Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 640 ข้อได้เปรียบเทียม
อีกด้านที่ถูกแยกด้วยประตู ในขณะที่เหลียวเหวินถาวและหลิวเซียงที่อยู่ตรงโถงทางเดินด้านนอกกำลังช็อคกับคำพูดของติงเซวจนยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ ด้านในชินหยวนเองก็กำลังช็อคกับสถานการณ์ตรงหน้าเขาเช่นกัน
“ท่านพลตรีซางจิ่วตี้? ท่านหมายความว่ายังไงครับ?” ชินหยวนมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความสับสนและงุนงง ซางจิ่วตี้ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอเว้นระยะห่างออกไป ในตอนนี้มีคนมากมายยืนอยู่ในห้อง ชินหยวนที่ไม่ได้รู้เลยและถูกมัดมือมือและเท้าไม่สามารถขัดขืนได้เลย
ซางจิ่วตี้ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาดูอีกฝ่าย หากริมฝีปากสีแดงสดของเธอขยับเสียงกระซิบ “ฉันไม่ใช่พลตรี ชินหยวน คุณไม่อยากจะเจอท่านพลเอกชูฮันเหรอไง?”
“ครับ ผมมาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าได้สองวันแล้ว ไหนล่ะครับท่านพลเอกชูฮัน?!” ชินหยวนไม่พอใจเล็กน้อย
เขาพยายามใช้ความสามารถของพละกำลังวิวัฒนาการระยะ 3 พยายามให้ตัวเองหลุดออกมา ทว่าคนที่ยืนประกบเขาอยู่นั้นไม่ไหวติงเลยสักนิด แถมยังไม่พูดอะไรเลยสักคำ ชินหยวนรู้แย่อย่างมากและรับรู้ได้เลยว่าเหล่าคนที่ประกบเขานั้นล่วนแต่มีระยะสูงกว่าเขาทั้งหมด
ซางจิ่วตี้เอ่ยขึ้นอีกรอบ “เสี่ยวเคิน พาตัวไป!”
“ครับ!” เสี่ยวเคินที่ยืนอยู่หลังชินหยวนตอบรับเสียงต่ำ
ชินหยวนประหลาดใจอย่างมาก จู่ๆเสี่ยวเคินก็ใช้พละกำลังของตัวเองยกตัวชินหยวนขึ้นพาดหลังไป ตามมาด้วยสมาชิกของทีมกุ้งเสือดำกว่าสิบคนที่กระโดดตามออกไปทางหน้าต่าง ทุกคนลงจอดที่พื้นอย่างง่ายดายด้วยความยืดหยุ่นของร่างกาย ไร้เสียงหรือร่องรอยใดๆทั้งนั้นพวกเขาไต่ปีนป่ายไปตามบ้านพักต่างๆ รวมถึงเสี่ยวเคินที่แบกชินหยวนที่หลังมาด้วย
ชินหยวนที่อยู่ในสภาวะมึนงง มีเพียงแค่คำถามเดียวที่เกิดขึ้นในใจเขา ทำไมคนพวกนี้ต้องกระโดดมาทางหน้าต่าง?
หลังจากมันก็มีอาการเวียนหัวตามมา เพราะแรงเหวี่ยงของการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและกระโดดขึ้นลงไปมาของเสี่ยวเคิน ชินหยวนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพนิ่งงัน หูของเขาได้ยินเสียงลมที่พัดผ่าน ชินหยวนที่ห้อยตัวอยู่ที่ไหล่ของเสี่ยวเคินมองเห็นภาพคนมากกว่าสิบคนตามมาหลังเสี่ยวเคินมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ แถมทุกคนยังเคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง?
และที่สำคัญกว่านั้น คนที่คนพวกนี้จะพาเขาไปเจอ!
