Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 634 ปัญหาของเจ้าอ้วน
“หลังจากเผาศพซอมบี้เสร็จ พวกคุณสามสามารถพักผ่อน กินอาหารและนอนพักได้ อาหารที่ติดตัวกินได้หมดเลยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้” เมื่อเดินทางมาถึงจุดตั้งมั่นสุดท้ายที่เหล่าหทารสี่ร้อยยึดครองได้สำเร็จ ชูฮันก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “30 กลุ่มแรกยังไงก็ไม่มาถึงอยู่แล้ว อาหารทั้งหมดเป็นของพวกคุณ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กลุ่มทหารมาใหม่กลุ่มใหญ่ที่ต่อสู้มาทั้งคืนก็ตาเป็นประกาย รีบหยิบอาหารจำนวนมากออกมาแจกจ่ายทันที
กฏระเบียบและข้อบังคับของกองทัพเขี้ยวหมาป่านั้นเข้มงวดอย่างมากและน่ากลัวสุดๆ ถ้าไร้ซึ่งคำสั่งของผู้บังคับบัญชาพวกเขาไม่ได้รับอนุญาติให้พักหรือกินอาหารได้ นั่นเป็นเพราะถ้าพวกเขาพักผ่อนอย่างไร้คำสั่ง ระหว่างนั้นพวกเขาอาจเพิกเฉยต่ออันตรายที่มาถึงโดยไม่รู้ตัวได้ นี้คือข้อบังคับทางทหารที่เหล่าสมาชิกในกองทัพเขี้ยวหมาป่าทุกคนต้องจำให้ขึ้นใจ บางคนที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะเจอกับปัญหาที่ตามมา
ตอนนี้ชื่อเสียงของหลิวยู่ติงโด่งดังไปทั่ว ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะพูดถึงหลิวยู่ติงเลย ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับชูฮันเช่นกันเพราะไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนกฏระเบียบทหารเลย ทุกคนเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งกันอย่างเคร่งครัด
กลุ่มทหารใหม่ 350 คนกินอาหารกันใหญ่ หากกลุ่มทหารผ่านศึก 50 คนแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พวกเขายืนนิ่งไม่ไหวติงมองไปที่กลุ่มทหารใหม่ด้วยสายตาที่อ่านออกได้ว่า ‘พวกนายยังเด็กเกินไป’ ความทรงจำของพวกทหารใหม่ยังสั้นเกินไปนัก
ท่านหัวหน้าชูฮันพูดไว้ก่อนหน้านี้ทำไมไม่จำ พวกมันคิดจะกินอาหารจนหมดจริงๆเหรอไง?
โง่!
ไม่คำนึงถึงปัญหาของเสบียงอาหารที่จะตามมาหลังจากนี้เลย มันจำกันไม่ได้เหรอไง เมื่อวานนี้ท่านหัวหน้าชูฮันสั่งกับแผนกโลจิสติกส์ว่าไม่ต้องส่งเสบียงอาหารไปอีกสามวันข้างหน้า?
ชูฮันไม่ได้ทำให้กลุ่มทหารผ่านศึกผิดหวัง เมื่อเหล่าทหารใหม่กินอาหารจนหมด คำสั่งต่อไปของชูฮันก็ประกาศออกมาทันที “นอนหลับฝันดี แล้วไปหาอาหารมาตุนไว้ในตอนบ่ายสำหรับอีกสามวันข้างหน้า ปัญหานี้พวกคุณต้องจัดการด้วยตัวเอง ฉันไม่สนใจ”
มองไปที่สีหน้าโง่ๆและช็อคค้างของกลุ่มทหารใหม่ เหล่าทหารผ่านศึกก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง มันคือกลุ่มคนมาใหม่จริงๆ ไม่มีการระแวง ระวังตัว พวกเขาตกลงไปหลุมกับดักของหัวหน้าชูฮันอย่างง่ายๆ!
