Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 64 จำฉันได้มั้ย?
รถตู้สีขาวทำหน้าที่เหมือนกับเส้นแบ่งเขต ด้านหนึ่งเป็นของมนุษย์ ขณะที่อีกด้านเป็นของซอมบี้ กลุ่มของชูฮันเพียงแค่ยืนนิ่งทำราวกับว่ามันง่ายเหลือเกินกลับการเปลี่ยนซอมบี้ทั้งหมดให้กลายเป็นซากศพซอมบี้ กองซากศพกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งของสะพาน มันกองทับสูงกันราวกับภูเขา สะพานที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนนับร้อยที่ควรจะวุ่นวายเสียงดังระงมกลับกลายเป็นเงียบสงัด ทุกคนเงียบสนิทไม่มีใครกล้าจะส่งเสียงออกมาราวกับถูกบีบคอเอาไว้ขณะเบิ่งตาโต อ้าปากกว้าง จนคางตกด้วยความช็อค
“คุณมาสาย”
เสียงของชูฮันไม่ได้ดัง มันฟังดูสบายๆราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย หากมันกลับดังชัดในหูของทุกคนด้วยเพราะบรรยากาศมันเงียบสงบ ทุกคนจึงได้ยินประโยคนั้นกันชัดเจน
ภาพที่ทุกคนเห็นก็คือ ชูฮันทำลายกระโหลกของซอมบี้ตัวสุดท้ายด้วยขวานหนักในมือเขา หมุนตัวกลับมาด้วยท่าทางสงบนิ่งพร้อมกับมีกองซากศพซอมบี้จำนวนมากอยู่เบื้องหลัง เขาไม่แม้แต่จะกระพริบตา ท่าทางเขาดูราวกับนี่เป็นเรื่องปกติและง่ายดายสำหรับเขา
คน5คนฆ่าซอมบี้ทั้งฝูงทำให้ผู้คนนับร้อยตกอยู่ในความกลัว เด็กหนุ่มคนนั้นฆ่าซอมบี้ส่วนใหญ่ด้วยขวานเนี่ยนะ!?
พวกเขายังคงเป็นคนอยู่หรือเปล่า?
เขาทำมันได้อย่างไร?
ทุกอย่างดูราวกับความฝันด้วยเพราะมันดูเกินจริง ทุกคนตกอยู่ในอาการตะลึงงัน
เฉินเสี้ยนกาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ หัวใจเขาเต้นรัวเร็วหากเขาก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่เพราะมันดูไม่น่าจะเป็นไปได้ ทว่ามันก็เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของชูฮันและสมาชิกในทีมของชูฮันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่น้อย แถมสมาชิกส่วนใหญ่ของชูฮันยังเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก แม้กระทั่งเด็กผู้หญิงอายุ12ขวบ!
เย๋เฉินเองก็ช็อคก่อนที่จะลงมาจากรถซะอีก แว่นตาของเขาเอียงไปทางด้านข้างโดยที่เขาไม่รู้ตัว ท่าทางของเขาดูตลกมาก ส่วนเยวจึยังคงจับพวงมาลัยค้างไว้ ตาของเขาเบิ่งกว้างโตราวกับฟองสบู่
ติงเซวที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับรถ กำลังถือแท่งเหล็กไว้แน่นเองก็เบิ่งตาโตเช่นกัน เธอรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ชายคนนั่น เธอเคยด่าสาปแช่งเขาด้วยความเสียใจที่เขาไม่ได้ทำตามที่เธอหวังไว้ หากตอนนี้จู่ๆเขากลับปรากฏตัว แสดงพลังอันน่าทึ่งเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้
ในความมืดมิดอันไม่มีที่สิ้นสุดของโลกาวินาศ….ชายผู้นี้ดูราวกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องความหวังไว้แก่เธอ
โจวซือหลีตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่หลังฝูงชน เขาใช่คนที่ขับรถชนเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยG55ใช่มั้ย? ใช่แล้ว มันนั่นแหละ ผู้หญิงสวยๆคนนั้นแหละเป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่มันกลับมีเด็กสาวอีกคนที่มีผมยาวสีดำและเด็กผู้หญิงอีกคนงั้นเหรอ? เ*ย! ตาของโจวซือหลีเต็มไปด้วยประกายความไม่พอใจ ทำไมมันถึงมีผู้หญิงสวยๆอยู่ข้างกาย ไม่ใช่แค่คนเดียวแต่ตั้ง3คน?
