Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 70 มี
“ฝูงซอมบี้?” เฉินเสี้ยนกาวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน พลางพูดออกมาอย่างใจลอย “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่ามันจะมีฝูงซอมบี้?”
“กลุ่มซอมบี้จะรวมตัวกันเพื่อเหตุผลบางอย่าง พวกมันจะเคลื่อนย้ายไปตามที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก” อยู่ดีๆซางจิ่วตี้ก็ตอบคำถามนั่นขึ้นมาเอง
เธอไม่รู้ว่าทั้ง3คนนี่มีความภักดีต่อชูฮัน เธอเพียงแค่อยากรักษาความลับเรื่องที่ซอมบี้มีตัวเหนี่ยวนำความเอาร้อนเอาไว้ เธอทำมันไปโดยไม่รู้ตัวเพื่อปกป้องชูฮัน เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมชูฮันถึงรู้เรื่องซอมบี้มากขนาดนี้และเธอก็ไม่อยากจะไปซักถามอะไรเขา ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเธอได้ทรยศต่อบางอย่างและเริ่มจะเป็นห่วงชูฮันจริงๆขึ้นมา
ชูฮันมองไปที่ซางจิ่วตี้ด้วยสายตาประหลาดใจพลางเริ่มคิดหนัก เขาไม่สามารถเข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของเธอ แต่มันแปลกสำหรับเธอที่พูดอะไรแบบนี้ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้
“ฝูงซอมบี้?” เฉินเสี้ยนกาวและคนของเขาเบิ่งตาโตด้วยความตกใจ
“ไหน? พวกมันอยู่ไหน?” เยวจึกลืนน้ำลายอึก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ “พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่เหรอ?”
ชุฮันกระพริบตา “ฉันเสียใจ…แต่พวกมันกำลังมาที่นี่”
คำพูดของชูฮันทำให้ผู้คนในห้องเงียบสนิททันที
ฐานเสี้ยนกาวอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สู้ดี พวกเขาเลือกที่นี่ด้วยเพราะมันมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่ใช่ทุกเขตจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถทำการเกษตรได้ ตัวเขตให้ความรู้สึกเหมือนกับก่อนหน้าโลกาวินาศ มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยแก่ผู้คน ทุกคนจะไม่ยอมทิ้งสภาพแวดล้อมเช่นนี้ไปแน่
อย่างไรก็ตาม ระดับความอันตรายจะแตกต่างจากปกติโดยสิ้นเชิงเมื่อมันมีฝูงซอมบี้มาถึง มันเป็นเรื่องยากที่จะปกป้องสถานที่ขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้ได้
เย๋เฉินดันแว่นขึ้นเล็กน้อยพลางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กี่ตัว?”
ไม่มีใครสักคนสงสัยชูฮันด้วยเพราะพวกเขาต้องคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ได้
“5พัน หรืออาจจะ1หมื่นตัว?” ชูฮันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “ฉันไม่รู้จำนวนตัวเลขที่แน่ชัด เนื่องจากฉันไม่สามารถเข้าไปสังเกตดูใกล้ๆได้ แต่มันน่าจะมีมากกว่าตัวเลขที่บอกไป ไม่มีทางน้อยกว่านี้!”
คำพูดของชูฮันทำให้ทุกคนในห้องตกใจกันอย่างมาก มันจะมีซอมบี้ถึง1หมื่นตัว!
เขามีคนเพียง1พันคนอยู่ที่นี่ แถมครึ่งหนึ่งยังเป็นพวกคนชรา ผู้หญิงและเด็ก คนที่สามารถสู้กับซอมบี้ได้มีจำนวนน้อยมาก แถมพละกำลังในการต่อสู้ยังมีจำกัด พวกเขาไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับชูฮัน และแค่ใช้คนหนึ่งคนสู้กับซอมบี้3ตัวได้ก็ดีมากเท่าไหร่แล้ว อีกอย่างพวกเขาไม่มีกระสุนพอที่จะฆ่าซอมบี้มากขนาดนั้น
พวกเขามีแต่ความตายรออยู่…
“เป็นไปไม่ได้ พวกมันไม่น่าจะมีมากขนาดนั้น!” เยวจึตัวสั่นเทิ้ม “ฉันไม่เชื่อหรอก มันจะมีซอมบี้เยอะขนาดนั้นได้ยังไง? ซอมบี้100ตัวคือจำนวนมากที่สุดที่พวกเราเจอเวลาออกไปหาของ”
ชูฮันไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่เพื่อพิสูจน์เรื่องที่ตัวเองพูด เขาเลยบอกข้อมูลที่เป็นจริงให้ฟัง
“80%ของประชากรกลายเป็นซอมบี้ เมืองตงมีประชากรถึง3ล้านคน ลองคิดดูสิ”
เงียบเฉียบ———
เยวจึหยุดตะโกน เขารู้ดีว่าที่ชูฮันพูดเป็นเรื่องจริง ความจริงเป็นสิ่งโหดร้ายและจากตามข้อมูลนั่นมันก็เป็นไปได้ที่จะมีจำนวนซอมบี้มากขนาดนั้น!
“เราต้องจากไปที่นี่!” เฉินเสี้ยนกาวเหงื่อแตกท่วมตัว “ทุกคนต้องรีบหนีไปจากที่นี่!”
