Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 727 ก็คือฉันที่เป็นหัวหน้าพวกนายนั่นแหละ
ตอนที่ 727 ก็คือฉันที่เป็นหัวหน้าพวกนายนั่นแหละ
สิบวันต่อมา ชูฮันและทีมกุ้งเสือดําที่มุ่งหน้าอย่างรวดเร็วก็มาถึงทางเข้าของเมืองหนานในที่สุด ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาสิ้นเดือนกรกฎาคมพอดี
ค่ายหนานตู้เป็นค่ายหนึ่งในสามอันดับสูงสุดของจีน การก่อสร้างต่างๆนั้นงดงามเทียบเท่าได้กับซางจิงเลย แม้แต่การก่อสร้างกําแพงรอบๆก็ยังมีความสูงมากกว่าซางจิง ด้วยซ้ำ
“นี่คือค่ายของฉางกวนหลงสินะ?” หวังไคเอ่ยถามในหัวอย่างสงสัย “เป็นค่ายที่สุดย อดไปเลย! มันใหญ่โตมากกําแพงก็สูงลิ่ว! มีคนอาศัยอยู่ที่นี้กี่คนกัน?”
ชูฮันหยุดอยู่ตรงด้านนอกของประตูทางเข้าห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร เมื่อยืนมองห่างออกไปจะสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมที่ใหญ่โตได้ทั่วทั้งหมด
ค่ายหนานตู้เป็นเหมือนกับยกใจกลางเมืองของเมืองหนานตู้ขยายออกมาไว้ที่นี้แทน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มองออกว่ามันมีกี่ชั้นภายในเมือง แต่ด้วยสถาปัตยกรรมของค่ายหนานตู้ในตอนนี้ เทียบกับความสามารถและเงินทุนของค่ายเขี้ยวหมาป่าในตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถสร้างสถาปัตยกรรมเช่นนี้ได้แน่นอน มันแสดงให้เห็นว่าค่ายหนานตู้มีทรัพยากรทางการเงินที่แข็งแรงมาก และมีฐานผู้คนจํานวนไม่น้อย
สถาปัตยกรรมเป็นเหมือนกับภาพลักษณ์ของค่ายหนานตู้ อิฐทุกก้อนเชื่อมกันอย่างสม บูรณ์แบบอาคารต่างๆเรียงต่อเนื่องกันอย่างสวยงาม ทั้งค่ายดูเป็นหนึ่งเดียวและสวยงาม มันมีเอกลักษณ์และโดดเด่นกว่าค่ายไหนๆ
เพียงแค่หนึ่งปีหลังจากการปะทุของโลกาวินาศ การที่ค่ายแห่งสามารถสร้างขึ้นได้ถึงระดับนี้ มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถของฉางกวนหลง
“ค่ายแห่งนี้สวยงามมาก มันดีกว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าตั้งหลายเท่า!” หวังไคตื่นเต้นอย่างมาก “แต่ตอนที่ฉันเจอฉางกวนหลงครั้งที่แล้วในซางจิง เขาจ้องนายแปลกๆ”
ชูฮันกระพริบตาและเอ่ยตอบ “ฉันไม่ได้ยั่วยุฉางกวนหลงเลยนะ”
หวังไคแทบจะแหกปาก “ฉันหมายถึงชูฮัน นายจนจริงๆนะ ทั้งค่ายเขี้ยวหมาปากสภาพแย่มากๆ”
สีหน้าของชูฮันถึงทิ้งทันที น้ําเสียงเยือกเย็น “ค่ายนี้ดูดีนี่ และฝูงซอมบี้ก็รอที่จะครองเมืองอ
“นายก็เป็นนายไม่เปลี่ยน!” หวังไคแสนจะเบื่อหน่าย มันหรี่ตามองเสาหินยักษ์ใหญ่ที่ไม่สามารถเมินเฉยได้ มันตั้งอยู่ถัดไปจากค่ายหนานตู้ “และมันก็ยังมีเสาหินอยู่ในพื้นที่ เหมือนกับค่ายซางจิงที่มีเสาหินอยู่ข้างนอกค่าย ท่านผู้นําของค่ายพวกนี้ถึงมีอํานาจและเงินมากมาย แต่พวกเขารีบสร้างค่ายทันทีที่เสาหินปรากฏขึ้นทันได้ยังไง?”
