Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 651 อาวุธที่สามจากหุบเขาหยินหยาง
ชายที่ดูท่าทางเฉยชายืนอยู่ตรงประตู สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ชายที่ปรากฏตัวขึ้นใหม่กันหมด สีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆขณะก้าวเท้าออกเดินมุ่งหน้าเข้าไปหาชูฮัน
ภาพที่เกิดขึ้นตกอยู่ในสายตาของทุกคน
บรรยากาศอึดอัดก่อนหน้านี้ถูกชูฮันทำลายทิ้งอย่างสิ้นเชิง ทุกคนไม่คิดเลนว่าท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและตกใจอย่างนั้นชูฮันจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา เชิญให้ใครไม่รู้เข้ามาและดื่มด้วยกัน? ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือผู้ชายที่ปรากฏใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้ากลับเดินเข้ามานั่งดื่มชาด้วยกันจริงๆ?
บูชาที่นั่งอยู่ถัดจากชูฮัน คิ้วของบูชากระตุก คนอื่นอาจจะไม่รู้จักชายแปลกหน้าคนนี้แต่บูชาซึ่งทำงานอยู่ทางใต้รู้จักเขาเป็นอย่างดี
ชายคนนี้มีนามว่า ต้านฮวง วิวัฒนาการระยะ 5 ที่มีพลังเป็นเลิศ!
ในขณะที่ความสามารถของทุกคนในห้องนั้นเป็นที่กระจ่างอย่างชัดเจนว่าใครเหนือกว่าใครเพราะพลังผันผวนและความกดดันที่แต่ละคนปล่อยออกมา ยกเว้นเพียงแค่ชูฮัน มันมีเพียงน้อยคนที่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ในที่ที่ไม่ใช่ถิ่นของตัวเอง
ชูฮันไม่ได้พลาดสายตาของบูชาก่อนหน้านี้ และไม่สนใจกับพฤติกรรมท่าทางของชายแปลกหน้าคนนี้เลย ประตูปิดลง ทั้งห้องตกอยู่ในบรรยากาศน่ากลัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทั้งสามคนนั่งกันอยู่คนละทิศทาง ไม่มีใครเริ่มก่อน
ท่ามกลางความเงียบต้านฮวงเป็นคนเปิดขึ้นก่อน หลังจากกวาดสายตามองสำรวจบูชาเรียบร้อย “ท่านพลเอกชูฮันนี่เก่งจริงๆนะ ไม่ธรรมดา”
ชูฮันพยักหน้ารับอย่างไม่สนใจมารยาท สายตาจับจ้องไปที่อาวุธที่เป็นความลับของต้านฮวงอย่างสนใจ “ทุกวันนี้ในโลกาวินาศมีเหล่าคนเก่งกาจเดินเพ่นพ่านมากมายอย่างกับหมาข้างถนน ฉันเลยไม่รู้จักคุณ คุณมากจากไหนล่ะ?”
“เฮ้ย—” หวังไคเกือบหลุดพ่นน้ำในปากออกมาด้วยความตกใจ มันรีบเอามือปิดปากบังคับกลืนน้ำในคอลงไป ชูฮันนี่มันวอนโดนเอามีดเสียบคาปากตายจริงๆ!
ต้านฮวงไม่สนใจท่าทางไม่เป็นมิตรของชูฮัน เขายังคงรักษาท่าทางนิ่งสงบเอาไว้ “ฉันได้ยินมาว่าพลเอกชูฮันไม่เคยถามชื่อคนก่อนเริ่มลงมือ ทำไมวันนี้ถึงกลายเป็นข้อยกเว้นล่ะ?”