“เป็นไปไม่ได้!” เย๋เฉินเองก็เหงื่อแตกเช่นกัน เดินวนไปมาต่างจากตัวเขาปกติ เขาเดินย่ำเท้ากับไปมาอยู่ภายในห้องราวกับมดในหม้อร้อน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนกและกังวล “คนส่วนใหญ่ในฐานได้รับการช่วยเหลือจากพวกเราและพวกเขาไม่เคยได้สู้กับซอมบี้ตรงๆเลยสักครั้ง พวกเขาจะต้องไม่เชื่อสิ่งที่เราบอกแน่ๆ สำหรับพวกเขาแล้วชีวิตของพวกเขาเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอพยพพวกเขาทั้งหมด! ”
“เราลืมบอกพวกคุณอีกเรื่องหนึ่ง” จู่ๆป่ายหวีเนอก็พูดขึ้นมา เธอที่ไปชูฮันด้วยสายตาแปลกๆ น้ำเสียงเย็นชาของเธอให้ความรู้สึกราวกับอ่างน้ำเย็นที่สาดใส่หน้าของเฉินเสี้ยนกาว เยวจึและเย๋เฉิน พวกเขากลัวกันมาก “ไม่มีประโยชน์ที่จะย้ายหนีด้วยเพราะพวกซอมบี้มีสัมผัสพิเศษ พวกมันจะเคลื่อนไปตามที่ๆมีคนอยู่หลายคน และมันจะยิ่งรวมตัวกันเยอะขึ้นไปอีกถ้ามีคนอยู่จำนวนมาก เพราะฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะอพยพ”
ป่ายหวีเนอจ้องไปที่ชูฮันตรงๆทันทีหลังพูดจบ รอยยิ้มของเธอดูน่ากลัวมาก
ชูฮันกำลังงง เท่าที่เขารู้ ป่ายหวีเนอไม่น่าจะรู้เรื่องความสามารถของซอมบี้ที่สามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ปล่อยออกมาจากร่างของคนสิ
“เราควรทำยังไงดี? เราควรทำยังไง?” เยวจึนั่งลงกับพื้นกอดหัวตัวเองไว้อย่างรู้สึกหมดหนทาง หากจู่ๆก็ผุดยืนขึ้นและหันไปพูดกับชูฮัน “คุณบอกว่าคุณไม่สามารถเข้าไปสังเกตใกล้ๆได้ แสดงว่าคุณต้องเห็นพวกมันที่ไหนสัก ที่ไหน? นานหรือยัง? ใช้เวลานานมั้ยกว่าจะมาถึงที่นี่?”
คำถามของเยวจึลากชูฮันออกมาจากความคิดตัวเอง ตาของเขาย้ายจากที่มองป่ายหวีเนออยู่ไปมองเฉินเสี้ยนกาวและพรรคพวกแทน “ประมาณ2วัน พวกมันอยู่ฝั่งตรงข้ามของสะพานจากครั้งล่าสุดที่ฉันเห็น พวกมันปิดทางออกจากเมืองไว้”
ถ้า2ประโยคแรกที่ได้ยินฟังดูน่ากลัวสำหรับพวกเขาแล้ว ถ้าอย่างนั่นประโยคสุดท้ายที่ว่า “ปิดทางออก” ก็คงทำให้พวกเขาจิตหลุดกันเลยทีเดียว
พวกเขาไม่มีโอกาสหนีอีกแล้ว…
“คุณ คุณมีทางแก้ไขอะไรมั้ย” เฉินเสี้ยนกาวมองด้วยสายตาหนักแน่นไปทางชูฮัน เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามคำถามแบบนั้น ชูฮันเป็นเพียงนักศึกษาอายุ23ปีที่แค่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป แต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหาทางแก้ไขสำหรับการสู้กับซอมบี้จำนวนมากขนาดนี้ได้
เย๋เฉินขยับแว่นตาให้เข้าที่ ตาของเขามองไปทางเฉินช่าวเย่และเลาเสี่ยวเสียวที่กำลังนั่งอยู่กับพื้น พวกเขากำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่หลังจากกินข้าวเสร็จ คนช่างกินทั้ง2คนนี้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอันตรายที่กำลังมุ่งหน้ามาหาเลย พวกเขามั่นใจว่าตัวเองจะปลอดภัยแน่ๆหรือพวกเขาก็แค่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา?
“คุณมีทางแก้ไขมั้ย?” เฉินเสี้ยนกาวพูดอย่างลงเสียงขณะเอ่ยปากถามชูฮันอีกรอบ
น้ำเสียงของเฉินเสี้ยนกาวเริ่มตึงขึ้นเรื่อยๆยามที่ถามคำถามเหล่านั้น ทุกคนมองไปที่ชูฮัน เยวจึและเย๋เฉินเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง หากขณะเดียวก็รู้สึกสิ้นหวัง พวกเขากำลังรอคำตอบของชูฮันทว่าพวกเขาเองก็เตรียมพร้อมที่จะยอมแพ้เหมือนกัน
“มี” เสียงของชูฮันนิ่งสงบ
“มันไม่สำคัญหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเราสามารถเสียสละได้ ห้ะ! ห้ะ! ห้ะ! อะไรนะ? อะไรนะ? อะไรนะ?” คำพูดของเยวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน นี่เขาได้ยินถูกแล้วใช่มั้ย? ชูฮันพูดว่ามีจริงๆใช่มั้ย?
แว่นตาของเย๋เฉินเอียงจนจะหล่นทันทีโดยที่เขาไม่รู้ตัว ด้วยเพราะเขาขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้ามากเกินไป เฉินเสี้ยนกาวผักไหล่ของชูฮันด้วยความตื่นเต้น “คุณมีทางออก? คุณมีทางออกจริงๆใช่มั้ย? มันคืออะไร? บอกมาเร็ว! เราพร้อมจะทำทุกอย่างที่คุณบอก!”
ชูฮันยิ้มมุมปาก ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่สามารถทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนยอมอพยพไปจากที่นี่ด้วยเพราะพวกเขาไม่มีประสบการณ์ในการจัดการกับมัน ผู้คนในชาติที่แล้วตายเพราะความโง่เขลา
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เพราะเขาอยู่ที่นี่…