—————
ช่วงเย็นในพื้นที่ของเมืองอันลู เฉินช่าวเย่เดินมากับชูฮัน “หัวหน้า ล็อตสุดท้ายของกระสุนล่อซอมบี้ แผนกโลจิสติกส์กำลังเร่งการผลิตอยู่ครับ ประกอบกับที่เราไม่ใช่กระสุนทั้งหมด ครั้งนี้หัวหน้าสามารถทำลายล้างซอมบี้หลายหมื่นตัวได้เลยครับ”
ชูฮันพยักหน้าและปิดเอกสารตรงหน้าลง เขายิ้มก่อนเอ่ยขึ้น “ให้ทหารเฝ้ายามตั้งใจสังเกตการณ์โดยรอบให้ดี ทีมกุ้งเสือดำกำลังใกล้เข้ามาแล้ว คนอื่นๆพรุ่งนี้ให้ทำการเก็บข้าวของที่มีประโยชน์ในบริเวณโดยรอบให้หมด และวันมะรืนให้เตรียมพร้อมสำหรับการกวาดล้างซอมบี้…”
“ครับ!” เฉินช่าวเย่ตอบรับเสียงดัง ไม่ถามอะไรสักคำ เขารู้จักหัวหน้าชูฮันของเขาดี ไม่ว่าหัวหน้าจะตัดสินใจยังไง มันมีการเตรียมพร้อมและเหตุผลที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว
เช้าตรู่วันถัดมา เหล่าทหารทุกคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าออกเดินสำรวจไปรอบๆพื้นที่ เก็บข้าวของ วัสดุ เสบียง อะไรก็ตามที่จะเป็นประโยชน์ และครั้งนี้พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าเมืองนี้คือขุมทรัพย์ที่แท้จริง พวกเขาเจอข้าวของมากมายที่ถูกทิ้งจากในยุคศิวิไลซ์ที่สามารถนำมาใช้และเป็นประโยชน์ต่อค่ายเขี้ยวหมาป่าจำนวนมาก
ในพื้นที่โล่งที่ไร้ซึ่งทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ทีมกุ้งเสือดำทั้งหมดอยู่ในบ้านร้างหลังหนึ่งที่พังทลายจากการโจมตีของฝูงซอมบี้ ชินหยวนที่ถูกเสี่ยวเคินจับมัดไว้นอนสลบอยู่ที่พื้นมานานแล้ว
ชูฮันส่ายหัวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ไปทำให้เขาสลบทำไม?”
เสี่ยวเคินเอ่ยตอบอย่างเป็นกลางและมีเหตุผล “เราไม่ได้หยุดพักเลยครับ เราวิ่งมาตลอดทางหลายชั่วโมง และเขาไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมจากท่านมาเหมือนพวกเรา ร่างกายของเขาจึงรับไม่ไหวครับ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับเขาหรอก แล้วความสามารถในการสร้างกำแพงของพวกคุณเป็นยังไง?” ชูฮันถามเสี่ยวเคินถึงเรื่องที่เขากังวลมากที่สุด
เสี่ยวเคินขมวดคิ้วเป็นครั้งแรกและตอบคำถามด้วยความลังเลเล็กน้อย “พวกเราไม่รู้ว่ากำแพงแบบไหนที่หัวหน้าต้องการ แต่ที่เราได้เรียนรู้มามันเป็นแค่พื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้นครับ พวกเราสามารถสร้างได้แต่ไม่มีทางที่พวกเราจะทำให้มันมั่นคงเหมือนมืออาชีพได้ ไม่สามารถคงอยู่ได้เป็นสิบปีแน่นอนครับ ระยะเวลาในการเรียนรู้มันกระชั้นชิดเกินไปครับ”
“พอแล้ว ที่ฉันต้องการก็แค่กำแพงที่ใช้งานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” ชูฮันบิดมุมปากและส่งภาพร่างในมือให้เสี่ยวเคิน “เริ่มได้!”
