Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 73 วางปืนลงและเดินออกไป
เก็บกวาดขยะให้หมดแล้วเขาถึงจะอยู่ฐานทัพนี่ต่อได้?
มีความล้อเลียนฉายวาบผ่านในแววตาของชูฮัน เขาไม่คิดจะสนใจเฉินเจอฮ่าว ช่างน่าสมเพชนักที่เฉินเสี้ยนกาวที่ทรงพลังและมีความภักดีต่อเขาถึง50%กลับมีน้องชายแบบเฉินเจอฮ่าว
“หยุดอยู่ตรงนั้น! ฉันบอกให้แกไปได้หรือไง? แกคิดว่าฉันจะไม่กล้ายิงแกเหรอไง?” เฉินเจอฮ่าวตะโกนออกมา ความโกรธของเขาถูกกระตุ้นโดยท่าทางไม่แยแสและท่าทางของชูฮัน เขายกปืนขึ้น ตอนนี้เฉินเสี้ยนกาวไม่อยู่ที่ฐาน เพราะฉะนั้นจะไม่มีคนมาห้ามไม่ให้เขาฆ่าชูฮันได้
ปัง——-
มีเสียงปืนยิงออกมาโดยไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้าใดๆ
แม้จะมีเสียงปืนยิงดังออกมา ทว่าชูฮันยังคงดูไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเลย เขาเดินไปข้างหน้าลงฝีเท้าเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ
“ไปตายซะไอ้เวร! แกกล้าดียังไงมาเล็งปืนใส่หัวหน้าฉัน?!” น้ำเสียงที่โมโหจัดของเฉินช่าวเย่ดังก้องไปทั่วบริเวณ
มีฝุ่นควันขาวลอยฟุ้งกระจายอยู่ตรงเท้าของเฉินเจอฮ่าว กระสุนเกือบจะยิงโดนเขาแล้ว! เฉินเจอฮ่าวเนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัวพร้อมกับทิ้งปืนลง
ท่าทางนิ่งสงบของชูฮันทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆที่กำลังขนของอยู่ตรงทางเข้าออกของเขตตกใจกันหมด เฉินเจอฮ่าวน่าจะยิงชูฮันไปแล้วเพราะเฉินเสี้ยนกาวไม่ได้อยู่ที่ฐาน ทำไมเขาถึงดูไม่กลัวเลย?
เอี๊ยดดด—–
ทันใดนั้น ก็มีรถกระบะขับมาหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าผู้คน เฉินเสี้ยนกาวที่ตัวชุ่มเหงื่อลงมาจากรถและบอกให้คนในรถกระบะขนของลงมาอย่างแข็งขัน “ให้ไว! ขนของลงมา! เราต้องออกไปอีกคืนนี้!”
หากจู่ๆเขาก็หยุดพูดกลางคันเมื่อหันมาเห็นปืนของเฉินเจอฮ่าวที่ตกอยู่บนพื้น เฉินเสี้ยนกาวนิ่วหน้าทันทีด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่!” เฉินเจอฮ่าวตะโกนขึ้นแฝงไปด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “พี่ปล่อยให้คนอื่นยิงใส่ฉันได้ยังไง? ดูฝีมือพวกคนที่พี่พามาที่ฐานทำสิ พวกมันเกือบจะฆ่าฉันแล้ว!”