“ไม่ใช่พวกเขาเลือกสร้างค่ายใกล้กับเสาหินหรอก แต่เป็นเสาหินต่างหากที่หาพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เยอะ” หลังจากประเมิณทุกอย่างเสร็จ ชูฮันก็ก้าวเท้าออกนํา เช่นเดียวกับทีมกุ้งเสือดําที่ตามเขาไปทันทีโดยไร้ซึ่งคําถามใดๆ
เมืองหนานตู้มีคนอาศัยอยู่มากกว่าซางจิง ทั้งยังมีตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ค่อนข้างใหญ่และมีการกระตัวของผู้คนใหญ่เช่นกัน อีกทั้งมันยังง่ายต่อการเดินทางไปยังซางจิง ถึงอย่างไรการเดินทางไปซางจิงจะต้องมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ซึ่งเส้นทางจากเมืองหนานตู้นั้นค่อนข้างสะดวกที่สุดแล้ว
ดังนั้นแม้แต่ตอนนี้ ในเวลาเช้าตรู่มันจึงมีผู้คนจํานวนมากยืนรอคิวเรียงแถวกันอยู่หน้าทางเข้าประตูค่ายหนานตู้ มีหลายทีมที่เดินทางมาจากถนนหลายเส้นมารวมตัวกันรอด้านหน้าทางเข้า แสดงให้เห็นถึงความนิยมของค่ายหนานตู้
เมื่อตอนที่ชูฮันมาถึงประตูค่ายพร้อมกลับทีมกุ้งเสือดํา 50 คน กลุ่มของชูฮันจึงกลายเป็นที่สนใจของบางคน ถึงอย่างไรแล้วทุกคนที่มาที่นี้ล้วนเป็นคนธรรมดาที่มาจากเมืองอื่นทั้งนั้น มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ คนธรรมดาจึงดูไม่ออกว่ากลุ่มของชูฮันเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ เขาจึงไม่ได้ที่สนใจของใครมากนัก
ไม่มีใครคิดสนใจ ชูฮันจึงปล่อยตัวตามสบาย แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าเมื่อได้เห็นอันดับรายชื่อตรงหน้า ก่อนหน้านี้ชูฮันมองไม่เห็นเพราะระยะที่ห่างไกล เพราะงั้นตอนนี้เขาจะขอดูสักหน่อย
เพราะก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่อยู่ในเมืองหนานตู้ หลังจากออกมาจากการประเมิณพิเศษชูฮัน ก็ปะทะเข้ากับฝูงซอมบี้มหาศาลทันที เขาจึงไม่มีโอกาสได้ดูความสําเร็จของเขาบนการประเมินการต่อสู้โดยรวมเลย แล้วหลังจากนั้นเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท
ในขณะที่ชูฮันพุ่งความสนใจของเขาไปที่อันดับรายชื่อบนเสาหิน เสียงสนทนาถกเถียงเกี่ยวกับอันดับรายชื่อก็ยังไม่ได้หยุดลง กลุ่มคนธรรมดานั้นเกิดความสงสัยอย่างมากกับรายชื่อและรหัสต่างๆบนอันดับ
“การจัดอันดับใหม่นี่เป็นเรื่องดีมั้ย!”
“นายไม่รู้เหรอไง? นี่แหละคือที่ที่มีแต่ระดับพระเจ้าอยู่กัน!”
“ฉันไม่รู้จักคนพวกนี้เลย นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเสาหิน”
“ใช่ ฉันได้ยินว่ามีวิวัฒนาการระยะ 5 คนใหม่เข้าไปทําการทดสอบประเมิณการต่อสู้โดยรวม!”