ชูฮันยิ้มขณะยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม “เพราะฉันไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อของคนตาย แต่คุณต้องเป็นคนที่ฉันไม่สามารถฆ่าได้ง่ายๆ ดังนั้นฉันจึงจำเป็นต้องถาม ครั้งนี้ฉันจะหนีออกไปเอง หายตัวไปทันทีอย่างไร้ร่องรอย”
สีหน้าอวดดีไร้ซึ่งความกลัวใดๆของชูฮันนั้นเป็นที่น่าหงุดหงิดสำหรับคนที่ได้เห็น ไม่ต้องพูดถึงต้านฮวงเลย แม้แต่หวังไคที่คุ้นเคยกับชูฮันดียังอดไม่ได้ที่จะมองบน จุดด้อยของชูฮันก็คือความอวดดีของเขานั่นแหละ
ตั้งแต่ที่ต้านฮวงเดินเข้ามาในห้อง ในตอนแรกสีหน้าของเขาราบเรียบ คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย แววตามีความสับสน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ถึงวิธีการการปฏิบัติตัวของชูฮันเลยสักนิด ซึ่งจากข่าวลือที่ได้ยินมามากมายนั้นมันไม่เหมือนกันเลยสักนิด มันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เลยหลังจากต้านฮวงได้ทำการวิเคราะห์แล้ว
“ต้านฮวง” บูชาพูดขึ้นมาเบาๆ ตอบคำถามแทนต้านฮวง “วิวัฒนาการระยะ 5 อันดับที่สองในรายชื่ออันดับของระยะ 5 ในเสาหิน เป็นรองเพียงแค่ตวนเจียงเหว่ย”
ความเยือกเย็นในนัยน์ตาของต้านฮวงฉายผ่านไปที่บูชาและหายไปอย่างรวดเร็วในพริบตา บูชาที่อยู่ตรงข้ามเลิกคิ้วเป็นคำถาม “พรสวรรค์ระยะ 4 ความสวยงามอันลึกลับของป่าดงดิบ”
เมื่อได้ฟังการพูดของทั้งสอง ชูฮันก็ยกยิ้มมุมปากด้วยเพราะเขาไม่มีอะไรทำ เขาเคาะนิ้วลงกับโต๊ะเบาๆและเริ่มพูดขึ้น “สถานการณ์มันก็ชัดเจนมาก คุณทั้งสองคนมาเพื่อฆ่าฉัน แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับคำสั่งมาจากคนเดียวกัน เพราะไล่หลังกันมาทีละคนแบบนี้ แต่ฉันมีแค่ชีวิตเดียว พวกคุณอยากจะปรึกษากันก่อนมั้ยว่าใครจะเริ่มก่อน?”
ทันทีที่ถามออกไป คิ้วของต้านฮวงก็ขมวดเข้าหากันแน่น แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้ตรงกับที่ชูฮันพูด แต่มันวุ่นวายกว่าเดิมอีก!
บูชายิ้มทันที รอยยิ้มสวยงามของเธออาจทำให้หลายคนหลอมละลายไปได้แต่ไม่ใช่กับทั้งสองคน มันจริงอย่างที่ชูฮันพูด ทั้งเธอและต้านฮวงนั้นเป็นคนแปลกหน้าทั้งคู่ พวกเขาได้รับคำสั่งมาจากนายจ้างของตัวเองเหมือนกัน แต่พวกเขาต่างจะได้รับค่าตอบแทนก็ต่อเมื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายมาสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่ามูลค่าค่าหัวของชูฮันมีสูงอย่างมาก ซึ่งทั้งเธอและต้านฮวงไม่มีทางยอมให้กันอย่างแน่นอน
อีกครั้งที่บรรยากาศตกอยู่ในความอึดอัด บูชาและต้านฮวงต่างเงียบทั้งคู่ ชูฮันยิ้มอย่างสนุก “หรือพวกคุณทั้งคู่จะตกลงกันอยู่ที่นี้? ฉันจะไปทำงานของฉันก่อน พอพวกคุณตกลงกันได้แล้วก็บอกฉันละกัน ฉันจะกลับมาดูว่าใครจะเป็นคนบอกชื่อนายจ้างของตัวเองให้ฉันได้?”
เมื่อพูดเสร็จ ชูฮันก็ตั้งใจจะลุกขึ้น ไม่ปกปิกความต้องการที่จะไปของตัวเอง
ชั้วะ!
ทันใดนั้นมือข้างขวาของต้านฮวงก็กดเข้าที่อาวุธที่ห่อผ้ายาวเอาไว้ ทันใดนั้นเองโต๊ะไม้กลมที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสามคนก็เกิดเสียงบางอย่าง——
โต๊ะไม้หักคาที่ ชุดชงชาและแก้วชาตกลงกระแทกพื้นจนแตกละเอียด!