เฉินเสี้ยนกาวนิ่วหน้าขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องไปที่เฉินช่าวเย่ เงาของชูฮันเริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เฉินช่าวเย่ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้น เขาแค่อยากคอยปกป้องชูฮัน
เฉินช่าวเย่ปกป้องชูฮันจริงๆงั้นเหรอ? สาเหตุคืออะไร? สิ่งที่ทำให้เฉินช่าวเย่กังวลมากที่สุดก็คือคนในฐานทัพที่ดูมีท่าทางคุกคามต่อชูฮันและกลุ่มของเขา เพราะมันไม่มีซอมบี้สักตัวที่ฐานทัพนี้
เฉินเสี้ยนกาวเป็นทหารผ่านศึก เพราะฉะนั้นเขาเข้าใจสถานการณ์ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และรู้ดีว่าเฉินเจอฮ่าวกำลังโกหก
“เลิกตะโกนซะที!” เย๋เฉินที่เป็นพยานกับเหตุการณ์ทั้งหมดเผยตัวขึ้นพร้อมกับวิ่งไปทางประตู ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมากก่อนที่เขาจะได้ทันห้ามอะไร เย๋เฉินขยับแว่นตาเล็กน้อยจากนั้นก็ออกคำสั่งกับคนงาน “พวกแกควรจะช่วยกันขนของต่อไป ส่วนแก…เฉินเจอฮ่าว ควรจะอยู่ในห้องตัวเอง”
เขาจัดการทุกอย่างเพื่อทำให้สถานการณ์สงบขึ้น เฉินเจอฮ่าวเป็นน้องเล็กสุดของเพื่อนรักของเขา ส่วนขณะกลุ่มของชูฮันก็ทรงพลังอย่างน่าเกรงขาม เขาปวดหัวกับการจัดการแต่คนละ
เย๋เฉินไม่ได้พูดอะไรถึงชูฮันหรือตำหนิเฉินช่าวเย่ที่ยิงปืนเตือนใส่เฉินเจอฮ่าว กลับกันเขาเลือกที่จะบอกให้เฉินเจอฮ่าวกลับไปที่ห้องตัวเอง เย๋เฉินเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดที่เฉินเสี้ยนกาวเคยเจอ เพราะฉะนั้นมันน่าจะมีเหตุผลดีๆในการเลือกที่จะจัดการทุกอย่างออกมาแบบนี้ เขาคาดได้ว่ามันน่าจะเป็นความผิดของเฉินเจอฮ่าวแน่ๆ “แกทำอะไรลงไป?!” เฉินเสี้ยนกาวตะคอกถามเฉินเจอฮ่าวอย่างโมโห
“ฉันทำอะไร??? นี่พี่พึ่งถามว่าฉันทำอะไรงั้นเหรอ?” เฉินเจอฮ่าวอบกลับด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “นี่พี่ยังคิดว่าฉันเป็นน้องพี่อยู่รึเปล่า? พี่ถูกคนอื่นล้างสมองไปแล้วเหรอไง? เมื่อวานนี้ฉันเกือบจะถูกหั่นเป็นชิ้นอยู่แล้ว พี่ไม่สู้เพื่อฉันเลยด้วยซ้ำ แถมวันนี้ฉันเกือบจะโดนยิงแต่พี่ยังมาด่าฉันอีกเนี่ยนะ!”
เฉินเสี้ยนกาวก้มหน้าลงอย่างหนักใจกับสถานการณ์ ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้น
“ส่วนแก!” เฉินเจอฮ่าวมองไปทางเย๋เฉิน “แกก็เป็นแค่คนรับใช้ กล้าดียังไงมาออกคำสั่งฉัน? แกอยากจะให้ฉันอยู่ในห้องฉันงั้นเหรอ? แกอยากจะขังฉันไว้ใช่มั้ย? กล้าดียังไงไปร่วมมือกับคนนอก? ตอบมาสิ! แกวางแผนจะก่อกบฎกับชูฮันใช่มั้ย?!”
“คนรับใช้? ก่อกบฎ?” เย๋เฉินมองไปทางคนที่เขารู้สึกแปลกแต่กลับคุ้นเคย เขาโตมากับเฉินเสี้ยนกาว ดังนั้นเขาก็เลยปฏิบัติกับเฉินเจอฮ่าวเหมือนกับเป็นน้องชายตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เด็กหนุ่มคนที่พูดจาแบบนี้?
เฉินเจอฮ่าวเดินไปเตะหนึ่งในกล่องจำนวนมากที่วางอยู่บนพื้น
ปัง! แรงเตะทำให้กล่องคว่ำลงมา ของต่างๆที่อยู่ข้างในกระจายกันไปทั่วพื้น
“ดูของพวกนี้!” เฉินเจอฮ่าวแหกปากสบถด่า “ไอ้พวกเ*ย นี่พวกแกงี่เง่ากันไปหมดแล้วเหรอไง? แกเอาของพวกนี้มาใช่มั้ย? มันมีประโยชน์ในโลกาวินาศเหรอ? พวกโสเภณียังมีค่ามากกว่าของพวกนี้เลย!”