สถานที่ที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้คือหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองอันลูในยุคศิวิไลซ์ มันมีอายุมากกว่า 30 ปี พื้นที่บริเวณนี้ไม่มีอาคารตึกสูงเลยไม่มีอาคารสูงที่นี่ ทุกคนมองไปที่บ้านที่ช่องห่างของแต่หลังนั้นแคบมาก มันเรียงเป็นแถบยาวขนานสองฝั่ง
นี่คือขุมทรัพย์ที่ชูฮันค้นพบ เพราะวิกฤตของซอมบี้แม้ว่าที่อยู่อาศัยจะไม่เหลือสภาพที่ดีแล้วแต่ช่องว่างระหว่างบ้านแต่ละหลังนั้นแคบมาก มันจึงเป็นอุปสรรคสำหรับซอมบี้ที่จะลอดผ่าน มันเหมาะสมสำหรับการเป็นสนามรบกับฝูงซอมบี้ อีกทั้งสถาปัตยกรรมของสมัยก่อนที่ทำให้เส้นทางถนนเส้นนี้ซับซ้อน มันไม่ใช่ข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์จากธรรมชาติ แต่เพื่อกำจัดซอมบี้พวกเขาจะต้องสร้างข้อได้เปรียบเทียมขึ้นมาด้วยตัวเอง
ภารกิจของทีมกุ้งเสือดำนั้นค่อนข้างเรียบง่าย ตรงช่องว่างตรงกลามของบ้านแต่ละหลังชูฮันต้องการให้ทีมกุ้งเสือดำสร้างกำแพงขึ้นเพิ่มปิดช่องว่าง รวมถึงตรงถนนด้วยสร้างกำแพงปิดล้อมให้หมด เหลือไว้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ประตูทางเข้า
โปรเจคนี่เรียบง่ายมาก คนสิบกว่าคนสามารถทำสำเร็จในภายในวันเดียว แต่มันยังต้องอาศัยทักษะระดับมืออาชีพ ซึ่งวิธีการสร้างกำแพงนั้นทีมกุ้งเสือได้เรียนรู้มาแล้ว ภาพร่างที่ชูฮันต้องการก็ได้มอบให้ทีมกุ้งเสือดำไปแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงกระจายตัวไปหาวัสดุและอุปกรณ์ในการสร้าง
มีความวุ่นวายของการสร้างกำแพงทำให้ชินหยวนที่สลบเริ่มค่อยๆรู้สึกตัวขึ้น และทันทีที่ลืมตาขึ้นมา ภาพเหตุการณ์ทั้งหลายก็ไหลย้อนเข้ามาในหัวชินหยวน ตั้งแต่ที่ถูกลักพาตัวจากค่ายเขี้ยวหมาป่ามาเมื่อวานนี้ จนตอนนี้มีคนกำลังสร้างกำแพงอยู่?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?
ในขณะที่ชินหยวนกำลังมึนงงและสับสนอยู่ มันก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “พอรึยัง?”
“เอ๊ะ?” ด้วยความสงสัย ชินหยวนเอี้ยวตัวไปมองด้านข้าง และได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ สวมเสื้อผ้าธรรมดาปกติ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น รองเท้าดูดี น่าจะเป็นรองเท้าทหาร แต่มันดูแห้งกรังไปด้วยเลือดสีดำเน่าของซอมบี้ที่เกาะตัวเป็นชั้นหนา
ชูฮันโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทายขณะสบตากับชินหยวนที่ตื่นมานานแล้ว “ในพื้นที่ของฉัน ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้าแผนกทหารเก่า และในขณะเดียวกันก็เป็นวิวัฒนาการระยะ 3 แค่เจอแรงกระแทกไปมาถึงกับสลบเลยเนี่ยนะ?”
“ดินแดนของคุณ?” ชินหยวนจับคำศัพท์ที่ละเอียดอ่อนได้ทันที ตามมาด้วยความประหลาดใจ “คุณคือชูฮัน!”