เจตนาของต้านฮวงนั้นชัดเจน ห้ามไปไหนเด็ดขาด!
สายตาของชูฮันมีแววบางอย่างที่มีเพียงแค่สมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะสามารถเข้าใจได้ ในขณะเดียวกันมือข้างซ้ายของชูฮันก็วาดออกไปเพื่อโจมตีทางด้านขวาที่มือของต้านฮวงไม่ว่างแล้ว
พั้วะ!
การโจมตีเพียงครั้งเดียวหากโดนเข้าเต็มๆตาของต้านฮวง!
เปรี้ยะ!
ดาบยาวที่ส่องประกายวาวถูกชักออกมาจากฟักที่ห่อด้วยผ้าไว้ทันที เส้นลำแสงสีฟ้าที่คุ้นเคยดีปรากฏตามออกมา พร้อมกับพลังผันผวนของวิวัฒนาการระยะ 5 ที่ทะลักออกมาอย่างรุนแรงจนอากาศสั่นสะเทือน!
ติ้ง!
ชูฮันตวัดกริชที่ซ่อนเอาไว้ออกมาปัดการโจมตีของต้านฮวง มองไปที่ด้ามจับของตัวดาบทันทีอย่างสงสัย และเขาก็แน่ใจว่ามันคืออาวุธจากหุบเขาหยินหยาง
ความเป็นไปได้ของอาวุธที่จะมาจากหุบเขาหยินหยางนั้นน้อยมาก โดยเฉพาะคนที่ตอนนี้สามารถเข้าไปถึงตัวหมู่บ้านนั้นเหลือเพียงแค่ไม่กี่คนและยิ่งการได้อาวุธกลับมานั้นยิ่งยากเข้าอีก และตั้งแต่เกิดการปะทุที่เข้าปีที่สองของโลกาวินาศแล้ว ชูฮันพึ่งจะได้พบกับ 3 คนเท่านั้นที่มีอาวุธจากหุบเขาหยินหยาง ซึ่งมันเกินความคาดหมายของชูฮันไปมาก
เทียบกับความตกใจของชูฮัน ต้านฮวงนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ทุกอย่างมันฉายชัดบนสีหน้าของต้านฮวงจนปิดไม่มิด ตาของต้านฮวงแทบทะลุออกมาจากเบ้า เขาจ้องไปที่กริชสั้น สีดำ คมกริบตรงหน้าไม่วางตา
เขารู้ว่าดาบในมือของตัวเองสามารถตัดเหล็กหักได้ เพราะอย่างนั้นต้านฮวงจึงคิดว่าไม่มีใครเหนือกว่าเขาและรอคอยโอกาสนี้มาตลอด ทุกครั้งที่เขาสามารถปลิดชีวิตคนด้วยดาบของเขาได้ ทุกครั้งดาบของเขาก็จะทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ!
แต่ตอนนี้ มันมีอาวุธธรรมดาที่สามารถขวางการโจมตีดาบของเขาได้ และคนคนนั้นก็เป็นชูฮันที่ซึ่งมีอันดับต่ำกว่าตัวเขาหนึ่งระยะ นี่มันจึงเป็นเรื่องที่เหนือเกินความคาดเดาและการรับรู้ของต้านฮวง เขาจะไม่ช็อคได้อย่างไร?
และในขณะที่ต้านฮวงกำลังช็อคอยู่ สมองว่างเปล่าไม่ทำงาน เสียงด้านนอกก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง มันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงของคนที่ตื่นตระหนก วิตกกังวล โวยวายกันใหญ่ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้ามากมายที่วิ่งกรูกันอย่างสิ้นหวัง ทันใดนั้นอุณหภูมิรอบๆก็พุ่งสูงขึ้นอย่างประหลาดๆ
“เร็ว! วิ่ง! เร็วเข้า! ไฟไหม้!”
“ช่วยด้วย! บ้านกำลังไหม้ทั้งหลัง ไฟมันมาจากไหน?”
“พระเจ้า ไฟมันลามใหญ่เกินไป จุดจบมันจะเป็นยังไงเนี่ย?”