ปัง——–
ทันใดนั้น ก็มีเสียงปิดประตูดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงฝีเท้ายุ่งเหยิงสองคู่ดังระงมตามมาด้วยเพราะบรรยากาศโดยรอบมันเงียบสนิท ทุกคนจึงได้สติกลับมา หันไปมองตามทางที่มาของเสียง
มันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย2คน ผู้ชายและผู้หญิง มีโลโก้ของแบรนด์เสื้อผ้าหรูหราเด่นชัดบนเสื้อผ้าสกปรกและยับยู่ยี่ของพวกเขา ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบสกปรกจนมองหน้าที่แท้จริงแทบไม่ออก เศษโคลนผสมกับอาหารเปื้อนอยู่ตรงริมฝีปากพวกเขา พวกเขายื่นลิ้นสกปรกออกมาเพื่อเลียเศษอาหารที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากและกลืนทุกอย่างลงไปจนหมด
ทุกต่างตกอยู่ในอาการตะลึงงัน 2คนนั่นไม่ยอมลงมาจากรถเพื่อช่วยกันสู้หากกลับนั่งกินอาหารอยู่ในรถเนี่ยนะ?
“ชูฮัน”
“ไอ้บ้านนอกงั้นเหรอ?”
ทั้งสองถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย ทำให้ผู้คนที่ได้ยินสับสนขึ้นมา พวกเขาต่างมองมาที่เด็กนักศึกษา2คนจากมหาวิทยาลัยหมิงชิวที่พึ่งเข้ามาที่ฐานทัพของพวกเขาวันนี้ ทำไม2คนนั่นถึงพูดคำว่า “ไอ้บ้านนอก”?
ต้วนหมิงและจีชิงหลิวรู้สึกว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้องขณะมองไปยังกองซากศพของซอมบี้ข้างหลังชูฮัน ตัวชูฮันเต็มไปด้วยเศษเนื้อเน่าและเลือดสีดำ เห็นได้ชัดว่า มันเป็นฝีมือชูฮัน
หากแต่ผู้ชายคนนี้จู่ๆก็แข็งแกร่งขนาดนี้ขึ้นมาได้ยังไง? เขากลัวซอมบี้ไม่ใช่เหรอ?
การปรากฏตัวของทั้ง2คน ทำให้เฉินเสี้ยนกาวได้สติคืนมา เขารีบเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้าพลางมองไปที่ชูฮันด้วยสายตาเปล่งประกาย “เก่งมากไอ้หนู! ซื่อตรงดี! ฉันตัดสินใจแล้วที่จะเป็นเพื่อนกับแก! แกช่วยชีวิตฉันไว้เพราะฉะนั้น ฉันต้องเป็นคนแรกที่มาถึงถ้าแกตกอยู่ในอันตราย! ”
“แม่ง!ไอ้หนู แกเก่งชะมัด!” ในที่สุดเยวจึก็รู้สึกตัวพร้อมกับกระโดดออกมาจากรถ และไม่ลืมที่พูดล้อเฉินช่าวเย่ “แกนี่เกิดมาเพื่อเป็นคนขับรถจริงๆ แกมันอ่อนถ้าเทียบกับหัวหน้าของแก”
“แม่งเอ๊ย!” เฉินช่าวเย่ทำเพียงมองเยวจึ “หัวหน้าของฉันเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา นี่แกพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”
เฉินช่าวเย่มีความภักดีต่อชูฮันถึง 90% และมันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับระดับความภักดีที่มีต่อชูฮันขนาดนี้ เฉินช่าวเย่จะไม่มีทางไม่พอใจชูฮัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความอิจฉา อีกอย่างเฉินช่าวเย่จะโกรธจัดด้วยซ้ำถ้ามีใครมาชื่นชมเขาและเมินใส่ชูฮัน!