สำหรับเรื่องนี้ชูฮันไม่มีความรู้สึกผิดใดๆต่อกลุ่มทหารใหม่ทั้งนั้น หลังจากกลุ่มทหารได้ทำการฆ่าซอมบี้ในบริเวณนี้และยึดที่ตั้งมั่นสุดท้ายได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้จุดเชื่อมของพื้นที่ปลอดภัยในสี่เหลี่ยมมุมฉากทั้งหมดของเขาก็เชื่อมต่อกันหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ขั้นตอนต่อไปก็คือฆ่าซอมบี้ในเชตพื้นที่นี้ให้หมด!
มันเป็นแค่คำพูดเท่านั้น แต่การที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้นั้นค่อนข้างเป็นโปรเจคที่ยากพอสมควร ขอบเขตของพื้นที่จุดนี้นั้นไม่ใช่น้อยๆ มันยังมีซอมบี้เหลืออีกอย่างน้อย 10,000 ตัวในบริเวณนี้ แม้แต่ว่าความสามารถของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะไม่ธรรมดา ทว่าตอนนี้กองทัพเขี้ยวหมาป่ายังมีสมาชิกแค่ 700 คนเท่านั้น การจะฆ่าซอมบี้ให้หมดในบริเวณภายในเวลาหนึ่งเดือนมันจึงเป็นไปไม่ได้
นี้ไม่ใช่การสังหารเรียบง่าย พื้นที่บริเวณนี้แตกต่างจากหมู่บ้านเล็กๆหรือเมืองที่ชูฮันเคยนำกองกำลังไปสังหารฝูงซอมบี้อย่างที่ผ่านมา ในอนาคตมันจะไม่มีอันตรายซ่อนเร้นสำหรับค่ายเขี้ยวหมาป่าและผู้คนของชูฮันอีก ชูฮันต้องการเพียงแค่ฆ่าซอมบี้ในเมืองอันลูให้หมด ทว่าจำนวนของซอมบี้นั้นมหาศาลอย่างมาก มันจึงยากมากที่จะทำสำเร็จได้ภายในเวลาสั้นๆ
ทว่าชูฮันมีความกระตือรือร้นมากพอสำหรับเป้าหมายนี้ เพราะในช่วงบ่ายวันนี้เฉินช่าวเย่ก็นำทีมยิงปืน 50 คนเดินทางมาหาชูฮันพร้อมกับกระสุนหลอกล่อซอมบี้ล็อตแรก 300 ชิ้น
ในทำนองเดียว กระสุนล่อซอมบี้นั้นไม่ได้เพียงแค่ล่อมนุษย์ซอมบี้มาได้เท่านั้น แต่มันหมายถึงซอมบี้ทุกสายพันธุ์ที่กินเลือดและเนื้อสดเป็นอาหาร
ในวันเดียวกันนั้น ชูฮันไม่ได้ให้ทหารทั้ง 400 คนของเขาเจอกับซอมบี้คลื่นต่อไปทันที แต่ชูฮันให้เวลาพวกเขาได้พักหายใจ กระจายตัวไปหาอาหาร กวาดล้างซูเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมือง เก็บสะสมส่ิงของต่างๆ ทุกอย่างที่สามารถนำมาใช้ได้และมีประโยชน์ ทุกคนทำตามคำสั่งของชูฮันและกระจายตัวไปตามจุดต่างๆ
สำหรับทีมยิงปืนของเฉินช่าวเย่ ชูฮันเป็นคนนำทีมยิงปืนไปทำการสำรวจภูมิศาสตร์ด้วยตัวเองเพื่อสร้างความคุ้นเคย คลื่นซอมบี้คลื่นแรกจะต้องถูกล่อไปที่คอร์ดสนามเทนนิสทั้งหมดก่อน และเพราะมันซอมบี้จำนวนมากนั้นซ่อนตัวอยู่ตามอาคารทั้งหลายในเมือง ชูฮันจึงทำได้แค่สรุปสถานการณ์จากประสบการณ์ที่ผ่านมา จากนั้นก็นำทีมยิงปืนกระสุน B ที่เป็นตัวล่อไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เช่นเดียวกับวางแผนบริเวณตำแหน่งที่ต้องให้ทีมยิงปืนทำการยิง
มันเป็นภารกิจขนาดใหญ่อีกภารกิจหนึ่งเลย เมื่อชูฮันเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ความมืดก็เริ่มมาเยือน และสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่วุ่นวายอยู่กับการเก็บของต่างๆในเมืองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
