาบน้ำสิ!” นายทหารอาวุโสโล่งใจมาก เขาโบกมือสั่งการทหารคนอื่นๆ
ชูฮันที่ลอบดูสถานการณ์อยู่ไกลออกไปก็ตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเคินจะแสดงได้เหมือนกับนักแสดงออสการ์อย่างนี้!
“พระเจ้า ทั้งสามทีมของนายนี่สุดยอดชะมัด” หวังไคเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน ขณะที่ยังคงแทะขาไก่ในปาอยู่ “ฉันรับรู้ถึงความร่วมมือของพวกเรา แน่นอนว่ามันมีทั้งสามทีมในการฝึกพร้อมกับความสัมพันธ์เป็นมิตร”
“ฉันไม่คิดว่าหลี่บี๋เฟิงกับซูเฟิงจะเล่นได้ด้วย!” ชูฮันส่ายหัว “มันน่าลุ้นมาก ฉันลุ้นจนแทบเหงื่อแตกแทนพวกเขา”
“เฮ้อ” หวังไคแสร้งทำเป็นส่ายหัว “มันเป็นเพราะนายเองนั่นแหละ ที่มอบการฝึกที่ยากขนาดนี้ให้พวกเขา แล้วยังปล่อยให้พวกเขาเล่นกันเองอีก”
“แน่นอนสิ พวกเขาต้องหาหนทางเข้าไปเอง ถ้าจะมาหวังพึ่งแต่ฉันแล้วเมื่อไหร่พวกเขาจะโตขึ้น?” ชูฮันไม่สนใจ “แต่ฉันสงสัยมากกว่าว่าทีมสุดท้ายจะเข้าไปยังไง ที่เหลือคือทีมความลับของพระเจ้าที่มี 15 คน มันยิ่งยากว่าเพราะมันง่ายที่จะทำให้อีกฝ่ายสงสัย”
“ไม่ต้องคิดเลย ทีมความลับของพระเจ้าต้องชะงักแน่ๆ และพวกคนที่ค่ายเจียนอี๋ก็ไม่ได้โง่ ฉันพนันด้วยขาไก่เลย” หวังไคพูดด้วยตาเป็นประกาย
“หึ!” ชูฮันยิ้มเยาะ “ฉันพนันด้วยขาไก่สองอันเลย ทีมความลับของพระเจ้าจะทำให้แกตาสว่าง”
“ตกลง”
ต่อมาทั้งหวังไคและชูฮันก็ลอบสังเกตสถานการ์อยู่ห่างออกไปอย่างเงียบๆ หากพวกเขารอจนพระอาทิตย์ตกดินทีมความลับของพระเจ้าก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา ระหว่างทางมาที่นี้พวกเขาได้เจอกับกลุ่มคนหลายกลุ่มที่มุ่งหน้าจะไปค่ายเขี้ยวหมาป่า ด้วยเหตุนี้ชูฮันจึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น ซึ่งชูฮันคิดว่าหน่วยลาดตระเวนของค่ายเจียนอี๋ก็น่าจะเจอเช่นกัน และถ้าทีมความลับของพระเจ้าช้าไปมากกว่านี้มันจะเกิดความสงสัยขึ้นได้
ชูฮันที่กำลังเพ่งมองไปที่นายทหารอาวุโสจากระยะไกลค่อยๆนิ่วหน้า มันเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายเริ่มสงสัยแล้ว ทีมความลับของพระเจ้ามัวทำอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ช้าขนาดนี้?
และในขณะที่ชูฮันเกือบจะหมดความอดทน และหวังไคที่เกือบเจอเผลอหลับ—
“ช่วยด้วย!”
จู่ๆ มันก็มีเสียงร้องดังมาจากที่ไกล น้ำเสียงท้ังกังวล หวาดกลัว โวยวาย และตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหลายคู่ที่วิ่งกันอย่างจ้าละหวั่น
ทหารเฝ้ายามหลายคนรีบมองไปตามเสียง พวกเขาได้แต่กระซิบคุยกัน เกิดอะไรขึ้น? มีอะไร?
ใครบอกได้?