เย๋เฉินดันแว่นตาขึ้นจมูก ก้าวเดินออกมาอย่างมั่นคงและรวดเร็ว เขาเองก็ช็อคเหมือนกัน มันมีความรู้สึกบูชาต่อชูฮันไหลทะลักเข้าหัวใจ
ชูฮันกั้นซอมบี้ไว้เพื่อให้พวกเขาได้หนีไป และมันไม่เหลือซอมบี้สักตัวเมื่อพวกเขากลับมาเพื่อช่วยชูฮัน วิกฤตได้รับการแก้ไขแล้วเรียบร้อย…เขาตกใจอย่างมาก
ชูฮันยิ้มเล็กน้อยขณะมองดูความภักดีที่เฉินเสี้ยนกาวมีให้เขาเพิ่มขึ้น50% ส่วนของเยวจึและเย๋เฉินเพิ่มขึ้นเป็น30%อยู่อย่างเงียบๆ เขาตรวจดูคะแนนของระบบ มันควรจะถึง800คะแนนไปแล้วถ้าป่ายหวีเนอมีความภักดีต่อเขา
แม่ง! ปวดใจชิบหาย! มันดูจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบสร้างความภักดีของป่ายหวีเนอให้ได้
คน3คนที่ดูเหมือนจะมีความสามารถในการต่อสู้มากที่สุดในฐานทัพคือ เฉินเสี้ยนกาว เย๋เฉินและเยวจึ ทัศนคติที่ทั้ง3คนนี่มีต่อชูฮันทำให้คนอื่นๆรู้สึกอะไรบางอย่าง ถ้าผู้ชายคนนี่กลับไปอยู่ที่ฐานทัพ เขาจะต้องมีตำแหน่งสูงกว่าผู้รับผิดชอบอันดับ2แน่นอน หรืออาจจะแม้กระทั่งหารอำนาจของเจ้านายเฉินเสี้ยนกาว
ด้วยเพราะชายผู้นั่นทั้งมีความสามารถมหาศาลในการต่อสู้ และผู้หญิงที่มากับเขาก็งดงามเหลือเกินจนทำให้บางคนถึงกับอิจฉา มันเป็นโลกาวินาศ….ใครจะได้เป็นเจ้านายขึ้นอยู่กับความสามารถในการต่อสู้
ภายในพริบตา คนทั้งฝูงก็วิ่งพุ่งเข้าไปหาชูฮันเพื่อประจบสอพลอทันที
“คุณแข็งแกร่งมากเลย”
“คุณเป็นทหารเหรอ? คุณแข็งแรงมาก!”
กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยหมิงชิวยืนอยู่ห่างออกไป พวกเขาต่างมีอารมณ์ซับซ้อนต่างกันไป รวมไปถึงความตื่นเต้น ปั่นป่วนหรือแม้กระทั่งความเคารพ
นั่นคือชูฮัน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหมิวชิว เพื่อนร่วมโรงเรียนและเพื่อนของพวกเขาเอง!
“ชูฮัน แกเก่งชะมัด!” นักเรียนทุกคนวิ่งไปข้างหน้าและตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ชูฮัน! ชูฮัน! ฉันเองไง! ฉันเอง!” จู่ๆ จีชิงหลิวก็เบียดตัวเข้ามาในกลุ่มฝูงชน
จู่ๆผู้หญิงทั้ง2คนบนหลังรถตู้ก็กระโดดลงมา ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ต่างออกไปจากฝูงชนที่มองมา ป่ายหวีเนอและซางจิ่วตี้ใส่ชุดสวยหากการแต่งตัวกลับต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ชีวิตนี้พวกเขาจะไม่เสียใจเลยถ้าได้ผู้หญิง2คนนั่นมาครอง
สำหรับจีชิวหลิวที่จับชายเสื้อของชูฮันอยู่ เธอไม่สามารถทนต่อการเปรียบเทียบอย่างรุนแรงนั่นได้…