Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 71 เข้าใจผิด
มีรายการสิ่งของที่ต้องการเขียนไว้เต็มไปหมดบนกระดาษ วางอยู่บนโต๊ะ
“ฉันต้องการของพวกนี้” เสียงของชูฮันนิ่งเรียบ เขาทำท่าทางสบายๆราวกับหยิบรายการซื้อของใช้ในบ้านออกมา
“พวกคุณออกไปค้นหาสิ่งของต่างๆทุกวันเพราะฉะนั้นพวกคุณน่าจะรู้ว่าต้องไปหาของพวกนี้มาจากไหน”
เฉินเสี้ยนกาวและพรรคพวกก้มลงไปมองรายการของ หนังศีรษะตึงเปรี๊ยและอ่อนล้าทันทีที่เห็นรายการของและวัสดุมากมายที่ชูฮันต้องการ
“เตรียมของเยอะขนาดนี้ภายใน2วันเนี่ยนะ?” เยวจึพูดขึ้น รู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมา
“จำนวนไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกเราสามารถหาของพวกนี้ได้ทั้งหมด แต่…” เฉินเสี้ยนกาวนิ่วหน้า มองมาอย่างสงสัย “พวกมันมีประโยชน์จริงๆเหรอ?”
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะต้องการถังแก๊สซะอีก แต่มันเกินความคาดหมายฉันมากที่สิ่งเหล่านี้เป็นของที่คุณต้องการให้เราไปหา” เย๋เฉินขยับแว่นสายตาพร้อมกับคิดอยู่ในหัว
ตาของชูฮันเป็นประกายวาบขึ้นมาเล็กน้อย “สิ่ของพวกนี้ก็คือขยะดีๆนี่เอง”
“ใช่! คุณพูดถูก ของพวกนี้ถือว่าเป็นของเสียในโลกาวินาศ” เฉินเสี้ยนกาวพยักหน้ารับอย่างแรงพร้อมกับมองไปทางชูฮันด้วยสายตาขัดแย้ง “คุณจะเอาของพวกนั้นไปใช้ยังไง?”
“คุณจะรู้เองเมื่อเวลานั้นมาถึง” ปากของชูฮันยกโค้งเป็นรอยยิ้ม
“ดี!” เฉินเสี้ยนกาวหลุดหัวเราะอย่างมีความสุขและรีบกลับมายืนนิ่งเหมือนเดิมทันที
ตอนนี้ความหวังได้แผดเผาไปทั่วหัวใจพวกเขาแล้ว พวกเขารู้สึกสิ้นหวังตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้แล้วด้วยเพราะมั่นใจว่าต้องตายแน่ๆ แต่ชูฮันกลับออกมากั้นซอมบี้ไว้ให้เพื่อให้พวกเขาหนีออกมา จากนั้นชูฮันก็สร้างปฏิหารย์ให้เห็นเขาได้เห็นกัน…ซอมบี้ราว500ตัวถูกกลายเป็นซากศพแทน
ในตอนนี้พวกเขาได้รับแสงแห่งความหวังในช่วงเวลาที่พวกเขารู้สึกสิ้นหวังกับชีวิต พวกเขาหวังว่าชูฮันจะสร้างปฏิหารย์ให้พวกเขาได้เห็นอีกครั้ง
“พวกคุณควรพักผ่อนซะคืนนี้ ปล่อยหน้าที่ลาดตระเวนเป็นของพวกเราเอง” เฉินเสี้ยนกาวพูดออกมาอย่างดังเพื่อสร้างกำลังใจให้ทุกคน
“ดีเลย!” เยวจึตะโกนขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ฉันจะตามพวกนั้นไปเอง” เย๋เฉินที่เคยเงียบมาตลอดอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“งั้น พวกเราไปแล้วนะ!” เฉินเสี้ยนกาวขยิบตาให้ชูฮันพลางมองไปทางซางจิ่วตี้และป่ายหวีเนอ ชูฮันรู้สึกงงนิดหน่อย จากนั้นเฉินเสี้ยนกาวก็หันไปพูดกับเฉินช่าวเย่และเลาเสี่ยวเสียว “ฉันเตรียมห้องสวีทอีกห้องไว้พวกคุณแล้ว มันมีห้องน้ำดีๆอยู่ในห้องด้วย พวกคุณผักผ่อนให้สบายนะ อย่าไปสนใจพวกนี้เลย”
“อะไร?” เฉินช่าวเย่สับสน “ฉันนอนบนพื้นได้นะ”
เลาเสี่ยวเสียวเอามือปิดหน้า หน้าของเธอเต็มไปด้วยความโมโหที่เฉินช่าวเย่ไม่เข้าใจว่าพวกนั้นต้องการจะสื่ออะไร เธอยืนขึ้น เตะไปที่ก้นของเฉินช่าวเย่ และก็หันไปยิ้มให้ชูฮัน “พี่ชู เราจะไม่ไปรบกวนพี่ ทุกช่วงเวลาของคืนเข้าหอมีค่า!” “ไป!ไป!ไป!”
เลาเสี่ยวเสียวลากเฉินช่าวเย่ออกมาหลังจากพูดจบ ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหกปากของเขา จากนั้นก็พูดขึ้น “เราจะไปเดี่ยวนี้ พี่อยากทำอะไรก็เชิญเลย พวกเราจะไม่ไปรบกวนพี่คืนนี้แน่นอน!”
ปัง!
