Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 68 ไม่เหลือใครอีกแล้ว
ชูฮันถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชน ราวกับฮีโร่ที่พึ่งล้มศัตรูในสงคราม…เป็นผู้ชนะ ความจริงแล้ว มันก็เป็นความจริงเพราะเขาเป็นคนที่สามารถต่อสู้กับซอมบี้จำนวนมากได้ คนพวกนี้เลยบูชาเขา
อย่างไรก็ตาม เฉินเจอฮ่าวไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ่ายของวันนี้ จากนั้นเขาก็หันไปมองซางจิ่วตี้และป่ายหวีเนอเองตามสัญชาตญาณด้วยเพราะผู้หญิงทั้ง2คนนี่ต่างมีเสน่ห์ ความแตกต่างและความงามของพวกเธอทั้ง2นั้นโดดเด่นเหลือเกิน ลมหายใจของเฉินเจอฮ่าวกระตุกไปทันทียามที่เห็นว่าผู้หญิงทั้ง2คนนี่สวยมากขนาดไหน!
มองไปที่ชูฮันที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้หญิงทั้ง2คนนั้น ถึงแม้ชูฮันจะไม่ได้โอบกอดพวกเธออยู่
แต่มันก็ยังน่าหงุดหงิดอยู่ดี จากนั้นก็มองลงไปเจอขวานเหล็กที่ชูฮันถือไว้ในมือ
“พ้ะ! ฮ่าฮ่า!” จู่ๆเฉินเจอฮ่าวก็ยิ้มและหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเขาดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง ทำให้ผู้คนที่อยู่รายล้อมชูฮันเงียบสนิททันที เฉินเจอฮ่าวมองไปที่ชูฮันด้วยสายตาดูถูกพลางชี้ไปที่ขวาน “นี่เป็นขวานจริงๆเหรอ? กินมื้อเย็นพร้อมกับขวาน? นี่มันทำจากพลาสติกหรือเปล่า?
ใช่แล้ว คนทั่วไปจะยกขวานด้วยมือข้างเดียวได้ยังไง? แต่มันดูเหมือนจริงมาก!
พลาสติก?
คำๆนี่ทำให้ผู้คนต่างแสดงสีหน้าแปลกๆออกมาเมื่อได้ยิน พวกเขาได้เห็นพลังของขวานนั่นมากับตา มันทรงพลังขนาดที่ว่าฆ่าซอมบี้ตายทันทีที่โดนขวานฟาดเข้าไปเพียงครั้งเดียว มันจะเป็นพลาสติกไปได้อย่างไร?
“เจอฮ่าว! หุบปากแกซะ!” เฉินเสี้ยนกาวพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด เขาเดินออกมาพูดแทนชูฮันด้วยความภักดี50%อย่างไม่รู้ตัว “ขอโทษชูฮันซะ”
“ขอโทษ?” คำพูดของเฉินเจอฮ่าวกระตุ้นอารมณ์ของเฉินเสี้ยนกาวขึ้นไปอีก “พี่กล้าดียังไงมาบอกให้ฉันที่เป็นเจ้านายรองของที่นี่บอกขอโทษกับคนนอก ไอ้ขยะ ไอ้ทุเรศแบบนี้! เขาคุ้มค่าเหรอไง?”
คำว่าขยะและทุเรศเป็นคำที่เขาใช้พูดบ่อยๆเวลาที่เขาจองหอง เขาพูดมันออกมาเสมอโดยไม่คิด
“เจอฮ่าว! หยุดพูดคำพวกนั้น!” เย๋เฉินที่มีความภักดี30%โพล่งขึ้นมา มันมีสายตาเย็นยะเยือกให้เห็นผ่านแว่นตาของเขา “โตได้แล้ว!”
“ชายหนุ่มที่ดีไม่ควรใช้อารมณ์ของตัวเองในการจัดการปัญหา ขอโทษซะแล้วทุกอย่างจะจบ” จู่ๆเยวจึก็พูดขึ้นมา สายตาของเขาดูแปลกไป มันมีความแนะนำและความห่วงใยลดน้อยลง มีเพียงแต่ความผิดหวังและความรู้สึกหมดหนทางในการช่วย
“พวกพี่พูดแทนคนนอกงั้นเหรอ?” เฉินเจอฮ่าวรู้สึกโมโหจนไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่พอใจอย่างมากพลางชี้ไปที่ชูฮันอย่างดุเดือด “มันเป็นใคร? พวกพี่ถึงต่อกรกับฉันเพื่อไอ้ทุเรศนั่น!”