“พวกคุณแค่ต้องจำตำแหน่งของตัวเองไว้ให้ได้ จำไว้ว่าแต่ละนัดต้องห่างกัน 15 นาที และจะเริ่มยิงใส่ซอมบี้ก็ต่อเมื่อพวกมันปรากฏตัวแล้วเท่านั้น” ชูฮันสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันต้องการความสามารถของพวกคุณแค่ 30% ดังนั้นพวกคุณต้องยิงสามถึงสี่นัดทุกๆ 15 นาที”
“ครับ” ทีมยิงปืนห้าสิบคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวล
“ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้เราจะเริ่มเป็นครั้งแรก มันแค่เป็นการลองผลที่ตามมา” ชูฮันยิ้มเล็กน้อย พยายามคลายความกังวลของทุกคน “มันมีซอมบี้ในพื้นที่ที่ฉันกำหนดแค่ 10,000 ตัวเท่านั้น และทหาร 400 คนนั้นสามารถจัดการได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นพวกคุณแค่ยิงปืนตามสบายๆ เพียงแค่มันต้องการเชื่อมต่อของกระสุน A และ B ใครที่รับผิดชอบกระสุน B ควรคอยระวังและสังเกตการณ์ตลอดเวลา”
“ท่านหัวหน้ามั่นใจได้ครับ มันจะไม่ความผิดพลาดแน่นอนครับ” ทีมยิงปืนเอ่ยอย่างมั่นใจ
ความกังวลก่อนหน้านี้ของพวกเขานั้นไม่ใช่เพราะว่าพวกเขากลัวแต่มันเป็นเพราะพวกเขาประหม่าและตื่นเต้น หลังจากการฝึกฝนกับเฉินช่าวเย่มาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็จะได้แสดงฝีมือแล้ว อัตราการโจมตีที่ต่ำที่สุดท่ามกลางพวกเขาคือ 50% ซึ่งถือว่าหาได้ยากในยุคโลกาวินาศ แต่ในสายตาของเฉินช่าวเย่ทีมยิงปืนนี้ยังเป็นแค่กลุ่มของพวกขี้กาก
แผนการของชูฮันนั้นง่ายมาก มือปืน 50 คนกระตายตัวไปอยู่ตามจุดต่างๆของวงล้อมรอบคอร์ดสนามเทนนิส ซอมบี้จะถูกแบ่งเป็น 3 ลำดับ ลำดับสามคือรัศมีที่ใหญ่ที่สุดซึ่งจะเป็นหน้าที่ของมือปืน 20 คนที่กระจายอยู่ในวงนอกสุด พวกเขาต้องล่อซอมบี้ให้เข้ามาที่คอร์ดสนามเทนนิส
ลำดับที่สองจะเป็นหน้าที่ของมือปืน 30 คนที่ประจำอยู่ที่พื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด มันครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อของถนนแต่ละเส้นและพื้นที่ในวงล้อมด้านในของคอร์ดสนามเทนนิส ซึ่งซอมบี้มากมายจะพุ่งมาจากหลายจุด ภารกิจของพวกเขาจึงยากขึ้นไปอีก
ส่วนสำหรับตำแหน่งสุดท้าย ลำดับที่หนึ่ง ล่อซอมบี้มาที่ใจกลางของคอร์ดสนามเทนนิส ซึ่งมันได้ถูกมอบหมายให้แก่เฉินช่าวเย่ จากลำดับที่สองที่เชื่อมต่อระหวางถนนแต่ละเส้นและการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของเฉินช่าวเย่ที่มีรายละเอียดเข้มข้น มีเพียงแค่เฉินช่าวเย่เท่านั้นที่สามารถทำได้
ด้วยเหตุนี้ ชูฮันจึงหาตำแหน่งที่สูงที่สุดไว้ให้เฉินช่าวเย่ประจำการ ชูฮันไม่กังวลเลยสักนิดว่าเฉินช่าวเย่จะสามารถทำภารกิจที่แสนจะยากนี้ได้มั้ย เพราะถึงอย่างไรแล้วฉายาของเฉินช่าวเย่นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