ของต่างๆที่อยู่ภายในกล่องที่โดนเฉินเจอฮ่าวเตะกระจายไปทั่วพื้น มันมีแต่กล่องที่เต็มไปด้วยโทรศัพท์ หน้าจอที่เรียบๆในตอนนี้กลับกลายเป็นเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนด้วยเพราะลื่นไถลไปกับพื้น
ปัง!
เฉินเจอฮ่าวเตะไปที่อีกกล่อง ของที่อยู่ในกล่องตกกระจายออกมา มันมีแต่โน้ตบุ้คเต็มไปหมดในกล่อง
6ชั่วโมงของความมืดมิดของวันเริ่มแรกของโลกาวินาศได้เปลี่ยนให้ของพวกนี้กลายเป็นของไร้ค่าไปเลย ทุกคนรู้ดีว่าโทรศัพท์และโน้ตบุ้คไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว แม้แต่คนที่มีความสามารถเกี่ยวกับอุปกรณ์พวกนี้ยังไม่รู้สาเหตุเลย แต่มันแน่ชัดแล้วว่าของพวกนี้กลายเป็นไร้ค่าไปแล้ว
“โทรศัพท์มือถือ? โน้ตบุ้ค?! พี่เป็นบ้าไปแล้วเหรอไง?!” เฉินเจอฮ่าวมองไปที่ทุกคนอย่างโมโห คิดว่าตัวเขาเองถูก “ของพวกนี้มันไร้ประโยชน์! แต่ชูฮันกลับสั่งให้คนในฐานไปหาของพวกนี้มาให้ตัวเองเนี่ยนะ คนมากมายที่ต้องออกไปทำงานนี้ให้มัน มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทำเรื่องแบบนี้!”
คำพูดของเฉินเจอฮ่าวแทงใจเฉินเสี้ยนกาว บ้า? เฉินเจอฮ่าวพูดแบบนี้กับคนที่ดูแลเขามาทั้งชีวิตแบบนี้ได้ยังไง?
ผู้คนในฐานที่ออกกันไปทำฟาร์มพืชผักผลไม้ที่ปลูกกันไว้เริ่มกลับกันมาแล้วพร้อมเสื้อผ้าที่เลอะ รวมไปถึงเหล่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหมิงชิวด้วย พวกเขาต่างมองมายังพวกของที่หล่นกระจายกันอยู่บนพื้นด้วยตาโต ความผิดหวังและสายตามุ่งร้ายพุ่งมาใส่เฉินเสี้ยนกาว
“พวกเราทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อปลูกผักผลไม้และให้อาหารพวกหมู แต่พวกคุณกลับได้ของพวกนี้กลับมา?”
“เราต้องการอาหาร ไม่ใช่ของไร้ประโยชน์พวกนี้!”
“โน้ตบุ้คและโทรศัพท์มันไร้ประโยชน์!”
“เจ้านายใหญ่ คุณทำให้พวกเราผิดหวัง!”
“ทำไมเจ้านายถึงเชื่อในตัวชูฮัน? ทำไมถึงต้องทำทุกอย่างตามที่เขาขอ?”
“เจ้านายรองพูดถูกแล้ว ชูฮันเป็นคนโง่ที่แค่มีร่างกายแข็งแรง โยนมันออกไปจากค่ายซะ!”
“ช่างน่าสมเพช! ของพวกนี้มันไร้ประโยชน์!”
ต้วนหมิงที่อยู่ในกลุ่มคนเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้น ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ไอ้โง่ชูฮันนั้นบอกให้ไอ้พวกนั้นไปเก็บของพวกนี้มาจริงๆเหรอ? เยี่ยมจริงๆ! มันน่าจะถูกไล่ออกไปจากค่ายนี้!
ติงเซวเองก็ทำงานในส่วนของเธอเหมือนกัน เธอรู้สึกสับสนว่าชูฮันต้องการของพวกนี้ไปทำอะไรกันแน่?
ตอนที่แล้ว