“แก! แกมัน…!” เฉินเสี้ยนกาวตัวสั่นเทาไปด้วยความโมโหหากเขาไม่สามารถพูดอะไรไม่ดีใส่เฉินเจอฮ่าวได้ด้วยเพราะเขายังรู้สึกผิดที่ตบหน้าน้องชายไปเมื่อตอนบ่าย
“ไอ้ทุเรศ?” ในตอนนั้น เสียงชูฮันก็ดังขึ้นมา น้ำเสียงของเขาฟังดูเหี้ยมโหดพร้อมกับยกเท้าขึ้นและทันทีทันใดทุกคนก็พร้อมใจกันเปิดทางให้เขา
เขาก้าวเท้าเดินมุ่งหน้าไปหาเฉินเจอฮ่าว ลากขวานเหล็กขนาดใหญ่ไปกับพื้นก่อให้เกิดเสียงขูดลากยาวดังเสียดสีลั่นไปทั่วโรงอาหาร ฝีก้าวของเขาดูมีน้ำหนักมากขณะเดินไปจนถึงหน้าเฉินเจอฮ่าวและหยุดลงห่างออกไปไม่ถึง1เมตร ชูฮันจ้องไปที่หน้าของเฉินเจอฮ่าวตรงๆขณะยังคงถือขวานไว้ในมือ
“อะไร แกจะทำอะไร?” เฉิงเจอฮ่าวตกใจกับบรรยากาศที่ชูฮันสร้างขึ้นมา เขารู้สึกกลัว เฉินเจอฮ่าวอวดดีเหลือเกินหากเขาไม่กล้าที่จะต่อสู้กับใครทั้งนั้น
สำหรับชูฮัน เขาเดินผ่านความตายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เขาไม่เคยนับจำนวนคนที่เคยฆ่า…
“ฉันกำลังทำอะไรงั้นเหรอ?” ชูฮันยิ้มมุมปาก ตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงแปลกๆ
เขายกเท้าขึ้นและเริ่มเดินวนรอบตัวเฉินเจอฮ่าว
พ้ะ พ้ะ——–
เสียงฝีเท้าของเขาดังชัดภายในห้องโถงเงียบสนิทที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศหดหู่
ซางจิ่วตี้ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ จู่ๆกลับรู้สึกกังวลขึ้นมา ฉากที่คุ้นเคยทำให้ตาเธอเบิ่งกว้างทันทีด้วยความตกใจ เนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก มันเป็นฉากเดียวกันกับตอนที่ชูฮันฆ่าเจียชุนเจี๋ย และมันเป็นความรู้สึกของการปรากฏตัวของความมืดและความโหดเหี้ยมของความตาย ชูฮัน…เขาอยากจะฆ่าเฉินเจอฮ่าว?!
เพราะเฉินเจอฮ่าวด่าเขาเนี่ยนะ?