เสียงปิดประตูอย่างดัง ขณะที่ทุกคนต่างรีบออกไปจากห้องกันอย่างไว เหลือเพียงแค่ชูฮันและผู้หญิงอีก2คนที่มีลักษณะต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งดูเป็นผู้หญิงเด็ดเดี่ยวพร้อมกับรูปร่างอันเร้าร้อน ขณะที่อีกคนกลับดูเย็นชา
แสงจากเปลวเทียนที่กระทบบนหน้าและรูปร่างของพวกเธอสะท้อนให้พวกเธอดูสวยงามขึ้นไปอีก ดูมีเสน่ห์เย้ายวนมากยิ่งขึ้น
หน้าของซางจิ่วตี้แดงก่ำ เธอนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้ไม่รู้ว่าจะวางมือตัวเองไว้ตรงไหน
มีบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจและอากาศร้อนเล็กน้อยในห้อง ชูฮันมองผ่านพวกเธอไป กวาดสายตาสำรวจรอบห้องแทนและเจอเตียงที่นอนพอสำหรับคน3คน
“ทุกช่วงเวลาของคืนงานแต่งงานมีค่า?” จู่ๆป่ายหวีเนอก็พูดขึ้นมา เจตนาสังหารของเธอสามารถแช่แข็งคนได้
จู่ๆซางจิ่วตี้ก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมา เธอมองไปที่ชูฮัน
คร่อก—–คร่อก——
ชูฮันหลับไปแล้ว มีเสียงหายใจเข้าออกของเขาดังขึ้น
แม่ง! ซางจิ่วตี้อดไม่ได้ที่จะก่นด่าเขาในใจ เขากล้าดียังไงมาหลับใส่เธอ?!
“ได้!” ซางจิ่วตี้ยืนขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอนทันที
ปัง—–
ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังสนั่น ชูฮันลืมตาขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับตัวเขาที่เหงื่อโชก แม่ง! โชคดีนะที่เขาแกล้งหลับ ไม่อย่างนั้นป่ายหวีเนอคงฆ่าเขาไปแล้ว!
————–
เช้าต่อมาของวันที่สอง ชูฮันตื่นขึ้นมาตอนเช้า มีแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้อง แต่มันก็ยังไม่ได้สว่างมากเท่าไหร่ด้วยเพราะยังคงมีหมอกข้างนอกให้เห็นอยู่ แต่มันน่าจะประมาณบ่ายได้แล้ว
ชูฮันรู้สึกสับสนด้วยเพราะเขาไม่ได้นอนหลับยาวแบบนี้มานานมากแล้ว เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือเพราะเขาเหนื่อยมากหลังจากฆ่าซอมบี้จำนวนมากไป?
ชูฮันมองไปทางประตูห้องนอนที่ปิดอยู่ พวกเธอยังไม่ตื่นงั้นเหรอ? ชูฮันนิ่วหน้าด้วยเพราะผู้หญิงทั้ง2คนนั้นน่าจะไม่นอนหลับนานขนาดนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก——-
เสียงเคาะประตูที่ดูเป็นจังหวะดังขึ้น เสียงของเย๋เฉินดังลอดผ่านประตูเข้ามา “ชูฮัน ฉันเอง”
ชูฮันเดินตรงไปที่ประตูและเปิดออกทันทีพร้อมกับเชิญให้เย๋เฉินเข้ามาในห้อง
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างในห้องที่ผู้หญิง2คนนั้นนอนอยู่!
ประตูเปิดออกมา…
ซางจิ่วตี้และป่ายหวีเนอเดินออกมาจากห้องนอนและเดินไปทางโต๊ะเพื่อทานอาหารเช้า มันดูแปลกมากด้วยเพราะพวกเธอดูตัวซีดหลังจากได้นอนหลับผักผ่อนมาเต็มที่แบบนี้ แถมยังเดินท่าทางโซเซเล็กน้อย
ชูฮันจ้องไปที่พวกเธอและถามเย๋เฉินถึงของที่เขาต้องการ
“คุณหาของได้มั้ย?”
“ใจเย็นหน่อย! ของพวกนั้นมีจำนวนเยอะจะตาย” เย๋เฉินเดินทางโซฟาเพื่อจะรายงานถึงสถานการณ์ให้ชูฮันฟัง หากก็รีบถอยหลังกลับทันทีด้วยใบหน้าอายๆ
“ขอโทษ ขอโทษ นี่ฉันเข้ามาผิดเวลาใช่มั้ย?”
ชูฮันมองเขาด้วยสายตาแปลกๆด้วยเพราะไม่เข้าใจว่าเย๋เฉินหมายถึงอะไร
“ฉันขอโทษ! ฉัน…ฉัน…ฉัน…ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เย๋เฉินพูดขึ้นอย่างอายๆถึงแม้แววตาของเขาจะยังคงมองเข้าไปในห้อง ท่าทางแปลกๆของเขาดูเหมือนกับคนที่พึ่งเจออะไรไม่ดีมา
อะไร? ชูฮันมองตามสายตาของเย๋เฉินไป มองเข้าไปในห้องนอนที่ทำให้เย๋เฉินอายขึ้นมา ทุกอย่างก็ปกติ มีเตียงนอนที่ผู้หญิง2คนนอน ชูฮันมองตามสายตาของเย๋เฉินเข้าไปในห้องนอน บนผ้าปูเตียงสีขาวนั้น….
“เ*ยเอ๊ย!” ชูฮันอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
บนผ้าปูเตียงสีขาวนั้น มีรอยเลือดสีแดงอยู่2จุดที่เห็นได้ชัดอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก….
ช่างโชคไม่ดี จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีก