Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 629 ไหน ใครส่งแกมา?
ทีมหลงยาและทีมฮูหยาเป็นสองทีมที่มีวุฒิภาวะและพัฒนาเต็มที่แล้ว พวกเขามีโครงสร้างในการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง สมาชิกในทีมมีความเข้าใจกันอย่างชัดเจน ใครแข็งแกร่งสุด? ใครตำแหน่งสูงสุด? และสำหรับสมาชิกทั่วไป ตำแหน่งทุกอย่างก็จัดการไว้แล้วเรียบร้อยเช่นกัน คนที่มีอันดับสูงกว่ายืนข้างหน้า และคนที่ยืนข้างหลังท้ายสุดไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพียงแค่วิวัฒนาการระยะ 1 อย่างแน่นอน
นี้คือข้อดีของทีมที่มีวุฒิภาวะ หลายอย่างไม่จำเป็นต้องบอกหรือสั่ง พวกเขาก็ปฏิบัติออกมาด้วยตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ง่ายที่จะจัดการหรืออกคำสั่ง
ดังนั้นชูฮันจึงออกคำสั่งแกคนที่ยืนหน้าสุดของทั้งสองทีม “คุณสองคน รายงานข้อมูลส่วนตัวมา ทีมหลงยาเริ่มก่อน”
ทหารที่ยืนหน้าสุดของทีมหลงยานั้นยืนตัวตรงตามระเบียบทหารอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ครึ่งๆกลางๆ ชายคนนี้ยังหนุ่มมากแต่ยศทหารของเขาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รายงานออกมาด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด “ขออนุญาติครับท่าน ผมคือสมาชิกของทีมหลงยาพิเศษ ชื่อ หลิง อายุ 20 ปี วิวัฒนาการระยะ 4 ครับท่าน”
“หลิง?” ชูฮันอึ้ง “ที่แปลว่าศูนย์?”
“ครับ” ตอบคำถามอย่างรวดเร็วหากน้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
ชูฮันยิ้มบางๆอย่างอารมณ์ดี ไม่ใช่เพราะทหารตรงหน้าเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 แต่เป็นเพราะคนนี้ได้รับการแต่งตั้งนามแฝง แสดงว่าไม่ธรรมดา…ดูเหมือนว่าเหอเฟิงก็ไม่เลวเลย
นอกเหนือจากการเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในจีนแล้วทีมหลงยายังมีคุณสมบัติพิเศษอีก สมาชิกทุกคนเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคศิวิไลซ์ของจีน พวกเขามีสัญชาตญาณของนักฆ่า อย่างไรก็ตามจำนวนของพวกเขานั้นหายากไม่ต่างอะไรกับสมบัติของประจาติ สมาชิกทุกคนของทีมหลงยาจึงแสนจะภาคภูมิใจที่มีนามสกุลของหลงยาต่อท้ายชื่อตัวเอง เพราะนั่นจะแสดงถึงความแข็งแกร่งและความรุ่งโรจน์ที่สุด
แต่น่าเสียดาย ผลกระทบของโลกาวินาศได้เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมด มันเป็นการสุ่ม ไม่มีกฏเกณฆ์ใดๆทั้งนั้น คนที่เคยแข็งแกร่งในยุคศิวิไลซ์อาจกลายเป็นแค่คนธรรมดาในยุคโลกาวินนาศ
แต่ในขณะเดียวกัน การที่ทุกคนสามารถรอดจากคลื่นแรกของหายนะมาได้และยังก้าวเข้าสู่การเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างราบรื่นนั้นแสดงว่าทุกคนไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่คยวรประมาทความสามารถของคนพวกนี้ ในเมื่อคนๆนี้ถูกเหอเฟิงส่งมา แน่นอนว่าจะต้องไม่ใช่ธรรมดา
และการที่ทหารคนนี้ภักดีต่อเขา มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก ทุกคนรู้ดีว่าทีมหลงยาและฮูหยาไม่ภักดีต่อใครทั้งนั้น ความเชื่อของพวกเขายังคงเป็นที่กังขาของทุกคน แต่พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีแรงบันดาลใจที่น่ากลัว
คนพวกนี้สามารถสละชีวิตของตัวเองได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามเพื่อจีน
ชูฮันที่หลุดจากภวังค์เอ่ยต่อ “คนต่อไป ทีมฮูหยา”
นายทหารที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมฮูหยาแทบรอไม่ไหว เอ่ยรายงานตัวเสียงดังฟังชัดอย่างตื่นเต้น “ขออนุญาติครับท่าน ผมชื่อ เหลียวหยง สมาชิกทีมฮูหยาพิเศษ วิวัฒนาการระยะ 4 ครับ!”
ชูฮันยิ้มบางๆ มองไปที่เหลียวหยงที่ดูมีสไตล์ไม่สอดคล้องกับคนอื่นๆเลย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณเรียนแบบบุคลิกภาพนี้มาจากใคร?”
พรึบ!
ทันทีที่ชูฮันพูดออกไป เหลียวหยงก็เปลี่ยนเป็นตัวตรงสงบนิ่ง แววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก่อนหน้านี้หายวับไปทันทีราวกับว่าภาพก่อนหน้านี้เป็นแค่ภาพลวงตาสำหรับชูฮัน
อีกครั้งที่ชูฮันอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ นี้คือคนที่เหอเฟิงจงใจส่งมาสินะ?
จากนั้นชูฮันก็มองไปที่สมาชิกคนอื่นของทีมฮูหยาและพบว่าทุกคนมีสีหน้าและอารมณ์เหมือนกันหมด ทุกคนเหมือนกับถอดแบบมาจากเหอเฟิง มันทำให้ชูฮันนึกถึงบุคลิกที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของติงซือเย้า ทันใดนั้นชูฮันก็คิดออกและในเวลาเดียวกันก็เกิดความเห็นใจขึ้นในอก คนพวกนี้ภายใต้การบัญชาการของเหอเฟิงทำให้เกิดความบกพร่องทางจิตใจและความรู้สึกไปแล้ว
สำหรับเหลียวหยงและหลิงทั้งคู่เป็นวิวัฒนาการระยะ 4 เหมือนกัน ชูฮันยอมรับได้หลังจากที่เมื่อกี้รู้สึกกลัวขึ้นมาแวบหนึ่ง ในขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับการทำตัวไร้ตัวตนและกลบความสามารถที่แท้จริงของตัวเองของคนพวกนี้
ทีมหลงยาและฮูหยาคุ้มค่ากับคำว่าทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของจีน ทว่าสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมไม่ได้อยู่ที่นี้
“หลิงและเหลียวหยงอยู่ที่นี้ ที่เหลือไปได้” ชูฮันโบกมือไไล่และรอจนกระทั่งมันเหลือเพียงแค่พวกเขาสี่คนภายในห้อง ชูฮันก้มหน้าลงไปมองคนที่เขาเหยียบอยู่ที่พื้น
เวลานี้ความกลัวของชายวิวัฒนาการระยะ 5 ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว เขาคิดว่าเสมอว่าทหารที่มีอันดับสูงสุดในกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็คือซูเซียงหลงที่ระยะ 3 แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่ามีวิวัฒนาการเก่งกาจปรากฏตัวขึ้นถึงห้าสิบคน แถมยังมีวิวัฒนาการระยะ 4 อยู่อีกสองคน และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือท่าทางที่ดูไม่แยแสเลยของชูฮัน?
ทีมหลงยาและทีมฮูหยา คนพวกนี้จริงๆแล้วมาทำอะไรที่นี้?
ชูฮันที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเล่นเกมส์ทางจิตวิทยาอะไรและเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจ ชูฮันเพียงแค่ชี้นิ้วไปที่คนที่ตัวเองเหยียบหน้าไว้อยู่ สบตากับหลิงและเหลียวหยง “รู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงไม่ฆ่ามัน”
หลิงและเหลียวหยงจ้องตาชูฮันอย่างไม่คิดหลบสายตา แววตาของหลิวดิ่งลึก ส่วนเหลียวหยงมีแววตาของนักฆ่าและเอ่ยถาม “ทำไมต้องไว้ชีวิตไอ้ขยะนี้? ในความคิดของผม ควรจะฆ่ามันทิ้งทันทีเลยครับ”
ชูฮันที่ตัดสินใจจะฝึกฝนสองคนนี้ก็ยิ้มและมองไปที่หลิง “หลิง นายวิเคราะห์สิ”
คิ้วของหลิงย่นและพยายามคาดเดา “ท่านถามผมเหรอครับ?”
ชูฮันมีสีหน้าพอใจ “ใช่ ทำไมฉันถึงควรไว้ชีวิตมัน?”
หลิงกระพริบตาก่อนจะพูด “ผมจำได้ว่าก่อนที่ท่านจะเริ่มลงมือ ท่านชูฮันถามคำถามมันหลายคำเกี่ยวกับกลุ่มของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่”
คำตอบนั้นมันชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว ทั้งสองคนที่พึ่งคิดได้ก็เข้าใจแล้วว่าชูฮันต้องการจะสื่ออะไร ชูฮันยื่นมือลงไปตบหน้าของวิวัฒนาการระยะ 5 ที่พื้นที่สบตาชูฮันด้วยแววตาหวาดกลัว ชูฮันแสยะยิ้มออกมาและเอ่ยขึ้น “ไหนมาดูสิ ว่าใครส่งแกมา?”