“เธอเป็นอะไร?” เลาเสี่ยวเสียวมองไปที่ซางจิ่วตี้อย่างสงสัย เลาเสี่ยวเสียวไม่เข้าใจว่าทำไมซางจิ่วตี้ต้องทำท่าอะไรแบบนั้นด้วยเพราะเธอไม่ได้เห็นภาพการตายของเจียชุนเจี๋ย
ป่ายหวีเนอที่อยู่ข้างเธอนั้นเฉลียวฉลาด เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปากของเธอโค้งจนเป็นรอยยิ้ม เอนตัวพิงไปกับเสาเล็กน้อย
ซางจิ่วตี้ถูกเลาเสี่ยวเสียวดึงออกมาจากขบวนความคิดในหัว เธออยากจะหยุดชูฮันจากการฆ่าเฉินเจอฮ่าว เพราะไม่งั้นพวกเธอต้องรับมือกับความโกรธเกรี้ยวของเฉินเสี้ยนกาว มันเป็นการกระทำโง่เง่าสิ้นดีที่จะมาใครในฐานทัพของเขาระหว่างโลกาวินาศ
ชูฮันหยุดเดินพร้อมกับที่ท่าทีรุนแรงและจิตสังหารฆ่าได้หายไป เฉินเจอฮ่าวเหงื่อท่วมตัวรู้สึกราวกับพึ่งกลับมาจากความตาย เขาอยากจะพูด——
“คุณรู้อะไรไหม?” จู่ๆชูฮันก็จ้องมาที่เฉินเจอฮ่าว สายตาเย็นชาราวกับกำลังมองคนตาย น้ำเสียงของเขายังมั่นคงหากเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
“ฉันจะไม่ปล่อยให้คนที่เรียกฉันว่าไอ้ทุเรศมีชีวิต” ทันทีที่จบคำพูด ขวานในชูฮันก็ร่วงลงพื้น
ปึ้งง!
เสียงกระทบอย่างหนักของขวานที่กระแทกหล่นลงพื้นดังขึ้น จนเกิดรอยร้าวเป็นทางยาว1เมตรและรอยลึกลงไปครึ่งเมตรของพื้นปูนซีเมนต์ ขวานที่ส่องประกายความคมชัดฝังลงไปบนพื้นห่างออกไปเพียงไม่กี่มิลลิเมตรจากนิ้วเท้าของเฉินเจอฮ่าว จนเขารู้สึกได้ถึงความคมของตัวขวาน
ฝุ่นละอองและเศษปูนซีเมนต์ลอยคว้างอยู่ในอากาศขณะที่บางส่วนก็ตกลงตามไหล่และหน้าของเฉินเจอฮ่าว “คุณควรขอบคุณพระเจ้าที่มีพี่ชายที่ดีขนาดนี้” ชูฮันดึงขวานเหล็กออกมาจากช่องปูนบนพื้น ท่าทางสบายๆราวกับมันไม่ได้หนักอะไรเลย ง่ายดายเหมือนกับว่าเขากำลังเด็ดผัก
ชูฮันหมุนตัวกลับ เดินออกไปจากห้องโถง พลางสบตากับเฉินเสี้ยนกาวเป็นนัยๆขณะเดินผ่าน เฉินเสี้ยนกาวมีความภักดีกับเขาถึง 50% แต่น้องชายของเขากลับแตกต่างกันเหลือเกิน
ทั้งห้องโถงกลายเป็นเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาจนกระทั่งพวกเขามองไม่เห็นเงาของชูฮันอีก ทุกสายตาต่างจ้องไปที่รอยร้าวบนพื้นที่ทำจากปูนซีเมนต์ ไม่ใช่ดินหรือเต้าหู้ ขวานตัดผ่านไปอย่างเฉียบคมราวกับมันเป็นพื้นดิน
ไม่! คนที่ใช้ขวานต่างหากที่ยิ่งกว่าเหลือเชื่อ!
เหงื่อของเฉินเสี้ยนกาวไหลตกลงกระทบพื้น มันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะมีความเร็วและความแข็งแรงขนาดนี้! แว่นตาของเย๋เฉินเอียงกะเท่เร่หากตัวเขากลับไม่ได้สังเกตด้วยเพราะความตกใจฉายชัดเต็มในแววตาขณะคิดเกี่ยวกับวิธีที่ชูฮันเหวี่ยงขวานฆ่าซอมบี้โดยใช้แค่มือเดียว! พวกเขาเห็นชูฮันโบกขวานเพื่อฆ่าซอมบี้ตัวสุดท้าย แต่พวกเขาไม่ได้เห็นว่าชูฮันเหวี่ยงขวานยังไงถึงฆ่าซอมบี้ได้หลายร้อยตัว มันพึ่งตอนนี้เองที่พวกเขาพึ่งรับรู้ว่าความร้ายกาจที่แท้จริงของขวานนั่น ในตอนนั้นเองพวกเขารู้สึกว่าความตายกำลังล้อมตัวพวกเขาอยู่ ปีศาจได้เข้ามาในฐานของพวกเขา!