“ไม่ใช่แค่นั้น วิวัฒนาการระยะ 5 หลายคนที่เข้าไปทําการทดสอบครั้งแรกผลออกมาคือชื่อแต่ละมันประหลาดทั้งนั้น!”
“ใช่ แต่คนพวกนี้ประหลาดจริงๆ อันดับที่สามคือราชานักล่า สองคนแรกก็กษัตริย์กับจักรพรรดิ นี่มันตลกอะไรกัน?”
“ชูวววว! อย่าพูดดังสิ รู้หรือเปล่าสองอันดับแรกเป็นใคร? พวกเขาอาจจะตามล่านาย!”
“ไอ้หัวล้าน ฉันแค่พูดถึง – -“
“นายว่าจักรพรรดิที่ได้อันดับหนึ่งในการประเมินการต่อสู้โดยรวมแข็งแกร่งกว่าพลเอกชูชันที่มักได้รับคะแนน S+ ติดต่อกันทุกการทดสอบมั้ย?”
“ไร้สาระ!” คนหนึ่งตอบทันทีพร้อมกับเบิกตากว้าง หากแล้วเขาก็สังเกตได้ว่าตัวเองเสียงดังเกินไป ก็รีบลดเสียงลงทันที “นี้มันไร้สาระ จักรพรรดิเป็นที่หนึ่งในการประเมิณการต่อสู้โดยรวม ส่วนชูฮันเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 4 แม้จะเป็นที่หนึ่งในวิวัฒนาการระยะ 4 แต่เขาไม่มีทางเทียบเท่ากับวิวัฒนาการระยะ 5 ได้?”
“นั่นสิ” คนข้างๆตอบรับทันที “การประเมิณการต่อสู้โดยรวมนั้นมีเพียงแค่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถเข้าไปทําการประเมิณในเสาหินได้ และชูฮันยังไม่มีคุณสมบัติพอ!”
“จักรพรรดิเป็นคนแรกในจีนที่สมควรได้รับตําแหน่งนี้ เขาเป็นอันดับที่หนึ่งของการประเมินการต่อสู้โดยรวม ดันทุกคนตกลงมา ซึ่งระยะที่ต่ําที่สุดคือวิวัฒนาการระยะ 6 แสดงว่าตัวจักรพรรดิจะต้องเป็นไม่ระยะ 7 กระยะ 8 อย่างแน่นอน ฉันมั่นใจ!”
“คนแบบนี้สุดยอดจริงๆ เขาทรงพลังเกินไป และสามารถกลบความดันของชูฮันได้มิด”
เมื่อได้ยินคําพูดพวกนี้ใกล้ๆหู เสี่ยวเดินที่ยืนอยู่ข้างหลังชูฮันก็นิ่วหน้าและเอ่ยกระซิบกับฮัน “หัวหน้าครับ ผมไม่คิดว่าภายในสิบวันของการเดินทาง จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นําของรายชื่อแล้ว คนที่เอาชนะกษัตริย์ขึ้นไปได้จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยชื่อจักรพรรดิครองอันดับที่หนึ่งแทน แสดงให้เห็นถึงพลังอํานาจที่มหาศาลของเขา”
“ถูกต้อง” จางโบฮั่นที่ไม่ปล่อยโอกาส รีบเข้าร่วมการสนทนาอย่างสนุก “เราต้องหาให้ได้ว่าคนที่อยู่บนรายชื่อเป็นใครบ้าง โดยเฉพาะจักรพรรดิที่ได้อันดับหนึ่ง? หัวหน้า หัวหน้าไปเข้าร่วมการประเมิณการต่อสู้โดยรวมนี้ แล้วก็เอาชนะไอ้หมอนี่ให้หน้าหงายไปเลย!”
ชูฮันยกยิ้มมุมปาก ก็จักรพรรดิที่พูดถึงก็คือฉันที่เป็นหัวหน้าของพวกนายนั่นแหละ!